ผู้จัดการรายวัน - “สดศรี” ออกลาย ระบุรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ตัวเองช่วยยกร่างเป็นยาแรงเกิน เขียนหวังอุดช่องโหว่สมัยทักษิณ เพ้อถ้าใช้ต่อไปจะมีแต่คนสิ้นเนื้อประดาตัวเดินเข้าสภาฯ ถอดใจถ้าแก้ รธน.ได้ กกต.ขอแค่เป็นเสมียนเลือกตั้งไม่ต้องมีอำนาจชักใบเหลือง-แดง “สมชัย” ประสานเสียงพ้อเน้นแต่จับผิด “ชูศักดิ์” เผยยังไม่เอาญัตติแก้รธน.เข้าสภาฯ
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวระหว่างนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา และคณะเข้าเยี่ยม กกต.ว่า ยอมรับว่า กกต.ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่ยืนยันว่า กกต.ทั้ง 5 มาโดยชอบ การที่จะมีการยื่นเรื่องให้พิจารณาคุณสมบัติของ กกต.ก็เป็นหน้าที่ของ ส.ว.ที่จะพิจารณาตีความ ซึ่งจะส่งผลต่อ ส.ว.ที่ กกต.รับรองไปทั้งหมด การที่ กกต.เราไม่ตอบโต้จากการถูกโจมตีเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นกรรมเก่า
นางสดศรี ซึ่งเป็นอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยว่า ในฐานะที่เข้าไปร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้หวังดีต่อกระบวนการประชาธิปไตย ต้องการให้ได้ ส.ส.และ ส.ว.ที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง เพียงแต่กระบวนการในการร่างกับมีตัวตั้งคือเอาปัญหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นพื้นฐาน ของการเขียนรัฐธรรมนูญ จึงต้องปิดช่องโหว่ให้หมด เช่น เรื่องการถือหุ้น ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขึ้นมารวมไปถึงการร้องการถือหุ้นของ ส.ส.และส.ว.ด้วย หากมีการดำเนินการจริง ต่อไปก็จะไม่มีคนเหลืออยู่ในสภาเลย จะเหลือเพียงแค่คนสิ้นเนื้อประดาตัวเท่านั้น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีคนเข้าสู่ระบบการเมืองเพราะติดขัดเรื่องการตรวจสอบทั้งหมด ทำให้ขัดกับความเป็นจริง
“จึงขอฝากไว้ว่าต่อไปหากจะเขียนรัฐธรรมนูญ ไม่ควรเขียนมาโดยเอาปัญหาของคนคนเดียวมาใส่ใว้ในรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นยาแรง และได้มีการกำหนดให้กกต.แจกใบเหลือง ใบแดง ทั้งที่ตนเห็นว่า กกต.ไม่ควรที่จะเข้าไปทำในเรื่องนี้ เพราะหากเราเข้าไปยุ่งหรือเข้าไปมีส่วนได้เสียก็จะทำให้เราเจ็บตัว ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่มีพื้นฐานการร่างมาจาก ความเกลียดชัง ซึ่งวันนี้เราต้องยอมรับความจริง และคงต้องมองว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้หรือไม่”
นางสดศรี กล่าวว่า กกต.อยู่ในสถานะภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กกต.ขณะนี้ไม่มีที่ยืน หากในอนาคตมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญขอฝากไว้ว่า อย่าเอาความรักชอบ เกลียดชัง นักการเมืองเข้ามาเป็นตัวแก้รัฐธรรมนูญ และขออย่าให้ กกต.เข้าไปเกี่ยวข้อง ในการพิจารณาใบเหลือง ใบแดง ควรให้กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว จะไม่ถูกดึงไปเป็นพวกจนไม่สามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เหมือนเช่นในขณะนี้
นางสดศรี กล่าวว่า ขอความเป็นธรรมให้แก่ กกต.ด้วย เหมือนคนบาดเจ็บ จึงขอพักรักษาตัวระยะหนึ่ง กว่าจะตั้งตัวได้ ซึ่งเห็นว่ารัฐธรรมนูญนี้คิดว่าหวังดีต่อประชาธิปไตย ที่เน้นในเรื่องของการตรวจสอบ จึงมีความพยายามที่จะแก้ไขในมาตรา 309 เหมือนกับตอนนี้ ที่มีคนร้อง กกต.ให้ตรวจสอบเรื่องการถือหุ้น
ด้าน นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบทางการเมือง ขณะนี้มุ่งเน้นมากเกินไป แม้ว่ารัฐธรรมนูญ 2550 จะมีกฎหมายประกอบการเลือกตั้งก็ตาม ซึ่งกลับตั้งบนพื้นฐานที่ว่าผู้สมัครเลือกตั้งทั้งหลายเป็นคนไม่ดี เช่น ส.ว.เข้ามาแทนที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ ก็มีเรื่องร้องให้มีการตรวจสอบและถอดถอนกัน ตนคิดว่าการตรวจสอบเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเน้นการตรวจสอบเพื่อดึงกันหรือจับผิดกัน จะทำให้การเมืองเป็นเรื่องน่าเบื่อได้ท้ายที่สุดจะทำให้เกิดการแบ่งขั้วและแตกแยกแทนที่จะคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ทำให้ต้องกลับมาใช้หลักสมานฉันท์ซึ่งหมายถึงเกิดการแตกแยกขึ้นแล้ว ดังนั้น ประชาธิปไตยของเราต้องมุ่งเน้นหลักภราดรภาพเพราะการเมืองบ้านเรานี้ยังขาดหายไป
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะยังไม่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าสู่ที่ประชุมสภาทันที่หลังเปิดสมัยประชุมสภา เพราะวิปรัฐบาลยังศึกษากันอยู่ควรจะปรับแก้ในประเด็นใดบ้าง แต่ยังไม่สามารถกำหนดกรอบ เวลาในการยื่นเสนอได้ แต่เบื้องต้นจะเสนอโดยเร็วหลังจากที่พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกชุมนุมใหญ่ในวันที่ 1 ส.ค.เพื่อคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ตนไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย หากจะคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ให้บอกมาว่าส่วนไหนควรปรับปรุงแก้ไข