“พันธมิตรฯมหาสารคาม” ขึ้นเวทีใหญ่มหาวิทยาลัยราชดำเนิน เล่านาทีม็อบถ่อยกระหน่ำขว้างหิน ยิงลูกแก้วใส่พี่น้องพันธมิตรฯมหาสารคาม จนบาดเจ็บสาหัสไปตามๆ กัน แฉ ไอ้โม่งแดงมือยิง “การุณ” ใส่เสื้อชอปราชภัฏดัง ที่มีน้อง ส.ส.พลังแม้ว เป็น ผอ.“เจ๊หนุ่ย” หญิงเหล็ก อึ้ง บุกเดี่ยวเข้าเจรจา แต่กลับถูกชายแท้นุ่งผ้าถุง เตรียมพุ่งเข้าทำร้าย ลั่นไม่กลัวตาย ขอยืนหยัดสู่ต่อไป ท้า แน่จริง ถ้าไล่ฆ่าคนทั้งประเทศได้ก็ทำ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พันธมิตรฯมหาสารคามเปิดใจ
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 19.27 น.ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ พันธมิตรฯมหาสารคาม ที่ถูกแก๊ง นปก.หลายสิบคน บุกป่วนเวทีพันธมิตรฯทำร้าย ขณะจัดเวทีที่มหาสารคาม ได้ขึ้นเวทีเปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว นำโดย นายสุชาติ ศรีสังข์ แกนนำพันธมิตรฯมหาสารคาม อดีต ส.ส.ไทยรักไทย นายวันชัย สุวรรณทัต โดนก้อนหินที่หัวคิ้ว เย็บ 4 เข็ม นางวชิราภรณ์ โคตรสาร บาดเจ็บสาหัสถูกก้อนอิฐขว้างกะโหลกแตก
นายสุชาติ กล่าวว่า พื้นที่มหาสารคามโหด ดุ ไล่ตั้งแต่ กกต.ข้าราชการ ทุกอย่างครอบงำ กอบโกย โกงกิน ซึ่งตนอาจจะเป็นแกะขาวในฝูงตรงนั้นก็ได้ พี่น้องร้อยเอ็ดจัดเวที ตนก็ไปปราศรัย ขณะที่พื้นที่มหาสารคาม ได้ถูกท้าทายจาก นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พูดออกวิทยุในมหาสารคาม ว่า ให้ไปจัดเวทีที่นั่นบ้าง จะให้กองร้อยหนังสติ๊กยิงหัวมัน
“ก่อนหน้านั้น ประมาณ 2 สัปดาห์ นายธีระชัย แสนแก้ว ไปที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ประชุมคนที่มหาสารคามประมาณ 500 คน ได้บอกให้เตรียมไม้หน้าสาม ขวาน หนังสติ๊ก ไว้รับพันธมิตรฯ พูดในขณะไปตรวจราชการต่อหน้าข้าราชการ ประชาชน” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นการตั้งเวทีหลอกว่าจะขึ้นที่สวนสุขภาพ แต่เวทีจริงตั้งที่ไนท์บาซาร์ เวลา 14.00 น.ปรากฏว่า มีการ์ดมาแค่ 20 คน ไม่นับการ์ดไม่เปิดเผยของตน จากนั้นไม่ถึง 20 นาที มีคนบอกว่า เวทีหลอกของเราพังไปแล้ว โดยมีกลุ่มคนผูกผ้าแดงปิดหน้าปิดตา ประมาณ 200 คน มุ่งหน้ามาที่เวทีบาซาร์ ขณะนั้นตำรวจยังไม่มา มีตำรวจประมาณ 5 คน นั่งรถมา ตนก็แจ้งเป็นภาษา ว.กับตำรวจกลุ่มนั้น ว่า ขณะนี้มี ว.7 ขอให้ส่งกำลังเสริมมาดูแลประชาชนด่วน
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากนั้นเขาก็กำลังจะทำลายเวที ตนก็เข้าไปเจรจาในฐานะเป็นคนมหาสารคาม เหมือนกัน และบอกให้เขาถอยไป ถ้าอยากจะพูดจะให้พูดก่อน 30 นาที แล้วพันธมิตรฯ จะพูดเพียง 15 นาที เขาบอกว่าเราไม่ได้มาพูด เรามารื้อเวทีเท่านั้น ส่วนตำรวจเริ่มมาแบบเชื่องช้า ขณะที่ชุลมุนกัน ในที่สุดเราก็จัดเวทีได้ เราประกาศชัยชนะ และใช้จิตวิทยา พอเห็นตำรวจมา เราก็บอกว่า พวกเรามาแล้ว และก็ปรบมือรับ ตำรวจก็มาดูแลเรา แต่ได้ยินเสียงพวกโพกผ้าแดงด่าผ่านไมค์เลย ว่า ไหนตำรวจจะเข้าข้างไง นี่เข้าข้างพันธมิตรฯนี่นา โชคดีที่ตนเป็น ส.ส.มหาสารคาม มาหลายสมัย ทำให้รู้จักนายตำรวจหลายคน
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น เราก็ถูกล้อมจากแก๊ง นปก.ที่นำโดย ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน ทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากัน เราก็ปราศรัยต่อ แต่ก็มีหิน หนังสติ๊กมาตลอด ตำรวจเป็นกลางจริงๆ อยู่ตรงกลาง เป็นกลางจริงๆ แล้วหันหน้ามาหาเราไม่ยอมหันหน้าไปทางพวกมัน
นายสุชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์มันชุลมุนขณะที่ นายการุณ ปราศรัยอยู่ แล้วไฟก็ดับ แล้วมีนักศึกษาใส่เสื้อชอปแอบอยู่ตรงมุมบ้านพักอาจารย์ แล้วก็เรียกคนๆ หนึ่งว่า อาจารย์ๆ ซึ่งตรงนั้นคือ จุดที่โยนหิน ยิงลูกแก้วเข้ามาที่เวที ตำรวจนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าตรงนั้นมีอะไร แล้วตนมาทราบภายหลัง ผอ.ราชภัฏแห่งนั้น เป็นลูกพี่สาวของ นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชาชน
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า วันนั้นสงสัยมากว่าทำไมไม่อยากให้เราปราศรัยทั้งที่เราขอแค่วันเดียว ตนก็เป็นคนมหาสารคาม เรื่องอย่างนี้เกิดกับคนอีสานมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่มีความพยายามไม่ให้คนอีสานรู้เท่าทันทุกอย่าง ต้องการให้อีสานโง่ ปิดหูปิดตาพี่น้องประชาชน เขากลัวตั้งเวทีทุกที่ในอีสานไม่อยากให้คนรู้ เพราะกลัวคนอีสานจะรู้ความจริง ชนชั้นปกครองสมัยไหนๆ ก็แล้วแต่ จะทำให้โง่แล้วทำลาย ตอนนี้ก็เช่นกัน เอเอสทีวีไม่มีให้ดูหรอก
นายวันชัย เล่าว่า ตนประจำอยู่ท้ายปิกอัพที่แจกน้ำดื่ม เราโดนล้อมรอบเวทีทั้งหน้าหลัง โดยขณะที่ นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ โดนยิงลูกหิน แล้วตนกระโดดจะลงไปดู ก็โดนหินขว้างเข้ามาถูกหัว เขาได้ขว้างปาทุกอย่างเข้ามา ทั้งหิน หนังสติ๊ก ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง
ด้าน นางวชิราภรณ์ กล่าวว่า ตนเป็นแกนนำคนหนึ่งที่จะจัดเวทีที่มหาสารคาม เริ่มต้นจากคนที่คิดเหมือนกันก่อนว่าเราควรจะทำอะไรในขณะที่เรารู้ข้อมูลต่างๆ แบบนี้แล้วจะอยู่เฉยไม่ได้ จึงได้คุยกับพวกสายเอ็นจีโอ นักวิชาการด้วยกัน ก็คิดว่าจะทำยังไงให้จัดเวทีให้ได้ เพราะรู้ว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน คนหนึ่ง สามารถพูดผ่านสื่อวิทยุ และกล้าแลกชีวิตถึงขนาดว่าพันธมิตรฯคนไหน คิดจะจัดเวทีที่มหาสารคามต้องข้ามศพเขาไปก่อน อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานั้น ยอมรับว่า กลัวบ้างที่จะถูกคนทำร้าย แต่ก็คิดในทางดีว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป มีตำรวจ มีผู้ว่าฯ นายอำเภอ ใครต่อใครหลายคน ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ แต่เราคิดผิดว่ากลไกเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในยามคับขัน ที่จริงไม่ใช่เลย
นางวชิราภรณ์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ดิฉัน เป็นพี่น้อง เขาก็เป็นพี่น้องเหมือนกันนะ แต่เป็นพี่น้องที่หลงผิดได้รับข้อมูลไม่จริง เขาปิดหน้าเป็นไอ้โม่งแดง เข้ามาอย่างนั้นแล้วพูดจาปลุกเร้าอย่างนั้น ตำรวจคิดไม่ได้เลยหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีเด็กนักเรียนมาเป็นกลุ่มๆ ถือธงชาติเดินแถวมากัน พวกนั้นก็ขู่เด็กว่าพวกมึงจะไปไหนกัน ถ้าเข้าไปก็จะจับตัดขาให้หมด ที่สำคัญเด็กม.4 ผู้ชาย ประทับใจมาก เขาบอกว่า จะเอาธงชาติไปป้องกันไม่ให้ใครทำร้ายพันธมิตรฯ
“คิดว่าเป็นผู้หญิงมันไม่น่าจะทำอะไร ก็ออกไปเจรจาตอนหัวค่ำ ถือธงออกไป ก็ทำท่าจะเข้ามาหักแขนตนอยู่แล้ว และในจังหวะที่ นายการุณ โดนยิงลูกแก้ว ดิฉันลุกจะไปดู ก็โดนหินขว้างมาที่หัวจนล้มลง” นางวชิราภรณ์ กล่าว
นางวชิราภรณ์ กล่าวว่า อยากจะบอกพันธมิตรฯทุกคน ว่า เราไม่ควรจะเสียเวลาเสียขวัญกับอะไรแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปรากฏการณืตาย 10 เกิดแสนของจริงแล้ว ฉะนั้น เห็นว่า ตนขอทำตัวเป็นประโยชน์แล้วให้สิ่งดีๆ กับสังคมเท่าที่ทำได้ แล้วจะทำต่อไป อย่างไรก็ตาม คงไม่ฝากถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพราะไม่เห็นประโยชน์ในการฝาก อย่างไรก็ตาม วันนี้เราชนะแล้วนะ ใครบอกเราแพ้ ปัญหาของดิฉันขี้ประติ๋ว ใครจะตามเอาชีวิตอะไรเรื่องเล็กน้อย ถ้ามีปัญหาตามฆ่าคนทั้งแผ่นดินได้ก็ให้มันทำ