xs
xsm
sm
md
lg

สลด! พันธมิตรอุดรฯ เหยื่อม็อบเถื่อน เจ็บร่วม 20 อยู่ไอซียู 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอุทัย แสนแก้ว และขวัญชัย ไพรพนา แกนนำม็อบถ่อย ปลุกระดมคนกว่า 1,000 คน ให้ทำลายเวทีพันธมิตรอุดรธานี
ม็อบสุดถ่อย “ขวัญชัย ไพรพนา” และ น้องชาย “ธีระชัย แสนแก้ว” พร้อมอาวุธมีด-ขวาน ลุยทำร้ายพันธมิตรฯ พร้อมเผารื้อทำลายเวที ส่งผลพันธมิตรฯ บาดเจ็บรวม 20 ราย ล่าสุดแกนนำระบุ 1 คนที่คิดว่าเสียชีวิตแล้วขณะนี้แพทย์กำลังช่วยชีวิตอยู่ในไอซียู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มพันธมิตรฯอุดรธานี ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 น.วันที่ 24 ก.ค. ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.นายอุทัย แสนแก้ว น้องชาย นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ นำม็อบโจร “ชมรมรักอุดร” ที่ผ่านการปลุกปั่นโดยนายขวัญชัย ไพรพนา ดีเจวิทยุชุมชนคนรักอุดร มากกว่า 1,000 คน พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งไม้ หนังสติ๊ก มีดตัดอ้อย และถุงบรรจุอุจจาระ บุกเข้ามายังสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ซึ่งมีกำลัง ตชด.24 จำนวน 200 คน และตำรวจภูธรอุดรธานี ในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ จำนวน 500 คน ตั้งแถวตรึงกำลังอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะหนองประจักษ์

เวลาผ่านไปเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ม็อบโจรได้ให้ชายฉกรรจ์ จำนวน 500 คน เป็นแนวหน้าดันแนวแผงกั้นเหล็กฝ่ากำลัง ตชด.เข้ามาใช้ไม้ไล่ตี ยิงหนังสติ๊ก และโยนถุงอุจจาระ ใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้พันธมิตรฯ วิ่งหนีแตกกระเจิง บางรายได้วิ่งเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ โดยใช้อาวุธที่เตรียมมา ทั้งไม้ มีดปลายแหลม หรือแม้กระทั่งขวาน ไล่ฟันผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้งหญิงชาย จนแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน บาดเจ็บเล็กน้อยอีกมาก

จากนั้นม็อบโจร เผยสันดานโจรออกมา เข้าไปขโมยเอาเสื้อยืดของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เตรียมมาแจกให้กับประชาชนที่รับฟังในครั้งนี้ พร้อมทั้งยังทำลายทรัพย์สินที่อยู่ข้างในเก้าอี้พลาสติก, ถังน้ำแข็ง, เต็นท์, จอโปรเจกเตอร์, จานดาวเทียม และทำการจุดไฟเผาวอดวายไปหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ห้ามปราม ยืนดู แต่ก็ทำไรไม่ได้

หลังจากม็อบโจรบุกเข้ามาทำร้ายเวที และคนของกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว ได้ประกาศชัยชนะ จากนั้นเคลื่อนขบวนกลับไปเวทีของตนเองอยู่ในบริเวณสนามทุ่งศรีเมือง และเปิดเพลงปลุกใจอยู่ตลอดเวลา และเตรียมจะเคลื่อนขบวนมาบุกอีกเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯที่จัดขึ้นอยู่โรงแรมนภาลัย ซึ่งมีกำลังตำรวจเพียงแค่ 200 คน มาคอยดูแลปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของกลุ่มม็อบต่อต้านพันธมิตรฯอุดรธานี ครั้งนี้ ถือเป็นการกระทำที่รุนแรง แสดงถึงว่าตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิในระบอบประชาธิปไตย เป็นการกระทำต่อกลุ่มพันธมิตรฯที่รุนแรงที่สุด มีการนำมีด เหล็กแป๊บ และอาวุธอื่น เข้าไปทำร้ายผู้ชุมนุมที่ชุมนุมกันอย่างสงบ

ภายหลังได้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีจำนวนกว่า 20 คน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีจำนวน 13 คน ประกอบไปด้วย นายแก้ว จันทิชู อายุ 59 ปี อพปร.หนองไฮ นายชนะศักดิ์ ผ่องเทิดทิ่ง อายุ 54 ปี นายจวง ขาเกตุศรี อายุ 46 ปี นางธนัยนันต์ จรัสกีล้วน อายุ 30 ปี นายสมพร รักดาดาษ อายุ 23 ปี ด.ต.เฉลิมวุธ ประวิเศษ อายุ 61 ปี น.ส.สุจิรา มีชั้นช่วง อายุ 43 ปี นายรัตนชัย ทองสุก อายุ 22 ปี นายรังษี ศุภชัยสาคร อายุ 61 ปี นายพงษ์เทพ แก้วใส อายุ 25 ปี นายโกวิท เรี่ยวแรงไกสร อายุ 63 ปี นายพาเลิศ อินบัวสี อายุ 52 ปี นายเสรี เป็นสุข อายุ 49 ปี

ขณะที่ในช่วงเย็นทางแกนนำผู้จัดงานได้แจ้งผู้สื่อข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 คนเป็นชายโดยถูกขวานจามหัว ต่อมาจึงแจ้งเพิ่มว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงอีก 1 ราย

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาทางนายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับรายงานแล้วว่ามีการปะทะกันของทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งตนจะเรียกดูวิดีโอเทปของผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเก็บภาพ จึงจะสามารถสรุปได้ว่า กลุ่มใดเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ทั้งนี้เบื้องต้นไม่มีผู้เสียชีวิต

ต่อมาเมื่อเวลา 18.45น. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินของ รพ.ศูนย์อุดรธานี ได้รับคำตอบว่า จากผู้ที่เข้ารักษาตัวในตอนแรก 10 กว่าคน ตอนนี้บางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์ได้ปล่อยให้กลับบ้านแล้ว เหลือพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 4 คน โดยหนึ่งคนนั้นอาการหนักต้องดูอาการอยู่ในห้องไอซียู

ด้านแหล่งข่าวแกนนำพันธมิตรอุดรธานี เปิดเผยว่า การที่พันธมิตรฯ อุดร ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บปางตายครั้งนี้ เกิดจากความบกพร่องในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน เนื่องจากในการประชุมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) ของทางจังหวัดเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พูดในที่ประชุมทำนองว่า ให้ดูความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ ไม่ต้องเข้าไปห้ามปราม โดยจะปล่อยให้แต่ละฝ่ายเป็นอิสระแล้วแต่ภาวะอารมณ์ของแต่ละคน

สำหรับการปะทะกันเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มของ นายขวัญชัย เข้าไปรุมทำร้ายพันธมิตรฯ และรื้อเวทีพันธมิตรฯ นั้น มีเสียงออกมาจากกลุ่มตำรวจว่า “พวกมึงเข้าไปเลย ตีให้พอเจ็บแล้วออกมา” โดยมีอาวุธนอกจากมีด และขวานแล้ว ยังมีไม้ยูคาลิปตัสที่รื้อออกมาจากเวทีซึ่งมีตะปูติดอยู่ด้วย ใช่เป็นอาวุธไล่ตีพันธมิตรฯ

หลังจากที่ใช้พฤติกรรมถ่อยทำลายเวทีที่หนองประจักษ์แล้ว นายขวัญชัย ได้ไปที่สถานีวิทยุของตัวเอง แล้วประกาศเรียกร้องให้กลุ่มคนรักอุดรฯ ออกมารวมตัวกันแล้วให้ไปบุกที่โรงแรมนภาลัยต่อ ซึ่งเป็นสถานที่จัดสัมมนาของกลุ่มสมัชชาประชาชน นำโดย นายมงคล คูสกุล ซึ่งเป็นองค์กรแนวร่วมของพันธมิตรฯ โดย นายขวัญชัย ได้ประกาศให้เอาหมามุ่ยไปปล่อยในโรงแรมด้วย

ด้านนายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานีเขต 1 พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค. ตนประชุมกรรมาธิการที่รัฐสภา จากนั้นช่วงบ่ายนั่งเครื่องบินมาเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยสถานที่จะจัดสัมนาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และเพิ่งทราบว่ามี 2 กลุ่มปะทะกัน ทั้งนี้ในฐานะส.ส.ที่อยู่ในเขตนี้ก็ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น เท่าที่ทราบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนเสียชีวิต 1 คน โคม่า 5 คน และบาดเจ็บสาหัสนับ 10 คน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกเสียใจ และก็ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจมีนักการเมืองคอยสนับสนุน นายเชิดชัยกล่าวว่า ตนเป็นนักการเมืองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็มักจะถูกโจมตีทุกครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องตั้งคำถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะมีคนมายั่วยุก่อนหรือไม่ เพราะโดยปกติคนอุดรฯ อยู่อย่างสงบ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว และอยากถามว่าพวกเขามาทำไม อยู่ที่สะพานมัฆวานไม่พอหรือ เหตุใดต้องมาก่อกวนให้คนอุดรธานี ถ้าถามว่าตนสนับสนุนหรือไม่ต้องบอกว่าในฐานะนักการเมืองไม่ทำเด็ดขาด ไม่ต้องการเห็นการปะทะกัน

นายเชิดชัยกล่าวว่า เรามีเวทีให้แสดงความคิดเห็นแล้วเหตุใดกลุ่มพันธมิตรฯ ไมใช้เวทีดังกล่าวในการแสดงความเห็น ทำไมต้องมาที่นี่ ถ้าถามว่าหากมีการมายั่วยุให้เกิดเรื่องขึ้นก่อน ตนก็ต้องเข้าข้างคนอุดรธานี และก็ไม่รู้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้กำกับการอุดรธานีปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ได้อย่างไร ทั้งที่ก็ทราบว่าจะมีกลุ่มคนมาเปิดการปราศรัยซึ่งอาจมีการปะทะกันได้ ทำไมไม่ไประมัดระวัง ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร

เมื่อถามว่าจากการปะทะกันมีคนตายด้วย นายเชิดชัยกล่าวว่า ในฐานะผู้แทนก็รู้สึกเสียใจว่าทำไมพี่น้องประชาชนต้องเอาความรู้สึกนึกคิด ทิฐิ มาประหัดประหารทางการเมืองจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ทำไมไม่ใช้เวทีทางความคิดมาพูดคุยเพื่อหาทางแก้ไข แต่เรื่องนี้อยากให้มองที่เหตุว่ามาจากใคร เพราะโดยปกติคนอุดรธานีไม่ชอบใช้ความรุนแรง หากไม่มีคนมก่อกวนยั่วยุก่อน

ถามถึงกระแสข่าวว่านายอุทัย แสนแก้ว น้องชายนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์และส.ส.อุดรธานี เป็นคนนำกลุ่มประชาชนมาปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายเชิดชัยหัวเราะก่อนกล่าวว่า อย่าเพิ่งเหมาว่ารัฐมนตรี ส.ส.หรือคนที่มีนามสกุลแสนแก้ว หรือนามสกุลอื่น นามสกุลวิเชียรวรรณก็ได้ จะเป็นคนสั่งการให้ทำอะไร บางทีคนพวกนั้นอาจปกป้องหวงแหนบ้านเขาก็ได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ดูว่าผลที่เกิดขึ้นมาจากเหตุอะไรต้องถามตรงนี้

ด้านนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี เขต2 พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่เลยไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เพิ่งทราบจากข่าวโทรทัศน์เหมือนกันว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวที่อุดรธานี้ แต่ดูแล้วก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน อย่างไรก็ดีพื้นที่ของตนนั้นอยู่คนละเขตพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์
ม็อบถ่อยเตรียมทลายกำแพงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปทำร้ายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรอุดรธานี

หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากการปะทะกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น