อุดรธานี – พันธมิตรฯ แถลงข่าววันนี้ เปิดวิดีโอแถลงข่าวประณาม ม็อบถ่อย “ขวัญชัย ไพรพนา” และ น้องชาย รมต.ธีระชัย แสนแก้ว นำพวกพร้อมอาวุธมีด ค้อน ขวาน ไล่ทำร้ายพันธมิตรฯ อุดรธานี ที่ไร้อาวุธ พร้อมรื้อทำลายเวที สาหัสหามเข้าไอซียู 2 บาดเจ็บกว่า 20 สะพัดตาย 2
จากกรณีที่นายอุทัย แสนแก้ว น้องชาย นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับนายขวัญชัย ไพรพนา ดีเจลิ่วล้อระบอบทักษิณ นำกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 1,000 คน เคลื่อนขบวนจากสนามทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุดรธานี ฝ่าด่านตำรวจไปทำร้ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จัดชุมนุม จนบาดเจ็บสาหัสกว่า 20 คน นั้น เมื่อเวลา 21.45น. วานนี้ (24 ก.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในนามตัวแทนพันธมิตรฯ ขอประนามเหตุการณ์ จ.อุดรธานี และขอดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ระดับผู้บังคับการลงไปฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
"วันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) หลังกลับจาก ปตท. พันธมิตรฯ จะเปิดแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ โดยจะเปิดดูวิดีโอให้เห็นถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนที่เกิดจากฝีมือน้องชายรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัครและดีเจขาประจำ โดยจะพิจารณาช่องทางกฎหมายทุกช่องทางดำเนินกฎหมายให้ถึงที่สุด และถ้าอนาคตรัฐบาลนี้สิ้นสุด แม้รัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะไม่หยุดดำเนินคดี"
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับพันธมิตรฯ ที่บาดเจ็บ และตนขอสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งไม่ว่าที่อุดรธานีหรือที่อื่นๆ นอกจากนี้เอเอสทีวีจะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการบริจาคไปมอบให้ผู้ที่บาดเจ็บด้วย
"ขอให้รู้ว่าพวกเราเป็นห่วงเป็นใยมาตลอด เคยเตือนว่าถ้าเห็นว่าสู้ไม่ได้อย่าจัดเวทีฯ แต่ในเมื่อจัดด้วยความกล้าหาญ พวกเราก็ขอคารวะ เราอยากให้พันธมิตรทั่วประเทศเปลี่ยนเรื่องนี้เป็นพลังในการต่อสู้ต่อไป" นายสนธิกล่าว
สำหรับรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี กำหนดเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณ ลานคีตลีลา สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะที่ฝ่ายต่อต้านกลุ่มชมรมคนรักษ์อุดรที่สนับสนุนรัฐบาล นำโดย นายขวัญชัยที่ต่อต้านพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงครั้งนี้เช่นกัน ประกาศจัดชุมนุมที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
หลังจากกลุ่มพันธมิตรอุดรธานี ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนกระทั่งในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 15.30 น.เป็นต้นมา ได้ถูกม็อบกลุ่มคนรักอุดร นำโดย นายอุทัยและนายขวัญชัยนำม็อบชายฉกรรจ์กว่า 1,000 คน เข้าทำร้าย
"เวลา 16.00 น.กลุ่มม็อบคนรักอุดร ได้แสดงพฤติกรรมสุดถ่อยด้วยความรุนแรง ยิงหนังสติ๊กเข้าใส่ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ไม่มีอาวุธและชุมนุมอยู่ประมาณ 200 คน บางรายได้วิ่งเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ โดยใช้อาวุธที่เตรียมมา ทั้งไม้ มีดปลายแหลม ค้อน หรือแม้กระทั่งขวาน ไล่ฟันผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้งหญิงชาย จนแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ถูกก้อนหิน ถูกไม้ฟาด ถูกมีดฟันหรือแม้กระทั่งถูกขวานจาม ทั้งๆ ที่บริเวณโดยรอบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร, ตชด., อส. และ อปพร.กว่า 600 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย ตามที่ผู้ว่าฯอุดรประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นกลับเมินเฉยไม่เข้าห้ามปรามกลุ่มม็อบถ่อย"
กลุ่มคนรักอุดรยังได้เผาทำลายอุปกรณ์ถ่ายทอดสด ทั้งจอโปรเจกเตอร์ และรื้อเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯ ลงจนหมดสิ้น ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมต่อไปได้
ภายหลังได้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีจำนวนกว่า 20 คน เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสอยู่ห้องไอซียู 1 ราย ชื่อ นายจวง ขาเกตุศรี
แหล่งข่าวแกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานี เปิดเผยว่า การที่พันธมิตรฯ อุดรถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บปางตายครั้งนี้ เกิดจากความบกพร่องในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน เนื่องจากในการประชุมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) ของจังหวัดวันที่ 23 ก.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พูดในที่ประชุมทำนองว่า ให้ดูความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ ไม่ต้องเข้าไปห้ามปราม โดยจะปล่อยให้แต่ละฝ่ายเป็นอิสระแล้วแต่ภาวะอารมณ์ของแต่ละคน
สำหรับการปะทะกันเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มของนายขวัญชัยเข้าไปรุมทำร้ายพันธมิตรฯ และรื้อเวทีพันธมิตรฯ นั้น มีเสียงออกมาจากกลุ่มตำรวจว่า “พวกมึงเข้าไปเลย ตีให้พอเจ็บแล้วออกมา” โดยมีอาวุธนอกจากมีด และขวานแล้ว ยังมีไม้ยูคาลิปตัสที่รื้อออกมาจากเวทีซึ่งมีตะปูติดอยู่ด้วย ใช่เป็นอาวุธไล่ตีพันธมิตรฯ ด้วย
หลังจากที่ใช้พฤติกรรมถ่อยทำลายเวทีที่หนองประจักษ์แล้ว นายขวัญชัย ได้ไปที่สถานีวิทยุของตัวเอง แล้วประกาศเรียกร้องให้กลุ่มคนรักอุดรฯ ออกมารวมตัวกันแล้วให้ไปบุกที่โรงแรมนภาลัยต่อ ซึ่งเป็นสถานที่จัดสัมมนาของกลุ่มสมัชชาประชาชนนำโดยนายมงคล คูสกุล ซึ่งเป็นองค์กรแนวร่วมของพันธมิตรฯ โดยนายขวัญชัยได้ประกาศให้เอาหมามุ่ยไปปล่อยในโรงแรมด้วย
ล่าสุดเวลา22.00น. แหล่งข่าวจาก จ.อุดรธานี ระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เนื่องจากขณะเกิดเหตุถูกทำร้ายที่ศีรษะอย่างรุนแรง โดยถูกตีด้วยไม้ฝังตะปูและของแข็ง
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีการจัดเวทีปราศรัยของ กลุ่มพิทักษ์เมืองบุรีรัมย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดบุรีรัมย์ ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ นำนายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส. บุรีรัมย์และ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ก็โดนก่อกวนด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯที่มีนักการเมือง แก๊ง “ยี้ห้อย” อยู่เบื้องหลังจำนวนหลายร้อยคน ได้มารวมตัวกันถือป้ายประท้วงขับไล่ พร้อมขู่บังคับยื่นคำขาดให้ รื้อเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟภายใน 30 นาที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 500 นาย
จากนั้นกลุ่มผู้ต่อต้านได้ใช้ก้อนหิน และท่อนเหล็กบรรจุปูน ทุบตีทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บหลายนาย แล้วฝ่าแนวกั้นกรูเข้าไปทุบทำลายลำโพง และรื้อเวที เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงจะเกิดเหตุรุนแรงบานปลาย จึงตัดสินใจเข้าสลาย พร้อมจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ 13 คน นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ยุติเวทีทันที เพราะเกรงจะเกิดเหตุรุนแรง
จากกรณีที่นายอุทัย แสนแก้ว น้องชาย นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับนายขวัญชัย ไพรพนา ดีเจลิ่วล้อระบอบทักษิณ นำกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 1,000 คน เคลื่อนขบวนจากสนามทุ่งศรีเมือง อ.เมืองอุดรธานี ฝ่าด่านตำรวจไปทำร้ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จัดชุมนุม จนบาดเจ็บสาหัสกว่า 20 คน นั้น เมื่อเวลา 21.45น. วานนี้ (24 ก.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในนามตัวแทนพันธมิตรฯ ขอประนามเหตุการณ์ จ.อุดรธานี และขอดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ระดับผู้บังคับการลงไปฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
"วันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) หลังกลับจาก ปตท. พันธมิตรฯ จะเปิดแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ โดยจะเปิดดูวิดีโอให้เห็นถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนที่เกิดจากฝีมือน้องชายรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัครและดีเจขาประจำ โดยจะพิจารณาช่องทางกฎหมายทุกช่องทางดำเนินกฎหมายให้ถึงที่สุด และถ้าอนาคตรัฐบาลนี้สิ้นสุด แม้รัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะไม่หยุดดำเนินคดี"
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับพันธมิตรฯ ที่บาดเจ็บ และตนขอสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งไม่ว่าที่อุดรธานีหรือที่อื่นๆ นอกจากนี้เอเอสทีวีจะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการบริจาคไปมอบให้ผู้ที่บาดเจ็บด้วย
"ขอให้รู้ว่าพวกเราเป็นห่วงเป็นใยมาตลอด เคยเตือนว่าถ้าเห็นว่าสู้ไม่ได้อย่าจัดเวทีฯ แต่ในเมื่อจัดด้วยความกล้าหาญ พวกเราก็ขอคารวะ เราอยากให้พันธมิตรทั่วประเทศเปลี่ยนเรื่องนี้เป็นพลังในการต่อสู้ต่อไป" นายสนธิกล่าว
สำหรับรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี กำหนดเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณ ลานคีตลีลา สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะที่ฝ่ายต่อต้านกลุ่มชมรมคนรักษ์อุดรที่สนับสนุนรัฐบาล นำโดย นายขวัญชัยที่ต่อต้านพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงครั้งนี้เช่นกัน ประกาศจัดชุมนุมที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
หลังจากกลุ่มพันธมิตรอุดรธานี ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนกระทั่งในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 15.30 น.เป็นต้นมา ได้ถูกม็อบกลุ่มคนรักอุดร นำโดย นายอุทัยและนายขวัญชัยนำม็อบชายฉกรรจ์กว่า 1,000 คน เข้าทำร้าย
"เวลา 16.00 น.กลุ่มม็อบคนรักอุดร ได้แสดงพฤติกรรมสุดถ่อยด้วยความรุนแรง ยิงหนังสติ๊กเข้าใส่ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่ไม่มีอาวุธและชุมนุมอยู่ประมาณ 200 คน บางรายได้วิ่งเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ โดยใช้อาวุธที่เตรียมมา ทั้งไม้ มีดปลายแหลม ค้อน หรือแม้กระทั่งขวาน ไล่ฟันผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้งหญิงชาย จนแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ถูกก้อนหิน ถูกไม้ฟาด ถูกมีดฟันหรือแม้กระทั่งถูกขวานจาม ทั้งๆ ที่บริเวณโดยรอบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร, ตชด., อส. และ อปพร.กว่า 600 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย ตามที่ผู้ว่าฯอุดรประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นกลับเมินเฉยไม่เข้าห้ามปรามกลุ่มม็อบถ่อย"
กลุ่มคนรักอุดรยังได้เผาทำลายอุปกรณ์ถ่ายทอดสด ทั้งจอโปรเจกเตอร์ และรื้อเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯ ลงจนหมดสิ้น ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมต่อไปได้
ภายหลังได้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีจำนวนกว่า 20 คน เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสอยู่ห้องไอซียู 1 ราย ชื่อ นายจวง ขาเกตุศรี
แหล่งข่าวแกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานี เปิดเผยว่า การที่พันธมิตรฯ อุดรถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บปางตายครั้งนี้ เกิดจากความบกพร่องในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน เนื่องจากในการประชุมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) ของจังหวัดวันที่ 23 ก.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พูดในที่ประชุมทำนองว่า ให้ดูความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ ไม่ต้องเข้าไปห้ามปราม โดยจะปล่อยให้แต่ละฝ่ายเป็นอิสระแล้วแต่ภาวะอารมณ์ของแต่ละคน
สำหรับการปะทะกันเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มของนายขวัญชัยเข้าไปรุมทำร้ายพันธมิตรฯ และรื้อเวทีพันธมิตรฯ นั้น มีเสียงออกมาจากกลุ่มตำรวจว่า “พวกมึงเข้าไปเลย ตีให้พอเจ็บแล้วออกมา” โดยมีอาวุธนอกจากมีด และขวานแล้ว ยังมีไม้ยูคาลิปตัสที่รื้อออกมาจากเวทีซึ่งมีตะปูติดอยู่ด้วย ใช่เป็นอาวุธไล่ตีพันธมิตรฯ ด้วย
หลังจากที่ใช้พฤติกรรมถ่อยทำลายเวทีที่หนองประจักษ์แล้ว นายขวัญชัย ได้ไปที่สถานีวิทยุของตัวเอง แล้วประกาศเรียกร้องให้กลุ่มคนรักอุดรฯ ออกมารวมตัวกันแล้วให้ไปบุกที่โรงแรมนภาลัยต่อ ซึ่งเป็นสถานที่จัดสัมมนาของกลุ่มสมัชชาประชาชนนำโดยนายมงคล คูสกุล ซึ่งเป็นองค์กรแนวร่วมของพันธมิตรฯ โดยนายขวัญชัยได้ประกาศให้เอาหมามุ่ยไปปล่อยในโรงแรมด้วย
ล่าสุดเวลา22.00น. แหล่งข่าวจาก จ.อุดรธานี ระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เนื่องจากขณะเกิดเหตุถูกทำร้ายที่ศีรษะอย่างรุนแรง โดยถูกตีด้วยไม้ฝังตะปูและของแข็ง
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีการจัดเวทีปราศรัยของ กลุ่มพิทักษ์เมืองบุรีรัมย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดบุรีรัมย์ ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ นำนายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส. บุรีรัมย์และ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ก็โดนก่อกวนด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯที่มีนักการเมือง แก๊ง “ยี้ห้อย” อยู่เบื้องหลังจำนวนหลายร้อยคน ได้มารวมตัวกันถือป้ายประท้วงขับไล่ พร้อมขู่บังคับยื่นคำขาดให้ รื้อเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟภายใน 30 นาที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 500 นาย
จากนั้นกลุ่มผู้ต่อต้านได้ใช้ก้อนหิน และท่อนเหล็กบรรจุปูน ทุบตีทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บหลายนาย แล้วฝ่าแนวกั้นกรูเข้าไปทุบทำลายลำโพง และรื้อเวที เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงจะเกิดเหตุรุนแรงบานปลาย จึงตัดสินใจเข้าสลาย พร้อมจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ 13 คน นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ยุติเวทีทันที เพราะเกรงจะเกิดเหตุรุนแรง