อดีตคนเดือนตุลา ปลุกพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ ผนึกกำลังประชาชาติประชาธิปไตย ให้กว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเอาชนะ “ทักษิณ-ทุนสามานย์” ชี้ หัวใจสำคัญของการชนะอยู่ที่การมีกำลังที่มากกว่า และมีเงื่อนไขอยู่ฝ่ายธรรมะ
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.45 น.นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมือง อดีตคนเดือนตุลา ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศัยที่สะพานมัฆวาน โดยกล่าวว่า ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยได้ถูกบันทึกแล้วบันทึกอีก เช่นเดียวกับที่เราอยู่กันมาเป็นวันที่ 66 ที่นี่ วันนี้ตนจะมาพูดเรื่องผนึกกำลังประชาชาติประชาธิปไตย เอาชนะระบบสามานย์เพื่อสิทธิเสรีภาพ ความเป็นธรรม และชีวิตที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชนชาวไทย
“66 วันที่ผ่านมา พวกเราต่างได้พิสูจน์ให้คนทั้งประเทศ รวมถึงชาวต่างประเทศยอมรับแล้วว่า พวกเราพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ได้ผ่านจุดที่จะไม่แก้มาแล้ว และจะไม่ถอย” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ก้าวต่อไปของเรา คือ พวกเรานั้นเป็นฝ่ายธรรมะต้องชนะอธรรม จะต้องนำคนชั่วมาลงโทษ การที่จะชนะนั้นต้องมาสรุปบทเรียน ต้องกล้าหาญ ต้องเสียสละ และต้องมาดูว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อเพิ่มพละกำลังให้มากขึ้น ถ้าอยากจะชนะจะต้องเพิ่มกำลังให้มากขึ้น ทำงานให้หนักขึ้นกว่านี้ ทำกันอย่างจริงๆ จังๆ เราถึงจะชนะ
“ฉะนั้น ถ้าหากเราจะยกระดับไปสู่ชัยชนะ พวกเราต้องช่วยกัน ทั้งช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร นำข้อเท็จจริงออกมา ใช้สติปัญญาความรู้ และต้องมีการจัดการ เพราะทุกคนที่เข้ามามีทุกระดับ ตั้งแต่ เกษตกร, ผู้ใช้แรงงาน, นักวิชาการ นักธุรกิจ พวกเรามาที่นี่มาโค่นล้มระบอบทักษิณ ถือว่าเป็นงานหลัก” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายหลักของเราต้องจำให้มั่น ที่เรามาวันนี้ ก็เพื่อล้มระบบของทักษิณ และระบบทุนสามานย์ ทุกจุดจะต้องพุ่งไปที่ตรงนี้ ต้องเสริมกำลังให้ขยายมากขึ้น ต้องมีความอดกั้น เพราะหลายครั้งที่รู้สึกว่าพวกอธรรมมาทำกับเรา ดังนั้น เราจะต้องตอบโต้ แต่การตอบโต้คือชนะขั้นที่หนึ่ง แต่ถ้าเรามีจิตใจที่สูงกว่านี้และต้องการชนะ จะต้องมีความอดกลั้น ต้องมีเป้าหมายเพื่อสู่ชัยชนะนี่คือเรื่องที่สำคัญ
“ทำให้จำเป็นต้องขยายแนวร่วมของเรา ให้กว้างขวางออกไป เป็นการผนึกกำลังประชาชาติประชาธิปไตย ให้กว้างขวางไปทั่วประเทศ และทั่วโลก เพื่อเอาชนะระบบทักษิณ และพวกสามานย์”
นอกจากนี้ยังต้องใช้ความรู้และสติปัญญา ซึ่งหลายๆ คนอาจมีความคิดไม่เหมือนกัน ให้มีความเข้าใจไปในทางเดียวกัน และอย่างที่แกนนำได้พูดเสมอว่าต้องมีขันติ แล้วนำไปชนะอธรรม ถ้าหากทำได้แบบนี้ทุกวันก็จะทำให้มีแต่จุดแข็งและมีธรรมมะ จะไม่มีจุดอ่อนทำให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปขยายนี่จึงเป็นหัวใจสำคัญ
นายชัยวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า เมื่อต้องการให้ชีวิตประชาชนทั้งหมดมีชีวิตที่ดีขึ้น เราต้องช่วยกัน ใช้พลังทั้งหมดมาช่วยกันสร้างสรรค์ ให้เกิดสังคมใหม่ และชีวิตใหม่ที่ดีกว่า ขอให้เราคำมั่นสัญญากับตัวเองและคนทั้งประเทศว่า จะสามัคคีกัน เดินไปด้วยกัน ชนะด้วยกัน และเราต้องชนะอย่างแน่นอน ประชาชนที่อยู่ฝ่ายธรรมะจะต้องชนะ ขอให้มีความภาคภูมิใจในตัวเองและทำงานให้หนักขึ้น แล้วชัยชนะจะรออยู่ข้างหน้าซึ่งไม่นานนัก