xs
xsm
sm
md
lg

“พันธมิตรอุดรฯ” แฉนาที “สัตว์นรก” รุมขย้ำ-ลั่นเดินหน้าสู้ต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจริญ หมู่ขจรพันธุ์ และผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ม็อบอันธพาลรุมทำร้ายที่อุดรธานี
“พันธมิตรฯอุดรธานี” ที่รอดตายจากเหตุสัตวนรกไล่ฆ่าฟันประชาชน ขึ้นเวทีพันธมิตรฯใหญ่ มัฆวานฯ เปิดใจเล่านาทีอำมหิต นึกไม่ถึงคนไทยจะทำกันได้ถึงขนาดนี้ เพียงเพื่อคนคนเดียว หวั่นหากยังปล่อยให้ “หุ่นเชิด ฯพณฯ หอกหัก” ด้านอยู่ต่อไป อาจถึงขึ้นกลียุค เผาเมืองได้ ลั่น หายเจ็บเมื่อไหร่เดินหน้าสู้ต่อไม่มีย่อท้อ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พันธมิตรฯอุดรธานี เปิดใจ 

วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 19.30 น.บนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ พันธมิตรฯ อุดรธานี ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่กลุ่ม นายขวัญชัย ไพรพนา เข้ารุมทำร้ายอย่างป่าเถื่อน ประกอบไปด้วย นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตรฯอุดรธานี นายโกวิทย์ เรี่ยวแรงไกรศร การ์ดอาสาพันธมิตรฯ อุดรธานี นายแก้ว จันธิชู และนายชนะศักดิ์ เลิศผ่องแพ้ว ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เปิดใจถึงเหตุการณ์เถื่อนดังกล่าว โดยมีนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายเจริญ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นเวลาประมาณ 15.00 น.วันที่ 24 ก.ค.ซึ่งเวทียังไม่ได้เริ่มขึ้น อยู่ระหว่างเตรียมการขั้นสุดท้าย กลุ่มของนายขวัญชัย และสัตว์นรกทั้งหลาย ก็มากัน เดชะบุญที่พี่น้องประชาชนยังไม่มากัน เราเตรียมงานกันอยู่เพียงประมาณ 150 กว่าคน ไม่งั้นโศกนาฏกรรมอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ที่คาดไม่ถึง คือ อส.และ ตชด.จำนวนมาก กะด้วยสายตาไม่ต่ำกว่า 400 คน จำนวนยังมากกว่าเราเยอะ ซึ่งอยู่หน้าทางเข้า แต่กลับปล่อยกลุ่มอันธพาลที่มาถึงหน้าประตูไม่ถึงสองนาทีก็เข้ามาได้เลย ไม่มีการต่อรอง หรือยื้อกับตำรวจเลย เหมือนกับว่าตำรวจเปิดประตูเชิญให้เข้ามา

นายเจริญ กล่าวต่อว่า มีสายรายงานตนตลอดเวลาว่า ออกจากทุ่งสีเมืองมาแล้ว อาวุธครบมือ มีทั้งขวาน จอบ ค้อน ไม้ และมีรถตำรวจนำมาด้วย ส่วนที่มีข่าวว่าตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา ตะโกนว่าปล่อยให้นายขวัญชัยจัดการเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนทราบตอนแรกก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะดูตำรวจเหมือนจะขึงขัง และเวลานั้นเริ่มมีคนเอาของมาบริจาคกันเยอะมาก และตนยังได้ไปพูดกับตำรวจกลุ่มหนึ่งเลยว่าเดี๋ยวเอาข้าวกล่องมาให้ เขาก็ยังไม่ปฏิเสธที่รับข้าวจากเรา

นายเจริญ กล่าวอีกว่า วันนี้มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เป็นวันที่ขึ้นแล้วหดหู่ที่สุด จากที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ทั่วอีสาน เราเป็นคนไทยด้วยกัน นับถือศาสนาเดียวกัน นับถือพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน รักพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน แล้วทำไมต้องเข่นฆ่ากันด้วย เพื่อใครล่ะ เพื่อคนคนเดียว

“เราชุมนุมสงบสันติ ปราศจากอาวุธ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ให้สิทธิไว้ พวกมึงจำเอาไว้ว่าเขาให้สิทธิพวกกูเอาไว้ ที่คุณอ้างว่าห้ามแล้วไม่ฟัง อยากจะถามว่าคุณเป็นใครมีสิทธิมาห้ามผม อยากจะพูดออกจากหัวใจจริงๆ แต่ต้องขอโทษ วันนี้มันรันทดจริงๆ ไม่ได้หลั่งน้ำตามาหลายสิบปีแล้ว ในฐานะลูกผู้ชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง เวลานี้ทุกคนเวลานอนนึกถึงภาพวันนั้นน้ำตามันไหลโดยไม่รู้ตัว ผมเห็นไม่ใช่ไม่เห็น ผมอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ใช่ไม่อยู่ ไม่ได้หนีไปไหน แต่เดชะบุญพวกสัตว์นรกกลุ่มแนวหน้าพวกนั้นที่จ้างมาฆ่าโดยเฉพาะ มันไม่รู้จักผม เวลานี้ถ้ามันดูเอเอสทีวีอยู่ มันคงนึกเสียใจ ว่า หัวละสองหมื่นบาท ทำไมมันไม่ตี” นายเจริญ กล่าว และว่า หลังเกิดเหตุ วิทยุบ้าบอนั่นก็ยังปลุกระดมเหมือนเคย เหมือนตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันด่าทั้งปี ไม่รู้เจ้าหน้าที่รัฐเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ที่ไหน

นายเจริญ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เข้ามาพาตนออกไปซ่อนตัวยังเซฟเฮาส์ ได้ถามว่า “ถามคุณเจริญจริงๆ ว่า ทำไมต้องมาทำตรงนี้ด้วย” แต่ตนไม่ตอบเขา เพราะเขาไม่คู่ควรจะฟังคำตอบจากตน ทั้งนี้ เชื่อว่าถ้าเราไม่สามารถล้มรัฐบาลหุ่นเชิดของ ฯพณฯ หอกหัก คนนี้ได้ อีกหน่อยไม่ใช่แค่ตีคนแน่ แต่มันคงจะจุดไฟเผาเมืองแน่ และที่เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองมันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะนายมันใกล้จะตายแล้ว นายมันโดนคดีใกล้จะจบสิ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายเจริญ ยืนยันว่า พันธมิตรฯ อุดรธานี จะยังต่อสู้ไปจนถึงที่สุด ซึ่งที่สุดของตนหมายถึงพวกสัตว์นรกพวกนั้นถูกตามล้างตามล่า แต่ขณะนี้กำลังมีคำสั่งย้ายตำรวจน้ำดีในอุดรธานีออกไปเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรฯ ที่ กทม.ควรจะติดตามเอามาตีแผ่

นายเจริญ กล่าวว่า รัฐบาลสมัครหมดความชอบธรรมที่จะเอาประเทศไปปู้ยี่ปู้ยำอีก เห็นได้ชัดเจนว่า รัฐบาลพรรคพลังประชาชน มุ่งแต่จะแก้รัฐธรรมนูญ และหาทางช่วยพวกพ้องโดยเฉพาะอดีตนายกฯ ขณะที่ข้าวยากหมากแพง กลับไม่เคยสนใจ คิดอยู่อย่างเดียวที่จะแก้รัฐธรรมนูญ และการพยายามจะแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ หลังจากเงียบหายไปพักหนึ่ง เหมือนมีนัยสำคัญบางอย่าง มีแนวโน้มจะให้มีการจัดกองกำลังของเขา เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในประเทศ เพื่อให้เป็นเงื่อนไขที่จะทำการอะไรสักอย่าง เพื่อให้เป็นเงื่อนไขที่จะลี้ภัยออกนอกประเทศ และเข่นฆ่ากันอีก

“เวลานี้นายใหญ่ไม่ได้มีจิตใจของความเป็นคนเหลืออยู่อีกแล้ว ทำทุกวิถีทาง ยิ่งนานไปทางถอยยิ่งตีบตัน ตีบตัน ตีบตัน ลงไปเรื่อย แล้วจะสังเกตได้ว่า ทำไมรัฐบาลหุ่นเชิดถึงได้ดื้อด้านเหลือเกิน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรยังไงก็ไม่ออก นายสมัคร ตอนนี้คงอยากจะออกวันละ 10 หน แต่จนใจที่ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง นายใหญ่บอกว่าต้องตื๊อให้ถึงที่สุด ยุบสภาก็ไม่ได้ ลาออกก็ไม่ได้ อีกไม่นาน นายสมัคร จะต้องอกแตกตาย” นายเจริญ กล่าว

นายโกวิทย์ ซึ่งเป็นการ์ดอาสาพันธมิตรฯอุดร กล่าวว่า ตอนแรกที่มาแค่ไม่กี่คน เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะกลับมาใหม่ เกณฑ์คนมากๆ มาปิดประตูตีแมว แล้วเขาก็กลับมาอีกร่วม 600 คน อาวุธครบมือ แล้ว ตชด.ก็ย้ายไปอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่ง เหมือนปล่อยให้ตำรวจน้อยที่สุด แล้วประตูก็ถูกเปิดให้เข้ามาง่ายดายเลย แล้วก็ได้ยินตำรวจพูดว่าอย่าให้ถึงตายนะ ตอนนั้นเราคาดไม่ถึงเพราะเราก็มีการ์ดน้อยนิดมีเพียง 50 กว่าคน หนองประจักษ์ก็กว้างขวางมาก เราดูแลไม่ทั่วถึง

นายโกวิทย์ กล่าวว่า ตนเสียใจมากที่ไม่สามารถปกป้องพี่น้องทั้งหลาย และมีบุคคลอีกหลายคนที่เจ็บหนักมากกว่านี้ สมองร้าว กะโหลกร้าว ตนโดนข้อหาว่าพาคนไปเจ็บ โดยที่คนของรัฐไม่เหลียวแลเลย ตอนนี้ตนกลับไปอุดรฯไม่ได้เลย เพราะโดนหมายหัว

ด้าน นายชนะศักดิ์ซึ่งบาดเจ็บหนักเล่าว่า มันเข้ามากันเหมือนหมาบ้า ถืออาวุธ ไม้ครบมือ ถูกคน 10 กว่าคนรุมทำร้าย ถูกตีจนหมวกกันน็อกหลุด ล้มลงก็ยังถูกเตะ ตี กระทืบ ขณะที่ตำรวจเข้ามาบอกว่าพอแล้วๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าทำไมคนไทยต้องทำกันขนาดนั้น เหมือนกับจะฆ่าให้ตาย คิดไม่ถึงว่าจะทำกันขนาดนั้น

“รอให้หายป่วยก่อน จะมาลุยต่อไม่ยอมแพ้ จะสู้ต่อไป ถึงแม้ตัวจะเจ็บแต่ใจยังสู้เต็มร้อย” นายชนะศักดิ์ กล่าว
ชนะศักดิ์ เลิศผ่องแพ้ว ถูกรุมตีอย่างป่าเถื่อนอาการสาหัส
กำลังโหลดความคิดเห็น