อดีตแกนนำ นปก. เดินหน้าถลุงภาษีประชาชนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ใช้ NBT เป็นกระบอกเสียงโจมตี พันธมิตรฯ เต็มสูบ ป้ายสี ต้องการสร้างความรุนแรงทุกทาง หวังให้เกิดรัฐประหารรอบใหม่ อ้างถ้าพันธมิตรฯ หยุดชุมนุมบ้านเมืองจะหยุดวุ่นวาย หมดท่าแจง งัดมุกสุดท้ายวอนประชาชนอย่าเชื่อพันธมิตรฯ
วันนี้ (24 ก.ค.) รายการความจริงวันนี้ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน
เนื้อหาในรายการได้เน้นไปที่การโจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าเป็นสาเหตุที่ทหารต้องออกมายึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย. 49 เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะจะเห็นได้ว่าเมื่อทำรัฐประหารสำเร็จ คนของกลุ่มพันธมิตรฯ หลายคน ต่างได้ดีมีตำแหน่งใหญ่โตในรัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ จากนั้นก็ดำเนินการร่วมมือกับคณะรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกับดักไม่ให้อดีตรัฐบาลกลับมามีอำนาจได้อีก เมื่อ รธน. 50 สำเร็จและได้รับการประชามติ กลุ่มพันธมิตรฯ บางส่วนก็ไปสังกัดที่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะคาดว่าน่าจะได้เป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล
แต่เมื่อผิดหวัง เพราะพรรคพลังประชาชนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี กลุ่มพันธมิตรฯ ก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อขับไล่รัฐบาลซึ่งไม่ใช่พรรคพวกของตัวเอง ซึ่งการดำเนินการของพันธมิตรฯ ก็ใช้วิธีการที่คล้ายกับครั้ง 19 ก.ย. 49 นั่นคือ พยายามนร้างเงื่อนไข และยุยงให้เกิดความรุนแรง เพื่อหวังว่าทหารจะออกมาทำการยึดอำนาจอีกครั้ง
เห็นได้จากสิ่งที่พันธมิตรฯ ดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ ก็คือ การทำยุทธวิธีดาวกระจาย เดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อปลุกระดม ให้เกิดความรุนแรงในที่ต่าง ๆ อย่างเช่นวานนี้ ที่เกิดเหตุ ปะทะกันที่ จ.อุดรธานี ก็เป็นเพราะพันธมิตรฯ ไปตั้งเวทีด่าว่ารัฐบาลที่นั่น ซึ่งประชาชนชาวอุดรธานี ก็มีคนที่ชื่นชอบรัฐบาลอยู่มาก จึงเกิดปะทะกันในที่สุด และเมื่อเกิดการปะทะกัน แกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่เคยรับผิดชอบ หนีไปทุกครั้ง เห็นได้จากการปะทะกันแต่ละครั้งพอมีเหตุการณ์ความรุนแรง แกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่เคยได้รับบาดเจ็บใดๆ มีแต่เพียงประชาชนคนธรรมดาที่ถูกพันธมิตรฯ ชักจูงไปเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บ
ผู้ดำเนินรายการยังได้กล่าวถึง การที่กลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ ปตท. กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิมว่า พันธมิตรฯ กำลังเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะอะไรที่เดินไปข้างหน้าแล้วมีการพัฒนาไปดีแล้ว ก็คงไม่มีใครยอมเดินถอยหลังตามที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการแน่
อย่างไรก็ตามพวกตนก็ยังแปลกใจว่า เหตุใดในวันนี้ที่นายสนธิ เป็นแกนนำไปเรียกร้องหน้าบริษัท ปตท. นั้น เหตุใดบริษัท ปตท. จึงไม่ตอบโต้นายสนธิบ้าง เพราะนายสนธิเอง ก็เคยไปกู้เงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ ปตท. มาเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีการใช้หนี้คืนแต่อย่างใด
ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวเรียกร้องให้ประชาชนอย่าได้เชื่อคำยุยง ปลุกระดมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะหากประชาชนยังเชื่อสิ่งที่พันธมิตรฯ ชักนำ ก็จะทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายไม่หยุด นอกจากนี้พวกตนยังอยากท้ากลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ถ้าหวังดีต่อบ้านเมืองจริง อยากให้บ้านเมืองสงบสุข อย่างที่กล่าวอ้างจริง ก็ลองหยุดชุมนุมสัก 1 เดือน แล้วจะรู้ว่าบ้านเมืองสงบมากขึ้นแค่ไหน
ทั้งนี้ แม้รัฐบาล จะปฏิเสธว่า “ความจริงวันนี้” เป็นรายการของเอกชน ไม่ใช่รายการที่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นกระบอกเสียงของ รัฐบาลที่จะใช้โจมตีพันธมิตรฯ แต่จากเนื้อหาในรายการในวันนี้ เป็นสิ่งทียืนยันได้อย่างชัดเจนว่า รายการดังกล่าวมุ่งเสนอข้อมูลที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มพันธมิตรฯ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่มีการกล่าวถึงเรื่องอื่น ๆ เลย และข้อมูลที่นำมาพูดก็เป็นข้อมูลเดิมๆ จนผู้ดำเนินรายการขาดความมั่นใจว่าประชาชนจะเชื่อหรือไม่ จึงต้องใช้เทคนิคทางการพูดอ้อนวอนประชาชนไม่ให้เชื่อพันธมิตรฯ ทั้งที่โดยหลักการแล้ว หากสิ่งที่พันธมิตรฯ พูดไม่เป็นความจริง จำนวนผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ จะลดน้อยลงจนต้องสลายตัวไปเอง แต่ในความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม เพราะจำนวนผู้สนับสนุนพันธมิตร มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นผลมาจากความผิดพลากบกพร่องของรัฐบาลในเรื่องต่างๆ ที่ปรากฏออกมาเรื่อยๆ
แม้กระทั่งล่าสุด กรณีกลุ่มคนรักอุดร ซึ่งเป้นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ไล่ทำร้ายพันธมิตรฯอุดรธานีอย่างป่าเถื่อนนั้น แม้ผู้ดำเนินรายการทั้งสามจะพยายามบิดเบือนและโยนความผิดไปให้พันธมิตรฯ แต่ข้อเท็จจริงก็ปรากฏชัดว่า ฝ่ายคนรักอุดรจงใจเข้าไปทำร้ายพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ป่าเถื่อน แต่พิธีกรทั้งสามก็เบี่ยงเบนประเด็นไปพูดว่าเวลามีเหตุที่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรไล่ทุบตีพันธมิตรฯ แล้วมีแต่ผู้ร่วมชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ แต่แกนนำไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก็ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เพราะที่อุดรธานีนั้น สุภาพสตรีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เป้นแกนนำพันธมิตรฯ ระดับจังหวัด และที่ จ.มหาสารคามวันก่อน นายการุณ ใสงาม ก็ถูกลูกหนังสติ๊กยิงที่กลางแสกหน้าจนต้องเย็บ 3 เข็ม ส่วนนางวชิราภรณ์ โคตรสาร แกนนำพันธมิตรฯมหาสารคาม ก็ถูกขว้างด้วยก้อนอิฐตัวหนอนจนกะโหลกร้าวและต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู
ที่สำคัญคือ การจัดชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญนั้น หากไม่มีอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปก่อกวน ก็ย่อมจะไม่เกิดความวุ่นวาย ซึ่งกรณีนี้ผู้ดำเนินรายการทั้งสาม ไมได้กล่าวโทษฝ่ายที่เข้าไปก่อกวนแม้แต่น้อย เพราะการชุมนุมหรือจัดสัมมนาตามที่ต่างๆ นั้น เป็นสิทธิในรัฐธรรมนูญที่รับรองมาตั้งแต่ฉบับัปี 2540 ใครก็ตามไม่มีสิทธิที่จะห้าม หรือใช้กำลังประทุษร้ายข่มขู่ไม่ให้จัดได้ ซึ่งการที่มีคนบางกลุ่มรวมตัวกันขัดขวางและใช้กำลังข่มขู่ทำร้ายเพื่อไม่ให้พันธมิตรฯ จัดชุมนุมตามจังหวัดต่างๆ นั้น ย่อมแสดงว่า คนเหล่านั้นยังไม่เข้าใจแม้กระทั่งหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย
นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการทั้งสามคนยังเคยเป็นแกนนำ นปก. และได้ตระเวนจัดการชุมนุมต่อต้าน คมช.ตามที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ก็น่าจะรู้ว่า ในการจัดชุมนุมนั้นถ้าไม่มีใครเข้าไปก่อกวนแล้ว ก็ย่อมจะไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น
ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่2)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
คลิก! ชม ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่1) (56K) |(256K)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
คลิก! ชม ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่3) (56K) |(256K)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
คลิก! ชม ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่4) (56K) |(256K)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
**พลิกปูมถ่อย! “ขวัญชัย ไพรพนา” เกณฑ์คนไล่ฆ่าพันธมิตรฯ อุดร**