6 คณะกรรมาธิการ วุฒิสภา แสดงจุดยืน 4.6 ตารางกิโลเมตรไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน พร้อมยืนยันคำพิพากษาศาลโลกไม่ได้ระบุถึงเขตแดนไทย-กัมพูชา เพียงให้ไทยส่งมอบตัวปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาเท่านั้น
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ตัวแทน 6 คณะกรรมาธิการวุฒิสภา นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล, นายสมชาย แสวงการ, น.ส.พิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ได้ร่วมกันแถลงจุดยืนของ ส.ว.ต่อปัญหากรณีปราสาทพระวิหาร ว่า ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีพื้นทีทับซ้อน มีแต่พื้นที่ของประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งอยู่ที่สันปันน้ำตามสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และคำพิพากษาศาลโลก พ.ศ.2505 ไม่ได้ระบุถึงเขตแดนไทย-กัมพูชา และไม่ได้ยอมรับแผนที่ฝรั่งเศส ที่กัมพูชาใช้เป็นหลักฐาน
อีกทั้งไทยได้ยื่นสงวนสิทธิที่จะรื้อฟื้นคดีใหม่ได้หากมีหลักฐาน ซึ่งสิทธินั้นยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ และการขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวไม่เกี่ยวกับพื้นที่นอกเหนือตัวปราสาทพระวิหาร จึงไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่จะให้ 6 ประเทศเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นของไทย
ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้มีมาตรการเร่งรัดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นเพิงพักร้านค้า รวมทั้งป้ายทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรในพื้นที่ของไทยโดยเร็ว และรัฐบาลจะต้องยกเลิกแถลงการณ์ร่วม และเอกสารประกอบการแถลงการณ์ร่วมทุกฉบับทันที เนื่องจากขัดกับมาตรา 190 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ สมาชิกวุฒิสภายังเตรียมที่จะเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษากรณีปัญหาเขาพระวิหารทันทีที่เปิดประชุมสมัยนิติบัญญัติ