“ทนายกู้ชาติ” จวก ตำรวจ อุดรธานี-บุรีรัมย์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยม็อบถ่อยครองเมือง ไล่ตีประชาชนจนบาดเจ็บสาหัส เตรียมไล่เช็กบิลดำเนินคดีต่อไป แฉ แผนสูงเตรียมค้านประกัน “สนธิ” แต่เจอพลังมวลชนกดดัน ขวัญผวาล้มไม่เป็นท่า ขณะเดียวกัน เปิดรับสมัครทีมทนายกู้ชาติทั่วประเทศ เพื่อร่วมปกป้องสิทธิพี่น้องพันธมิตรฯตามต่างจังหวัดได้อย่างทั่วถึง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ปราศรัย
วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 19.42 น.นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ตนได้พา ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปศาลแพ่ง ซึ่งระหว่างนั้นก็ทราบข่าวว่าพวกนั้นแอบไปขอหมายจับที่ศาลอาญา อย่างไรก็ตาม ตนได้เตรียมเขียนคำร้องเผื่อไว้สำหรับศาลอุทธรณ์ด้วย กรณีที่หากในวันนี้ศาลขั้นต้นไม่ให้ประกันด้วย โดยตั้งใจว่ายังไงก็จะต้องเอา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ออกให้ได้
นายสุวัตร กล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีการฟ้องร้อง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 เรื่อง และ ดร.ภูวดล อีก 1 เรื่อง และขอไต่สวนฉุนเฉิน ห้ามทั้งสองพูดคำว่า ทักษิณ ไอ้หน้าเหลี่ยม ระบอบทักษิณ มันจะมาแอบฟ้องเรา เหมือนพวกครูราชวินิต ซึ่งแอบไปฟ้องแล้วไต่สวนฉุกเฉิน เรามีบทเรียนตรงนั้นมาแล้ว คราวนี้กินตนไม่ได้หรอก เพราะทันทีที่เขายื่นคำฟ้อง ทนายตนซึ่งอยู่ประจำศาลแพ่ง โทรศัพท์มาบอกทันที ตนจึงยื่นคำร้องขอคัดค้านการไต่สวนฉุกเฉิน เลยทำให้สิ่งที่เขาหวังไว้ว่าเขาจะได้ตีลับหลังเลยทำไม่ได้ ในที่สุดก็ไต่สวนกันจนถึงบัดนี้ นายสมเกียรติ ก็ยังคงปราศรัยได้ทุกวัน ส่วน อ.ภูวดล ก็ยังบู๊ตามประสาท่านจนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ นายสุวัตร เผยถึงกรณีคดีของ นายสนธิ ว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเขาออกหมายจับแล้ว ตำรวจวานแผน ถ้าเข้ามอบตัวเมื่อวาน อย่างเช่น กรณี นายสมเกียรติ ก็จะไม่ให้ประกันตัว จะขังไว้หนึ่งคืน เช้าส่งไปศาลอาญาขอฝากขัง จะคัดค้านการประกันตัวอีก เพื่อจะให้นายสนธิ ติดคุกให้ได้ นี่คือ วิชามารที่วางแผนไว้ แต่วิชามารไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ธรรมะย่อมชนะอธรรม เป็นเช่นนี้เสมอมา วันนี้ พอ นายสนธิ ประกันตัวได้ พวกมันยิงเพจมาด่าตนกันเยอะแยะ ปล่อยมันให้มันช้ำใจเล่น ส่งข้อความมาด่าตน ทั้งๆ ที่เราทำตามหน้าที่ เวลารบกับคนเลว หาที่เปรียบไม่ได้ สู้คดีบนศาลก็สู้ตามฝีมือ นี่แพ้แล้วก็แอบส่งข้อความมาด่า อย่างนี้ก็มีด้วย ไอ้พวกที่รบด้วยเงินจะแพ้ด้วยใจเสมอ
นายสุวัตร กล่าวว่า วันนี้ ที่สามารถประกันตัว นายสนธิ ออกมาได้ ทั้งๆ ที่เขาตั้งใจไม่ให้ประกัน แต่เพราะพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ล่ะ ที่ยกขบวนไปหน้า บช.น.ด้านหลังสวนอัมพร เขามีพิธีรับพระราชทานปริญญา ขบวนเสด็จฯก็จะมาแล้ว พี่น้องก็อยู่กันเต็มไปหมด ตำรวจก็งงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จะทำยังไง เขาเลยตัดสินใจให้ประกันเลยดีกว่า นี่ล่ะฝีมือพี่น้องทั้งนั้นเลย ถ้าไม่ได้พ่อแม่พี่น้อง คุณสนธิ นอนคุกไปแล้ว ไม่ใช่ความเก่งของตนคนเดียว นี่คือใจ พลังของประชาชน นี่คือ ชัยชนะของประชาชนอย่างแท้จริง
นายสุวัตร ได้ขอบคุณพี่น้อง และ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความจากสภาทนายความ และคุณณัฐพร โตประยูร ซึ่งเป็นทนายของ นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีดีเอสไอ ที่มาช่วยในวันนี้ เราต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส บัดนี้ ทำให้คนดี ทนายดีๆ ฝ่ายธรรมะในบ้านเมืองมารวมตัวกัน เพื่อปฏิบัติภารกิจกู้ชาติ แต่ฝั่งตำรวจ ก็อดจะขอบคุณเสียไม่ได้ แม้เราจะยืนคนละฝั่ง ก็ไม่อยากให้พี่น้องโกรธ เพราะตำรวจทำงานตามหน้าที่ จะโกรธก็ควรจะโกรธนักการเมืองชั่วที่แอบสั่งอยู่เบื้องหลังตำรวจ ตำรวจมาพูดกับตน ว่า ลำบากใจที่จะต้องทำคดีนี้ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะขณะนี้ทรราชครองเมืองอยู่ หากไม่โอนอ่อนผ่อนตามก็ลำบากใจ
อย่างไรก็ตาม นายสุวัตร เล่าถึงเหตุการณ์ที่พา นายสนธิ เข้ามอบตัวว่า ตนรู้อยู่แล้วว่าเขาตั้งป้อม ว่า ไม่ให้ประกัน ตนก็ตั้งป้อมจะไปฟ้องเขา คำถามแรก ถามเขาก่อนเลยว่าวันนี้จะให้ประกันตัว นายสนธิ ไหม คำถามนี้เป็นคำถามที่จะเอาคนเข้าคุก ถ้าบอกไม่ให้ประกัน สิทธิของผู้ต้องหาต้องได้รับการประกันโดยเร็ว เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เขาก็บ่ายเบี่ยงว่าเป็นอำนาจของคนโน้นคนนี้โยนกันไปมา สรุปแล้วฟังได้ว่าเหมือนจะไม่ให้ประกัน แต่ไม่มีใครแอ่นอกมารับกระสุน จึงได้ถามอีกว่าถ้าไม่ให้ประกันที่ บช.น.เมื่อนำตัวไปประกันที่ศาลจะค้านการประกันตัวไหม เขาก็โยนกันไปมาอีก แต่ตนรู้แล้วว่าเขาทำคำร้องค้านประกันตัวไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ถามเพื่อหาตัวจำเลย
นายสุวัตร กล่าวต่อว่า ก่อนสอบปากคำ ก็ได้พูดกับตำรวจ ว่า พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.เราก็รู้จักกัน แม้ขณะนี้เราต้องยืนคนละฝั่ง แต่คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ การกระทำของ นายสนธิ ไม่เป็นความผิดกฎหมายเลย ในกรณีบุคคลหนึ่งหมิ่นประมาท และอีกบุคคลหนึ่ง เอาข้อความหมิ่นฯนั้นมากล่าวซ้ำ ถ้าจะเป็นความผิด ผู้ที่กล่าวซ้ำครั้งที่สองจะต้องมีเจตนาให้ผู้เสียหาย เขาเสียหาย แต่กรณีของนายสนธิไม่ใช่เลย เป็นเพียงการเล่าให้ฟังว่ามีคนทำเช่นนี้ และเรียกร้องให้ตำรวจมาจับเข้าคุกเสีย เพราะพูดตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.2551 แล้ว แต่ไม่มีใครทำอะไรเลย เมื่อเราได้พูดคุยอย่างนี้ เขาก็เข้าใจมุมของเรา ในที่สุด ฟ้ามีตา เขาเลยต้องอนุญาตให้ประกันตัว และไม่ได้คัดค้านการประกันตัว โดยไม่ต้องเสียเงินประกันตัว 3 แสนบาทด้วย ต้องขอบคุณ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.ที่เอาตำแหน่งไปประกัน
นายสุวัตร กล่าวอีกว่า อยากฝากไปบอก นายศุภชัย ใจสมุทร คุณเป็นทนาย ตนรู้ว่าอยู่เบื้องหลังทำคดีนี้ นายคำนูณ ไปประกันก็เป็นสิทธิของเขา และเขาก็ประกันครั้งแรก คุณมีสิทธิอะไรไปด่าเขา คุณต้องคิดว่าคุณทำอะไรอยู่
เรื่องของ นายสนธิ และ นายสมเกียรติ เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะคนที่ไปฟ้อง ชื่อ นายธนชาติ แสงประดับธรรมโชติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดสงขลา พรรคพลังประชาชน และ นายธนชาติ เคยรับมอบอำนาจจาก นายศุภชัย ให้ไปร้องคัดค้านเลือกตั้ง และยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในอดีต และ นายธนชาติ เป็นทนายความลูกน้องของนายศุภชัย
“กรณีโรงเรียนราชวินิต ก็ตาม คดี นายสมเกียรติ ก็ตาม และคดี นายสนธิ ก็ตาม ผู้อยู่เบื้องหลัง คือ พรรคพลังประชาชน ทั้งนั้น คนที่เป็นอีแอบไม่กล้าเปิดหน้ามาชกกับเขา จะชกก็แอบๆไป พอเจอเขาสู้เข้า แพ้เขา ก็เพจมาด่าพ่อด่าแม่เขา ทำอย่างนี้ได้ยังไง คนไม่มีมารยาท” นายสุวัตร กล่าว
ทั้งนี้ นายสุวัตร กล่าวว่า ต่อไปนี้ ฝากทุกเรื่องไว้กับ พล.ต.อ.จงรัก ที่ผิดพลาดในอดีตที่ทำร้ายเรา ขอให้หยุดเสีย ถ้ากลับใจได้มาเป็นตำรวจเคียงข้างประชาชนเถอะ ขอเรียกร้อง ไอ้พวกนักการเมืองทั้งหลาย มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ท่านเป็นตำรวจวิชาชีพ พล.ต.อ.จงรัก เป็นตำรวจที่เก่งในด้านกฎหมาย ฉะนั้น ถ้าเอาความเก่งของท่านมาอยู่กับพวกเรา ดีกว่าให้ไปอยู่กับไอ้เวรพวกนั้น ฉะนั้น อยากจะขอร้องพี่น้องว่าอย่าเกลียดตำรวจ อย่างที่บอกว่าตำรวจที่ดีมีเยอะ บางครั้งคนเราในระยะแรกอาจจะมองไม่ถูก แต่หนทางจะพิสูจน์ม้า กาลเวลาจะพิสูจน์คน แม้แต่โจรกลับใจเรายังให้อภัย ดังนั้น จงเอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ
นอกจากนั้น นายสุวัตร ยังพูดถึงกรณีที่พันธมิตรฯอุดรธานี ถูกม็อบถ่อยทำร้าย ว่า ฝากไปยังตำรวจอุดรธานี และบุรีรัมย์ ไม่ปล่อยไว้หรอก เดี๋ยว สุวัตร จะไปเช็กบิล
“คุณมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าชุมนุมด้วยความไม่สงบแล้วขนอาวุธมา เขาเรียกว่าโจร แล้วทำไมไม่จับ ปล่อยไว้ได้ยังไง ผมคงต้องมีภารกิจไปเอาผิดตำรวจอุดรธานีและบุรีรัมย์ ลากเข้าคุกเสียดีไหม” นายสุวัตร กล่าว
นายสุวัตร กล่าวว่า อยากฝากไปถึงพันธมิตรฯทั่วประเทศ รู้ว่าใจของท่านเกินร้อย อยากขอร้องว่าจังหวัดใดหากยังรวมตัวกันปริมาณยังไม่เพียงพอ ท่องไว้ว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ให้นั่งดูเอเอสทีวีที่บ้าน หรือมาที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นักรบศรีวิชัยจะดูแลท่าน เพราะหากว่ามีจำนวนน้อย แล้วไปตั้งเวที เวลาถูกตีมา เราที่กรุงเทพฯก็ช้ำใจ จะไปช่วยก็ไปไม่ไหว แต่ถ่ารวมกันได้เยอะๆเหมือนอย่างที่ชลบุรี เป็นหมื่นๆ ก็เปิดเวทีไปเลย
นอกจากนั้น นายสุวัตร ยังประกาศถึงทนายความทั่วประเทศด้วยว่า ทนายความผู้ใดที่มีจิตเป็นกุศล อยากช่วยพันธมิตรฯทั่วประเทศ อยากรับสมัครเพื่อเวลาพี่น้องจังหวัดใดๆ เกิดเรื่อง ก็จะโทรศัพท์แจ้งให้ไปดูแลกันอย่างทั่วถึงได้ เพราะส่วนกลางออกไปดูไม่ทัน กรุณาส่งประวัติของท่านพร้อมผลงานในอดีตที่ท่านทำมา แล้วส่งแฟกซ์มาที่ 02-669-4515 เราจะได้ร่วมกันไปดูแลพี่น้องได้ทั่วประเทศ ขณะนี้เรามีกองทุนพันธมิตรฯสู้คดีอยู่แล้ว จะได้สร้างความอบอุ่นใจให้พี่น้องที่อยู่ในต่างจังหวัด