“ไพศาล” ชี้คำวินิจฉัยของตุลาการ รธน.กรณี คตส.เป็นแบบอย่าง ป.ป.ช.ชอบด้วยกฎหมาย ไร้ปัญหา ยกเว้นจะหาเรื่องดิสเครดิต ชี้หากจะยื่นถอดถอน ต้องเป็นการทำผิดเฉพาะบุคคล ถ้าเป็นองค์กรถอดถอนไม่เป็นผล กลับยิ่งจะยืนยันฐานะ เตือนนักการเมือง จงใจไม่ปฏิบัติตาม รธน.มีความผิด
นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติสายนักกฎหมาย ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปัญหาที่มีการกล่าวหาองค์กรอิสระ โดยเฉพาะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีการขอถอดถอนว่าเป็นเรื่องสองเรื่อง เรื่องความชอบด้วยกฎหมายของ ป.ป.ช.เป็นเรื่องหนึ่ง และเรื่องถอดถอนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายไพศาล กล่าวว่าในเรื่องความชอบด้วยกฎหมายของ ป.ป.ช.นั้นทางออกมีอยู่แล้ว จากคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่าเป็นองค์กรที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญบัญญัติว่าผูกพันทั้งรัฐบาล รัฐสภา และศาล กรณีเป็นแบบอย่างเดียวกัน จึงมีผลเหมือนกัน และไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด เว้นแต่จะดิสเครดิตกันเท่านั้น
ส่วนในเรื่องการขอถอดถอน ป.ป.ช.นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การจะถอดถอนก็ต้องปรากฏพฤติการณ์และข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นเรื่องการกระทำเฉพาะตัว ไม่ใช่องค์กรคือ ป.ป.ช. ถ้าหากกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายก็ถอดถอนไม่ได้ ถึงจะขอถอดถอนก็ไม่มีผลอะไร กลับจะยิ่งเพิ่มและยืนยันฐานะให้กับ ป.ป.ช.เสียอีก จึงไม่น่าห่วงใยแต่ประการใด
นายไพศาล กล่าวด้วยความห่วงใยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นกฎหมายสูงสุด ทุกคนต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญโดยถ้วนหน้ากัน ในรัฐธรรมนูญเองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มีพระบรมราชโองการให้ทุกหมู่เหล่าร่วมกันรักษาและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ในคำถวายสัตย์ของคณะรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาก็ได้ถวายสัตย์ฯ ว่าจะรักษาและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ นี่เป็นพันธกรณี หากไม่ปฏิบัติก็ถือว่ากระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน ทุกฝ่ายจึงต้องตระหนักในเรื่องนี้