“สุริยะใส” ฝากถึงสมาคมวิชาชีพสื่อ และสมาคมวิทยุโทรทัศน์ฯให้ออกมาตรวจสอบกรณีเอ็นบีที นำกลุ่มพีทีวีมาออกอากาศ พร้อมชื่นชม “บิ๊กป๊อก” ที่ตรึงกำลังไว้ใน พท.แต่ฝั่งรัฐบาลกลับนิ่งเฉยไม่คิดจะทำอะไร จวกรัฐตำรวจเอ้อระเหยกว่าจะจัดการ กรณี “ดาตอร์ปิโด” ชี้ เรื่องนี้เป็นเพียงแค่เบี้ย ยังมีเบื้องหลังที่ลึกกว่านั้น
วันนี้ (22 ก.ค.) เวลา 18.00 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่นำเสนอรายการของอดีตแกนนำ นปก.ว่า ตนขอเรียกร้องสื่อ โดยเฉพาะสมาคมวิชาชีพสื่อ และสมาคมวิทยุโทรทัศน์ฯ ให้ออกมาตรวจสอบ ไม่ให้เผลอตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ขณะเดียวกัน ตนขอถามรัฐบาล ว่า เปิดโอกาสให้กลุ่มพีทีวีให้ข้อมูลผ่านพีทีวีไม่พออีกหรือ จึงเปิดโอกาสให้คนพวกนี้ใช้สื่อของรัฐ ที่เป็นภาษีของประชาชนมาเป็นกระบอกเสียงให้กับตัวเอง
นายสุริยะใส กล่าวต่อถึงกรณีที่รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในกรณีข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารว่า ตนขอชื่นชม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ยังคงตรึงกำลังทหารอยู่ในพื้นที่ แต่ในส่วนของรัฐบาลกลับมัวแต่ตั้งรับ ปล่อยให้รัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้รุกเร้าอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะกรณีที่อ้างวัด และชุมชน เป็นของกัมพูชา การดำเนินนโยบายต่างประเทศเพื่อตั้งรับเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นการดำเนินการเพื่อหวังผลประโยชน์ และเป็นประโยชน์ซับซ้อนของนายใหญ่อย่างแน่นอน ซึ่งทำให้กลายเป็นว่ารัฐบาลไทยต้องตามหลังกัมพูชาตลอด ดังนั้น รัฐบาลและฝ่ายการเมืองต้องออกมารับผิดชอบ แต่เราไม่หวังกับรัฐบาลชุดนี้ แต่หวังกับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาแก้ปัญหา
นายสุริยะใส กล่าวต่อถึงกรณีที่กองทัพบก มีท่าทีกับคดี “ดา ตอร์ปิโด” ว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดกองทัพถึงมีความฉับไวต่อเหตุการณ์นี้ แต่ตำรวจกับรัฐบาลกลับนิ่งเฉย โดยเฉพาะตำรวจสันติบาลที่อยู่ในพื้นที่สนามหลวงกลับยังนิ่งเฉย ดังนั้น ประเด็นนี้เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ทหารดำเนินการเหมือนกับเป็นการตบหน้ารัฐบาลและตำรวจ ซึ่งถือว่าทราบกระบวนการจาบจ้วงรัฐบาลกลับไม่มีท่าที โดยเฉพาะกรณีของ นายจักรภพ และ ดา ตอร์ปิโด ตนเชื่อว่า เป็นเพียงแค่เบี้ยๆ หนึ่ง แต่เชื่อว่ายังมีเบื้องหลังที่ยังทำเป็นกระบวนการ กรณีนี้ตนคิดว่าเป็นสถานการณ์อ่อนไหว รัฐบาลไม่สามารถจัดการพวกจาบจ้วงได้ กองทัพจึงต้องออกมาดำเนินการ