“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ขึ้นเวทีประกาศทวงคืนสมบัติชาติ จวกเละ ปตท.สร้างภาพน้ำดี หวังผูกขาดเจ้าตลาดน้ำมันในประเทศ เผย ทรราชการเงินได้กำไรจากผลพวงหุ้น ปตท.ที่ราคาถีบสูงสุดโต่ง แต่ประชาชนกลับไม่ได้อะไรเลย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 20.40 น.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวาน ว่า การทำงานของระบบตุลาการภิวัตน์กำลังเดินหน้า หลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณกำลังจะไปจบลงที่ศาล กระบวนการเดินหน้าขัดขวางทำทุกวิธีทางเพื่อถ่วงดุลอำนาจของศาลจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกล่าวหาคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เป็นรายล่าสุด
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ได้ย้ำถึงภารกิจการทวงคืน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่า หลังจาก ปตท.มีการแปรรูปไปเป็นบริษัทเอกชน ในแต่ละปี ปตท.มีกำไรเพิ่มมากขึ้น แต่กลับกันปั๊มน้ำมันกว่า 18,000 แห่ง ต้องประกาศหยุดกิจการ คงเหลือแต่ ปตท.ที่ผูกขาดน้ำมันไว้เพียงรายเดียว
“หลังจากระบอบทักษิณและทรราชการเงินเข้ายึด ปตท.ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2544 ปตท.มีกำไรอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้น จากที่เปิดขายในครั้งแรกราคาหุ้นละ 35 บาท แต่ถึงวันนี้หุ้น ปตท.ถีบตัวสูงขึ้นถึงหุ้นละ 352 บาท กำไรกว่า 600 เปอร์เซ็นต์ เห็นๆ ถามว่าใครได้ประโยชน์ นอกจากทรราชการเงินที่เข้ามาครอบครอง ปตท.ตั้งแต่ต้นนั่นเอง” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ เปิดเผยอีกว่า ปตท.ชอบแต่สร้างภาพลักษณ์ เห็นได้จากแต่ละครั้งที่บริษัทน้ำมันประกาศขึ้นราคา ปตท.จะไม่ประกาศขึ้นตามในทันที คอยประกาศขึ้นทีละครั้ง จนราคาเท่ากับบริษัทน้ำมันรายอื่น ประชาชนไม่รู้ เชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดีเท่านั้น
นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ยังประกาศเดินหน้าสู้เพื่อความถูกต้อง แม้ตัวเองจะถูกฟ้องร้องก็พร้อมที่จะพิสูจน์ ถึงแม้ว่าการถูกฟ้องในครั้งนี้ จะเป็นการฟ้องแบบไม่เลือกหน้า แต่ก็พร้อมและไม่หวั่นกลับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาล ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และสละชีวิตเพื่อธรรมะที่ถูกต้องต่อไป