ตรัง – กองทัพพันธมิตรฯ ตรัง กว่า 300 ตน เดินขบวนรณรงค์แสดงจุดยืน การสนับสนุนการเคลื่อนไหวกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรส่วนกลาง และรวบรวมกำลังพลเพื่อเดินทางขึ้นสมทบที่กรุงเทพฯ ต่อไป
วันนี้ (18 ก.ค.) กลุ่มพันธมิตรตรังเพื่อประชาธิปไตย พร้อมแนวร่วมได้รวมพลังเดินขบวนแสดงเจตนารมณ์ เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวกิจกรรมของกลุ่มพลังพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ นำโดย นายอมร อมรรัตนานนท์ และ อาจารย์วสันต์ สิทธิเขตต์ ซึ่งขบวนได้เริ่มเดินจากบริเวณหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดตรัง บริเวณหลังสถานีรถไฟตรัง ผ่านถนนกันตัง เดินหน้าเข้าสู่ถนนพระราม 6 เพื่อไปสิ้นสุดบริเวณสี่แยกหอนาฬิกาเมืองตรัง ก่อนการอ่านคำแถลงการณ์แสดงจุดยืนขับไล่รัฐบาลทรราช ทวงสมบัติชาติคืนมา
ทั้งนี้ บรรยากาศการเดินขบวนแสดงเจตนารมณ์ ของกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ และแนวร่วมจังหวัดตรัง เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้ร่วมเดินขบวนกว่า 300 คน พร้อมป้ายผ้าที่เขียนข้อความขับไล่รัฐบาล และรถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียง ซึ่งเปิดเพลงไอ้หน้าเหลี่ยมตลอดเส้นทางการเดิน ทั้งนี้ ระหว่างที่ขบวนเดินผ่านถนนสถานี และถนนพระราม 6 ซึ่งถือเป็นถนนย่านการค้า ในเขตเทศบาลนครตรัง สร้างความสนใจและเรียกกำลังในจากประชาชนสองข้างทางได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีประชาชนนำเงินมาใส่กล่องรับบริจาค เพื่อช่วยสมทบทุนการจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อไป
จากนั้นเมื่อถึงบริเวณสี่แยกหอนาฬิกาเมืองตรัง นายอมร และอาจารย์วสันต์ ได้ขึ้นไปปราศรัย และอ่านคำแถลงการณ์บนท้ายรถที่มีการติดตั้งเครื่องขยายเสียง โดยพูดถึงการไม่ยอมรับในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเดือนสิงหาคมที่กำลังจะมาถึงนี้ พร้อมทั้งกล่าวโจมตีการทำงานของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาว่า มีแต่ความล้มเหลว
พร้อมทั้งยังกล่าวถึงคำพูดของ นายสมัคร ที่กล่าวหาว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะทำการยึดศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งถือว่าไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ทุกแห่ง มีการจัดการชุมนุมด้วยสันติภาพวิธี ดังนั้น คำพูดของ นายสมัคร จึงแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะให้ทหารออกมาปฏิวัติ เพื่อที่จะได้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดเฉพาะกิจ และรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันก็จะถูกยกเลิกไปโดยปริยาย ซึ่งใช้เวลาในการอ่านแถลงการณ์ และกล่าวปราศรัย นานประมาณ 15 นาที
ต่อจากนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จังหวัดตรัง และแนวร่วม ได้เดินขบวนต่อไปตามถนนราชดำเนิน เพื่อกลับไปยังบริเวณหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดตรัง ก่อนแยกย้ายและไปรวมตัวกันที่บริเวณลานกิจกรรมหน้าสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง 2 ทุ่งแจ้ง เพื่อเปิดเวทีคู่ขนานกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ ต่ออีก 1 วัน โดยทั้ง นายอมร และอาจารย์วสันต์ พร้อมด้วยกลุ่มพันธมิตรฯ จากอำเภอหาดใหญ่ ได้ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย สลับกับการแสดงวงดนตรีเพื่อชีวิตชาวใต้ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนกำลังไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ ต่อไป