“โฆษกรัฐบาล” จวก “พันธมิตรฯ” ทำความสัมพันธ์ไทย-เขมร สั่นคลอน เป็นเหตุให้เขมรขอความช่วยเหลือจาก “ยูเอ็น” ทำให้ภาพลักษณ์ไทยเสียหายอย่างหนักในสายตานานาชาติ วอนพันธมิตรฯ ยุติการเคลื่อนไหวกรณี “เขาพระวิหาร”
วันนี้ (20 ก.ค.) พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 กรกฎาคม ทำเนียบรัฐบาลได้รับรายงานทางโทรศัพท์จาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำองค์การสหประชาติ ณ นครนิวยอร์ก ว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ทำหนังสือร้องเรียนกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาไปที่องค์การสหประชาชาติ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังรอรายละเอียดในคำร้องเรียนดังกล่าวว่ากัมพูชามีการร้องเรียนไปว่าอย่างไร เพื่อแก้ปัญหาต่อไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามเต็มที่ในการยุติเรื่องดังกล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนนั้น เป็นหน้าที่ของทหาร และกระทรวงการต่างประเทศจะเจรจาว่าจะใช้มาตรการใด อาจจะเป็นการอพยพคนไทยหรืออื่นๆ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยืดเยื้อมายาวนาน ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนๆ ซึ่งพื้นที่ทับซ้อนก็ถูกปล่อยปละละเลยให้ชาวกัมพูชามาตั้งถาวรสถาน ทั้งบ้านเรือน วัดและที่ทำการต่างๆ ทั้งนี้มีความพยายามที่จะเจรจาจากทางรัฐบาลไทย ซึ่งก็มีการตอบรับจากฝ่ายกัมพูชาแล้ว
“แต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกลับไปสร้างความกดดันให้ฝ่ายกัมพูชา ทั้งที่เคยมีการเตือนแล้วว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหว แต่สามารถตกลงกันได้ในทางการทูต แต่การกดดันของกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสั่นคลอน จนทำให้กัมพูชาไปขอความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อกลายเป็นความบาดหมางระหว่างประเทศเช่นนี้ ทำให้ภาพพจน์ของประเทศไทยเสียหายอย่างหนักในสายตานานาชาติ จึงขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหยุดความพยายามเคลื่อนไหวนอกกระบวนการที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชาติ” พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าว