xs
xsm
sm
md
lg

คารวะ “บุญสร้าง-อนุพงษ์” ตบหน้า “หมัก”! สั่งตรึงกำลัง “พระวิหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
“สมเกียรติ” น้อมจิตคารวะ “บุญสร้าง-อนุพงษ์” สั่งทหารตรึงกำลังบริเวณ “เขาพระวิหาร” ชี้ชัดถือเป็นการไม่ฟังคำสั่ง “หมัก” อีกต่อไป พร้อมส่งสัญญาณ 1 ส.ค.เป่านกหวีดเตรียมประจัญบาน เหตุเพราะ “รัฐบาลโจร” จนตรอก-เลือกทางรอดโดยการเร่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อกำจัด “ศาล” 
 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วันนี้ (15 ก.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกต้อง เพราะมีแต่พวกพลังธรรมทางศีลธรรม มาร่วมกันกอบกู้ชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2549 โดยประกาศว่าจะยึดสนามหลวงในวันที่ 24 ก.พ.2549 ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาขอร้องให้พูดกันดีๆ โดยจะเปิดสภาให้ซักฟอก เพราะเกรงประชาชนหลายแสนคนจะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง

“พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประกาศยุบสภาก่อนการชุมนุม 2 วัน และให้เลือกตั้งภายใน 30 วัน แต่ในขณะนั้น 3 พรรคการเมืองใหญ่ ไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย ส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จ้างพรรคเล็กให้แข่งเลือกตั้ง และใช้กระทรวงกลาโหมเป็นแหล่งการโกงเลือกตั้ง โดยแก้ไขฐานข้อมูล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปไม่ถึงดวงดาว ซึ่งผลการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทยกวาดเรียบทั้งภาคเหนือ และภาติอีสาน แต่ภาคใต้สอบตก ฉะนั้นจึงต้องขอคารวะพี่น้องชาวใต้ ที่ทำให้เกิดกรณียุบพรรคไทยรักไทย โดยช่วยสั่งสอนให้นักการเมืองหมดเนื้อหมดตัวมามากแล้ว ฉะนั้นพี่น้องภาคอีสานต้องรู้ตรวจสอบ ต่อต้าน และโค่นล้ม”

ส่วนสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด เนื่องจากทหารกัมพูชาจับ 3 คนไทย แล้วกักตัวไว้ที่บริเวณเขาพระวิหารนั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้มีข่าวว่ารัฐมนตรีซกอาน ไปเป็นประธานเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งที่ 2 ของเขมร โดยเขาถือว่าเป็นวันมหามงคลครั้งใหญ่ โดยฉลองถึง 9 วันแล้ว โดยวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาของไทย ขึ้นป้ายสีดำตัวใหญ่ว่า “อาลัยปราสาทพระวิหาร” ส่วนกรณีที่ทหารพรานถูกกับระเบิดจนขาขาดนั้น ตนได้ย้ำเตือนไปแล้วว่า ทหารไทยจะไม่ยอมไป แต่จะส่งทหารพรานไปตายแทน ดังนั้นจึงขอคารวะทหารพราน ทั้งๆ ที่พวกเขาได้รับเงินเดือนเพียงเล็กน้อย ถามว่าแล้วทหารหน่วยอื่นๆ หายไปไหน

“วันนี้ต้องขอคารวะ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะประกาศออกมา 2 ข้อคือ 1.ให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร แต่กล้าผิดเวลาเพราะความรู้สึกช้า เนื่องจากถูกสั่งให้หุบปาก 2.ให้ขับไล่ชาวกัมพูชาให้ออกไปจากพื้นที่ทับซ้อน ที่สำคัญต้องขอคารวะต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่มีคำสั่งให้ทหารไปยันเอาไว้ นั่นแสดงว่าทหารไทยไม่ฟังนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อีกแล้ว ซึ่งผลที่ออกมาคือ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ต้องลาออกอย่างสุนัขจนตรอก นอกจากนี้ นักวิชาการองค์กรไทยคดีศึกษา จะจัดสัมมนาโอบล้อมรัฐบาลเพื่อผลักดันให้กองทัพของประชาชน ไปที่ จ.ศรีสะเกษ” นายสมเกียรติ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรากำหนดเกมตามสถานการณ์ และใกล้ที่จะเป่านกหวีดอีกครั้งหนึ่งแบบวงเวียน เพราะศูนย์กลางของอำนาจรัฐบาลอยู่ตรงนี้ ดังนั้นเราจึงโอบล้อมรัฐบาล แล้วเราก็สร้างมหาวิทยาลัยสอนการเมือง เพื่อให้ประชาชนให้ได้รับความรู้เพิ่มเติม และถ้าเป่านกหวีดอีกครั้ง คาดว่าจะมีประชาชนกว่า 5 แสนคน เข้าร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน ที่สำคัญคนที่มาร่วมชุมนุมต่างหยิบยื่นน้ำใจให้กันและกัน ทั้งๆ ที่เรื่องเหล่านี้หายไปจาสังคมไทยนานแล้ว โดยเฉพาะกรณีของ “น้องกู้ชาติ” ซึ่งเกิดจากความรักระหว่างคนสองคนที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่ท้องสนามหลวง

“ทหารกลุ่มแรกที่ขึ้นไปขุดธงชาติไทยจากเขาพระวิหาร ซึ่งตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่นั้น ได้มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องหลั่งน้ำตาตามไปด้วย และถ้านับรวมน้ำตาของชาวไทยทั้งประเทศ ก็จะกลายเป็นกระแสธารอันยิ่งใหญ่ ส่วนที่เราแพ้กัมพูชากรณีเขาพระวิหารเมื่อปี พ.ศ.2505 นั้น เนื่องจากมีคนขโมยแผนที่ไปขายให้เขา และครั้งที่ 2 มีคนไปขายชาติ โดยบินไปขายถึงฝรั่งเศส และยืนยันว่าไทยไม่เสียดินแดน ส่งผลให้ยูเนสโกคิดว่าคนไทยไร้ราก เพราะประเทศไทยไม่มีประวัติศาสตร์สำนึก แต่เป็นประวัติศาสตร์เรียนรู้เพื่อท่องจำ”

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า แต่มีอยู่คนหนึ่งที่เรียนประวัติศาสตร์แบบสำนึก ทำให้ได้เป็นศาสตราจารย์ ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ซึ่ง ดร.ภูวดล ได้สะท้อนให้เห็นว่า เขารู้สึกเหนื่อยล้ากับคนไทยที่เรียนประวัติศาสตร์แบบไม่สำนึก ซึ่งมหาวิทยาลัยราชดำเนินกำลังสร้างรากให้กับคนไทย และตนเชื่อการร่วมชุมนุมของพันธมิตรฯ ใกล้ถึงวันสิ้นสุดแล้ว การประจัญบานจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลเหลือทางเลือกเดียวคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มจากการจัดการศาลเป็นอันดับแรก

“เป็นเหตุให้ ศ.จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาถามสังคม 3 ข้อว่า 1.จะยอมให้โจรมาแก้กฎหมายอาญา แล้วประชาชนจะยอมหรือไม่ 2.จะยอมให้นักการเมืองซื้อเสียงเลือกตั้งจากการแก้กฎหมายหรือไม่ 3.จะยอมให้พวกมิจฉาทิฐิมาครอบงำการแก้ไขกฎหมาย และรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องรอพันธมิตรฯ เราจึงต้องตั้งแกนนำพันธมิตรฯ สำรองขึ้นมาอีก 6 คน และถ้ารุ่น 2 สู้ไม่ไหว ก็จะมีอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาแทนที่ เพราะพันธมิตรฯ ไม่มีวันเหือดหายไปจากประเทศไทย” นายสมเกียรติ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น