นายกฯ ลั่นปรับ ครม.ใหญ่ ฟุ้งพรรคร่วมเหนียวแน่น เปรียบไม้ไผ่ฟ่อนเดียวกัน โวยผลงานเยือนต่างแดน 10 ประเทศ ถูกพวกกู้ชาติดิสเครดิต จองล้างจองผลาญแก้ รธน.แน่ไม่หวั่นเกิดวิกฤตการณ์รอบใหม่ อ้างต้นตอปัญหา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการสนทนาประสาสมัคร เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2551
วันนี้ (13 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางช่อง NBT และวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ว่า ตนเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองมาถูกต้องตามกฎหมาย กำลังบริหารบ้านเมืองอยู่ กำลังแก้ปัญหาอยู่ วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม จะแถลงเรื่องสำคัญ เพราะใช้เวลา 5 เดือนกว่าจะดำเนินการให้สำเร็จว่าจะเอาอย่างไร จะช่วยความทุกข์ประชาชนได้อย่างไร นี่จะทำอย่างไร จะแถลง 13.30 น. บ่ายโมงครึ่งวันอังคารหลัง ครม.จะมีแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เพราะทำสำเร็จเรียบร้อย ก็จะบอกประชาชนว่าคุณจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง การที่จะลดค่าใช้จ่ายจะทำอย่างไรบ้าง วันอังคารจะบอก ไม่รู้ว่าวันจันทร์จะถูกเขาสั่งยุติการดำเนินการหรือเปล่า เพราะทำกันทุกวิถีทาง ทั้งนี้ เรื่องสำคัญของนายสมัครหมายถึงการซื้อน้ำมันดีเซลจากรัสเซียที่มีราคาถูกกว่าในประเทศ 8 บาท
นายสมัคร กล่าวอีกว่า เรื่องความไม่ไว้วางใจหมดแล้ว กอบกู้กันมาจะตาย เดินทางไป 10 ประเทศ พูดจาต่างๆ เขาก็นั่งหัวเราะเยาะดูแล้วว่ารัฐบาลนี้จะไปได้แค่ไหนอย่างไร ก็ถูกขย้ำถูกขยี้ทุกวิถีทาง มาหมดเลย “ในถนนก็มีคนโขยกกันอยู่ ยกย่องสรรเสริญกัน มีคนใหญ่คนโตที่ยังคิดอ่านจะกอบกู้ชาติยังมี ยังมีคนเคยอยู่ตำแหน่งนั้น มาเจอคนตำแหน่งนั้น จัดงานวันเกิดเลี้ยงกันใหญ่โต ไม่มีใครไปเท่าไร ของที่กินกองไว้เหลือ เหลือขออย่างไร ขอขนเอาไปเลี้ยงพันธมิตรฯ ทำไมถึงต้องรู้ ต้องรู้สิต้องบอกให้รู้ว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องรู้ และจะคลายให้รู้กัน เขายังคิดยังทำกันอยู่ แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เป็นส่วนใหญ่ เขาถือว่าบ้านเมืองออกเดินมาแล้ว ถูกต้องตามกฎบัตรกฎหมาย”
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ตนประชุมคณะกรรมการตำรวจ ตำรวจก็ตำรวจว่าตำหนิกันในที่ประชุม เป็นทำนองว่าตำรวจที่บริหารไม่มีน้ำยา ปล่อยปละละเลยให้เกิดพรรค์อย่างนี้ ไม่ทำเรื่องกฎหมาย ตนให้เขาพูดเขาด่ากันเสร็จ และก็บอกว่าตนเองเป็นคนดึงมือไว้ “ทำไมล่ะ ก็มองเห็นชัดเจน ก็บอกเขาต้องการที่ให้ตำรวจคนหนึ่งฟาดหัวพันธมิตรฯ ไปเสียคน ต้องการเสียงปืนที่ตำรวจลั่นมาปัง หรือใครไปยิงตรงนั้น เขาต้องการให้มันเลือดตกยางออก ต้องการให้นองเลือด เขาจะได้มีเหตุผล จะได้เอาทหารมาปฏิวัติยึดอำนาจกันอีก แต่เขาทำได้ไหมล่ะ บ้านเมืองจะเป็นอย่างนั้น ก็รู้แล้วก็คำนี้มันด้าน ตำรวจกับตำรวจด่ากันกลางที่ประชุม ด่าเสร็จตนบอกตนเป็นคนดึงไว้เอง และตนต้องขอบคุณเขาด้วยที่ช่วยรักษาทางนี้ไม่ให้เลือดหยด ให้กระบองไปตีใคร ไม่ให้เสียงปืนลั่น เพราะเขาบอกว่าเสียงปืนลั่นมาบอกเราชนะแล้ว และกำลังนี้ทำอะไรกัน ที่ทำกันนี่”
“เวลานี้เอาสิครับต้องอาศัยเด็ก ผมก็ขอบคุณเด็ก เพราะเด็กก็เลือกศาล ศาลเพิ่งจะจัดการให้ ตอนนี้อาศัยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาฯ ก็ต้องร้องทุกข์ เป็นอย่างไรครับ ย้ายตรงนี้ไปอยู่ตรงนั้น ก็ดูสิครับว่าบ้านเมืองนี้เป็นอย่างไร แต่ผมต้องกลั้นไหมครับ ผมต้องกลั้น ผมไม่ต้องการให้เลือดตกยางออก ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ต้องอับอาย” นายสมัคร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายสมัครได้หยิบกระดาษขึ้นมา โดยอ้างว่าเป็นจดหมายจากประชาชนทางบ้านเขียนเข้ามาว่า “ไอ้สมัครบ้ากิน ตะกละ ไปไหนก็เร่ไปทำกับข้าว ที่สำคัญที่สุดทำเสร็จทั้งหมดแทนที่จะให้นักข่าวหรือคนในพื้นที่กิน เรียกว่า แจกเขาน่ะ เพราะวัตถุดิบตัวเองก็ไม่ได้ซื้อเงินมา พอทำเสร็จแล้ว ขนกลับบ้านหมด โอ้โฮ แน่จริงเขาบอกไอ้อุบาทว์ ทำอะไรต่างๆ บริหารบ้านเมืองก็ทำไม่เป็น ไม่มีความสามารถจะสะเออะอยากจะมาเป็นนายกฯ เพื่อจะได้บันทึกประวัติศาสตร์ตัวเอง แม้จะได้มาเป็นเพราะว่ามีใครเป็นคนจัดการมาให้ต่างๆ ไม่มีศักดิ์ศรี อำนาจ พลเมืองจำนวนมาก เขาทุเรศพฤติกรรมของแกจะแย่อยู่แล้ว นอกจากหน้าตาบุคลิกจะอุบาทว์แล้ว นิสัยยังถ่อย ฉะนั้น ที่เกิดมาไม่เคยพบเห็นนายกรัฐมนตรีที่จะมีความเลว ความถ่อยสถุลตั้งแต่พับผ่า สิ วันหนึ่งไม่เห็นจะบริหารอะไร ดีแต่ปาก ปากเห่าไปวันๆ ให้สัมภาษณ์ไปวันๆ เสร็จแล้วว่าอย่างไร ขอแช่งให้มันตายปุบปับ แผ่นดินไทยจะได้สูงขึ้น”
นายสมัคร กล่าวถึงข้อความดังกล่าวว่า ตนต้องอ่าน แต่คนชมไม่ต้องอ่าน แต่คนด่าต้องอ่าน แล้วเรื่องพรรค์อย่างนี้ ที่ด่าทอว่ากล่าวกันทั่วไป ตนก็บอกว่าไม่ใช่คนหน้าด้านหน้าทนอะไรมาจากไหน แต่ได้อาสาเข้ามา ตั้งแต่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไปหาเสียงเลือกตั้ง ได้รับเลือกตั้ง เข้าตามตรอกออกตามประตู เพราะฉะนั้น สิทธิเสรีภาพยังทำอยู่ แต่ว่าขบวนการที่จะทำนั้น เรื่องของรัฐธรรมนูญที่บอกว่าเป็นเหตุ พระพุทธเจ้าท่านบอกเลยให้ดับที่เหตุ เพราะฉะนั้น เหตุคือรัฐธรรมนูญต้องแก้
“แก้ครับ และต่อไปนี้จะแก้รัฐธรรมนูญ จะต้องแก้รัฐธรรมนูญครับ จะต้องเห็นพ้องต้องกัน จะต้องแก้เรื่องที่จะต้องยุบพรรค คนเดียวไปทำแล้วต้องยุบทั้งพรรค อันนี้ต้องแก้ครับ ที่ว่าจะไปครอบจักรวาลแล้วก็ลากเอารัฐมนตรีไปโดนอย่างนี้เข้า ก็ต้องแก้ครับ วุฒิสมาชิกจะแก้ไหม ต้องดูสิว่าเขาเป็นอย่างไร เพราะวุฒิสมาชิกเขาก็อยากให้มาช่วยแก้รัฐธรรมนูญ และเราเลือกตั้งแก้ไหมครับ แต่ก่อนคนเดียวเลือกได้ 15 ที่นั่ง ต่อมาทันสมัยเลือก 3 เลือก 2 เลือก 1 ต่อมาทันสมัยที่สุด คือ เลือกเขตละคน คนละเขต เหมือนกับในโลกเขา ร่วมกัน ให้มันยุ่งยาก เขียนรัฐธรรมนูญมาบอกให้ไปเลือกใหม่ 157 เขต เลือก 3 เลือก 2 เลือก 1 อย่างนี้ควรจะแก้ไหมครับ มีอะไรหลายอย่างจะแก้ 1-2-3-4 ไม่มากละครับ แต่ต้องแก้ และผมจะบอกไว้นะครับว่า ต่อไปนี้พอเปิดสภามาจะแก้รัฐธรรมนูญ ลองดูสิครับ ไปดูพฤติการณ์ของคนพวกไม่มีเหตุผลที่จะมาทำลาย” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า เรามีเหตุผลที่จะแก้ พูดวันนี้เพื่อจะบอกว่าเราจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ จะมาสร้างวิกฤตการณ์แก้อะไรไม่ได้ ก็เอาเถอะพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกไม่อยากให้แก้ รออีกหน่อย ไม่กี่วัน กกต.วินิจฉัย ว่าทางคุณได้ใบแดงเหมือนกัน เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย ยุบพรรคเหมือนกัน แล้วบ้านเมืองจะเหลืออะไร เวลานี้ท่านก็พูดได้ เพราะยังไม่โดนกับตัวเอง บัดนี้ก็ลามไปถึงโดนแล้ว
“เพราะฉะนั้นก็บอกไว้ว่าต้องแก้ไขเพื่อจะดับชนวนเรื่องนี้ ศาลท่านวินิจฉัยตามที่กำหนดไว้ให้ท่าน เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่เอาขึ้นไปให้ท่าน ก็จะไม่มีเรื่องขึ้นไป บ้านเมืองแก้ปัญหาได้ ผมบอกว่าผมรับผิดชอบ รับผิดชอบทุกสิ่งที่ผมพูด รับผิดชอบทุกอย่างที่ผมทำ แต่วันนี้ผมต้องร้องทุกข์กับท่านพี่น้องประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศทั้งประเทศ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า วันที่ 15 กรกฎาคม ตน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง จะนั่งและอธิบายให้ฟังว่าเรากำลังจะทำอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน รัฐบาลเป็นคน มีความคิดเหมือนกัน แต่ช้าหน่อย เพราะว่ามือไม่เจ๋งเหมือนคนอื่น ตนก็บ่นไว้ในสภาแล้ว คนเก่งๆ อย่าง คุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี เราก็อยากได้มา จะเอาฝ่ายค้านมาผสมรัฐบาล ฝ่ายค้านเขาไม่มาหรอก ถ้าฝ่ายรัฐบาลเขาก็คงไม่อยากให้นั่น จะกรอกแกรกอย่างไรก็พยายาม สุดท้ายแล้วเดี๋ยวจะบอก
ส่วนการปรับ ครม.นายสมัคร กล่าวว่า แล้วสมัครจะปรับ ครม.ไหม ปรับปรุงแน่นอน ปรับแน่นอนปรับใหญ่ด้วย และจะปรับให้ดีด้วย ปรับให้แข็งแรงด้วย ปรับให้เอาคนมีฝีมือมาช่วยบริหารบ้านเมืองด้วย ตนจะทำ แต่คงจะต้องรอ เพราะวันที่ 18 กรกฎาคม เขาต้องวินิจฉัยกันก่อนว่า 1-2-3 คนนี้เป็นอย่างไร มันมีอะไรรุงรุงพันเต แต่เขาเตรียมกันภายใน
“ผมเตรียมหมดแล้วครับ เตรียมว่าจับใครใส่ใครๆ อย่างไร ผมกำลังทำของผมอยู่ ถูกต้อง เขาบอกนายกรัฐมนตรีทำ ผมทำ แต่ผมมีที่ปรึกษาของผม คนนั้นเป็นอย่างไร คนนี้เป็นอย่างไร สำคัญที่สุดว่าคนเก่ง คนดีนั้น เขาไม่อยากมาลงเรือลำนี้ เขากลัวมันล่ม คือ กำลังนี้มันอันตราย คนแต่ก่อนนี้บอกเป็นรัฐมนตรี มีชื่อเสียง เกียรติยศ ยืดคอ แต่เดี๋ยวนี้เป็นรัฐมนตรี ขาข้างหนึ่งยื่นไปในตารางไว้ก่อน จะถูกขับเข้าไปอีกข้างเมื่อไรยังไม่รู้ แต่ก็ทำครับ อันตรายไหมครับ อันตรายครับ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า นักการเมืองทำตรงไปตรงมา จะทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ถ้าจะติดให้มันติดไป เพราะมันทำทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ถ้าทำงานการเมือง แก้ไขปัญหาบ้านเมือง แล้วเรื่องไม่มีอะไรแล้วลากเข้าไปให้มันรุมกัน เมื่อคืนอาจารย์คนหนึ่ง ตนบอกภรรยาว่าคนนี้เป็น ผศ.บอกอาจารย์ธรรมดายังไม่น่าจะเป็น คือ พูดจาพัวพันจะให้มีเรื่องให้ได้กับมาตรา 190 พูดจาทบไปทบมา มันประหลาด ไม่มีเรื่องอะไรเลย แต่พูดให้มีเรื่อง คนที่เป็นคนสนทนาก็นั่งอ้าปากรอจะพูด ตนบอกถ้าบ้านเมืองมีอย่างนี้เมื่อไร ก็บรรลัยวายวอดเท่านั้น ไม่มีเรื่องอะไรเลย แต่ก็ทำให้มีกัน แต่ถ้ามีตัวบทกฎหมายเขียนไว้ และศาลท่านต้องวินิจฉัย ต้องให้ท่านวินิจฉัย แต่ลองช่วยหน่อยว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะยื่นกฎหมายว่าถ้าวินิจฉัยว่าผิดติดตารางตลอดชีวิต ถึงประหารชีวิต นายนพดล คนเดียวยังไม่สะใจ ต้องเอาสมัครด้วย เอานายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย แล้วเป็นอย่างไรไหม ตนนี่แหละจะต้องนั่งถือหางเสืออยู่
“คุณเสนาะ เทียนทอง ท่านออกโทรทัศน์ ท่านบอกเลยว่าคุณสมัครเขาเป็นกัปตันถือหางเสืออยู่ๆ จะให้เขากระโดดน้ำหนีไป ยุบสภา เขาไม่ทำหรอก เขาถือหางเสืออยู่ มันต้องช่วยกันประคับประคองให้ถึงฝั่ง ผมพูดกับสมาชิกพรรคพลังประชาชน 230 คน ผมบอกแต่ละคนเหมือนไม้ไผ่คนละท่อน ไม้ไผ่ท่อนเดียว ไม้ไผ่หักได้ครับ แต่ว่าถ้ามัดกันเป็นทั้งฟ่อน 236 เป็นฟ่อนเดียวกัน พอลงไปแล้วน้ำจะเชี่ยวกรากอย่างไร มันข้ามฟากได้ครับ มันถึงฝั่งได้ แต่ต้องมัดเป็นท่อนเดียวกัน” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ตนก็จะมัด ครม.ไว้ท่อนเดียวกัน พรรคการเมืองอีก 5 พรรค ก็ต้องผูกไว้ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ถ้าเขาจะแยกไป ก็ต้องสุดแท้แต่ แต่ระหว่างนี้ถือว่า ทำงานให้คนทั้ง 5 พรรคทำงานร่วมกับตน ไม่เอาเปรียบ ไม่ไปหาความผิดพลาดไปป้ายอะไรเขา แต่ต้องทำงานอยู่ร่วมกันเป็นทีม และก็ทำกันมาดี 5 เดือนเท่านั้น มือใหม่หัดขับด้วย แต่บังเอิญเป็นนักการเมืองเก่า ค่อนชีวิตงานการเมือง เพราะฉะนั้นจะทำหน้าที่ของต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายสมัครกล่าวสวัสดีจบรายการแล้ว นายสมัครได้นั่งฮัมเพลงโชคมนุษย์ ซึ่งเป็นเพลงประกอบรายการอย่างอารมณ์ดี