xs
xsm
sm
md
lg

อนุ กกต.เสนอส่งศาล รธน.ฟัน “หมัก”จัด“ชิมไปบ่นไป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัคร สุนทรเวช
อนุ กกต.สอบ “หมัก” ขาดคุณสมบัติ นายกฯ กรณีเป็นพิธีกร “ชิมไปบ่นไป” มีมติเสียงข้างมากชง กกต.ยื่นศาล รธน.ฟัน เผยสรุปเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ขอให้ตรวจสอบว่าการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นพิธีกรรายการ “ชิมไปบ่นไป” เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ และคณะอนุกรรมการที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ เป็นประธานฯ ได้สรุปผลการสอบสวนโดย กกต.จะมีการพิจารณาในการประชุมวันที่ 16 ก.ค.นั้น มีรายงานว่า อนุกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้มีการวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงว่าการเป็นพิธีกรรายการ ชิมไปบ่นไปของนายสมัคร ถือว่ามีความผิดหรือไม่ แต่มีความเห็นในข้อกฎหมายโดยเสียงข้างมาก เห็นควรที่ กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ขณะที่อนุกรรมการฯ เสียงข้างน้อย เห็นว่า กรณีดังกล่าว กกต.ไม่จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยอีก เพราะจะเป็นการส่งสำนวนที่ซ้ำซ้อนกับกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ได้เข้าชื่อกันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ส่งเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีให้ประธานวุฒิสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ สำนวนร้องเรียนคุณสมบัตินายสมัครนั้น เคยมีประเด็นถกเถียงกันเรื่องอำนาจของ กกต. ในการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวมาแล้ว เนื่องจากมีการมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการร้องเรียนของนายเรืองไกร ก็มีช่องทางในการยื่นเรื่องผ่านประธานวุฒิสภาแทนการมาร้องต่อกกต.ได้อยู่แล้ว แต่ในขณะนั้น ที่ประชุม กกต.ก็มีมติด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 1 เห็นว่า อนุกรรมการฯ มีอำนาจสืบสวนสอบสวนต่อไป โดยให้เพิ่มบทบัญญัติกฎหมายที่มีอยู่แล้วเข้าไปในคำสั่งเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งการสอบสวนอนุฯได้ขอขยายเวลาการสอบถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกขยายเวลา15 วัน ระหว่างวันที่ 7-21 มิถุนายน ครั้งที่ 2 ขยายเวลาออกไประหว่าง 21 มิ.ย.- 6 ก.ค.

อย่างไรก็ตามการจะพิจารณาของ กกต.ว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ในวันที่ 16 ก.ค. มีข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า กกต.จะสามารถมีมติยืนตามอนุกรรมการเสียงข้างน้อยไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ กกต. เคยมีมติเสียงข้างมาก ส่งคำร้องกรณีคุณสมบัตินาย ไชยยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแม้ว่าขณะนั้นประธานวุฒิสภาจะส่งคำร้องดังกล่าวที่สมาชิกวุฒิสภาเข้าชื่อกันยื่นเรื่องไปให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติแล้วก็ตาม โดยที่ประชุม กกต. ได้ให้เหตุผลว่าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคท้าย ได้ให้อำนาจ กกต. ในการส่งเรื่องคุณสมบัติไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ด้วย ดังนั้นจะเท่ากับว่า กกต. สร้างบรรทัดฐานไว้ก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ว่าแม้มีองค์กรอื่นส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญก่อน กกต. ก็สามารถส่งเรื่องเดียวกันไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อีกเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น