“ปฐมพงษ์” ไม่หวั่นถูกสอบวินัย ยืนยันทำตามรัฐธรรมนูญ พร้อมชี้แจงผู้บังคับบัญชา ขณะที่ พันธมิตรฯเดินหน้าล่าชื่อถอดถอน ครม.หุ่นเชิด ฐานขายชาติ คาด อังคารหน้าได้ชื่อครบ ส่งถึงมือประธานวุฒิสภา ขณะเดียวกัน เตรียมดำเนินคดีอาญาซ้ำอีก อัดรัฐบาลทำพิลึก สอบ ปฐมพงษ์ แทนที่จะไปสอบเจ้ากรมแผนที่ทหาร ที่เป็นการสำคัญสมคบคิดกันขายแผ่นดิน
วันนี้ (11 ก.ค.) หลังจากที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯแล้วเสร็จ ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อด้านหลังเวที โดยตอบคำถามกรณีที่มีคำสั่งสอบวินัย ระบุว่า ตนยังไม่ได้รับคำสั่งดังกล่าว แต่หากได้รับแล้วก็พร้อมจะชี้แจงในทุกประเด็น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาอย่างไร แต่การพิจารณาในกรณีของตน ก็ต้องดูระเบียบคำสั่งและกฎหมายด้วย แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า ที่ตนเองได้พูดปราศรัยไปนั้น เป็นเรื่องที่ชัดเจนและยอมไม่ได้ ทั้งในเรื่องเขาพระวิหาร และเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตนคิดว่าหากล่าช้าเกินไปจะสร้างความเสียหายและจะมาเสียใจภายหลัง ส่วนเรื่องเครื่องแบบที่ตนแต่งขึ้นปราศรัยนั้น ตนได้รับการปลูกฝังมาจากรุ่นพี่ และมีบทเรียนมาตลอด ว่า ให้เรารักเครื่องแบบ และจะต้องไม่เหยียดหยามใคร
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อมั่นในวิจารณญาณของผู้บังคับบัญชา ว่า อะไรถูกไม่ถูก ส่วนเราก็จะคอยชี้แจง เพราะทหารได้ปฏิญาณตนต่อหน้าธงไชยเฉลิมพล แล้วว่า จะต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา และจะรักษาระเบียบวินัย แต่ในวรรคต่อมาก็ระบุด้วยว่า ผู้บังคับบัญชาก็จะต้องให้ความเป็นธรรมต่อผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาด้วย ซึ่งการปราศรัยของตน ตนเพียงต้องการสร้างแนวร่วมไม่ให้ใครมาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และต้องการสร้างแนวร่วมเพื่อเรียกร้องดินแดนคืนมา ไม่ใช่เป็นการปลุกระดม
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุถึงกรณีดังกล่าว ว่า ถ้ารัฐบาลอยากให้ความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ปฐมพงษ์ ก็ต้องฟังเนื้อหาการปราศรัยของท่านด้วย เพราะเนื้อหาดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ อีกทั้งที่ผ่านมา ผู้นำเหล่าทัพ ก็มีความนิ่งเฉย ไม่แสดงบทบาทชัดเจน โดยเฉพาะการสูญเสียอธิปไตย การที่ทางรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการสอบ พล.อ.ปฐมพงษ์ รัฐบาลควรที่จะสอบวินัยเจ้ากรมแผนที่ทหาร พ.ท.แดน มีชูอรรถ ซึ่งมีส่วนรู้เห็นและเอื้อให้ฝ่ายการเมือง จนทำให้กรณีขึ้นทะเบียนเขาวิหาร ตกเป็นสิทธิของกัมพูชาฝ่ายเดียว
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า การล่ารายชื่อประชาชนเพื่อยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรี หลังจากแสดงตนต่อประธานวุฒิสภา ในวันนี้แล้วจะมีการล่ารายชื่อ โดยคาดว่า วันจันทร์ จะครบจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด และในวันอังคารจะนำรายชื่อดังกล่าวไปยื่นถอดถอน นอกจากนี้ ทางพันธมิตรฯยังเตรียมที่แจ้งดำเนินคดีอาญา ต่อคณะรัฐมนตรีและผู้ทีเกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงข้าราชการ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย โดยใช้ช่องทางตามมาตรา 275 ที่จะร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 3 มาตรา ได้แก่ มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา119 ที่ระบุถึงบุคคลที่ทำให้ราชอาณาจักรสูญเสียอธิปไตย และมาตรา 120 ที่ระบุถึงความผิดที่ผู้ใดคบคิดเพื่อประโยชน์ของรัฐต่างประเทศ ซึ่งในฐานความผิดนี้จะหมายครอบคลุมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย ส่วนจะดำเนินการในวันใดนั้นทางแกนนำจะหารือในคืนนี้
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงการยืนยันจากฝ่ายรัฐบาลว่าจะไม่มีการลาออก และยุบสภานั้น ตนเห็นว่า เป็นอาการปากกล้าขาสั่นเท่านั้น การส่งสัญญาณดังกล่าว ก็เพื่อบีบข้าราชการที่ทำหน้าที่เพราะว่าในขณะนี้ทางราชการไม่สามารถปฏิบัติงานได้แล้วเป็นเพียงการยืนยันให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเท่านั้น เพราะต่อจากนี้ไปสิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ สิ่งทีเรียกว่า โดมิโนทางการเมือง เพราะว่ารัฐบาลจะไปทั้งแผง ส่วนด้านพันธมิตรฯ ก็คงไม่หวั่นไหวและยืนหยัดที่จะต่อสู้ต่อไป