“สมชาย” ยืดอกการันตีแทน “แม้ว” คดีขึ้นสู่ศาลคงไม่มีใครแทรกแซงได้ วอนพันธมิตรฯ อย่าใช้วิธีดาวกระจายกดดัน อ้างรักชาติเหมือนกัน เล่นลิ้นเลิกแก้ รธน. ส่วน ส.ส.พลังแม้วล่ารายชื่อหวังยื่นญัตติแก้น รธน.รอบสองเป็นอีกเรื่อง
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันมิตรเตรียมปรับยุทธวิธีเป็นแผนดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า คดีความเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่มีขั้นตอนในการดำเนินการไม่มีใครไปทำอะไรได้ สุดท้ายต้องส่งเรื่องไปที่ศาล ถึงไม่มีใครไปจัดการ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งตนถือว่าคดีความเรื่องใดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีทางไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชาชนเสนอให้มีการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อหาทางลงและยุติบทบาท นายสมชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องจับตาดูสถานการณ์ แต่หากจะมีการเจรจาก็ถือเป็นเรื่องที่ดีคุยกันด้วยเหตุผลให้เข้าใจกันเพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน ทุกคนล้วนแต่รักชาติไทย รักประชาชนคนไทย ดังนั้นจึงควรที่จะหันหน้ามาคุยกันให้เข้าใจ ซึ่งทุกวันนี้เหตุการณ์บ้านเมืองมีปัญหาแต่การทำงานของรัฐบาลก็เป็นไปตามปกติยึดถือตามกฎหมายและระบอบประชาธิปไตยให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ประเมินการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรบ้างหรือไม่ว่าจะกระทบต่อเรื่องเศรษฐกิจ นายสมชาย กล่าวว่า เท่าที่เห็นก็เห็นอยู่ทั้งเรื่องการจราจร ปัญหาการลงทุนตลาดหุ้นตก จึงบอกว่าควรใช้เหตุผลคุยกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลไม่อยากจะปล่อยให้เหตุการณ์ยืดเยื้อแต่ว่าควรจะมาทำความเข้าใจให้ปัญหาจบลงและประเทศจะได้เดินหน้าต่อไปได้
เมื่อถามว่าสุดสัปดาห์นี้กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะชุมนุมใหญ่ นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องการเจรจารอมชอมพูดยาก เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามจะดำเนินการแล้ว เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเพิ่งทำงานได้ 3 เดือนก็มีการเรียกร้องจากกลุ่มพันธมิตรซึ่งเรื่องนี้ตนพูดจนเบื่อแล้ว
ต่อข้อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความชัดเจนว่าจะยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เท่าที่ฟังการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ทำต่อแล้ว ส่วนเรื่องการจัดทำกฎหมายประชามติเป็นเรื่องของกกต.ที่เสนอเข้าสู่สภา ส่วนการที่นายนิสิต สินธุไพร กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เตรียมล่ารายชื่อเพื่อเสนอยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบสองนั้นก็ต้องรอฟังการหารือของพรรค แต่ตนเห็นว่าการที่มีการรวบรวมรายชื่อของ ส.ส.เพื่อเสนอญัตติไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปหวาดระแวง ซึ่งต้องดู ส.ส.จะดำเนินการอะไรบ้าง และส่วนตัวคิดว่าใครจะไปคุยอะไรกับใคร จริงๆ แล้วพันธมิตรฯ ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้แล้ว จึงมองว่าทุกฝ่ายควรใช้เหตุผลมากกว่าเพราะขั้นตอนดังกล่าวได้เข้าไปอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาแล้ว
เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ดาวกระจายจะส่งผลกระทบต่อประชาชนมากขึ้นหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนคิดว่าจะทำอะไรอย่ารบกวนสิทธิของคนอื่นและผิดกฎหมาย สังคมจะได้ไม่เดือดร้อน และเจ้าหน้าที่ก็กำลังดูแลอยู่