กมธ.ต่างประเทศ เมินสอบ “นพดล” เซ็นแถลงการณ์ร่วมเขมรขัด รธน.อ้างเลยขั้นตอนมาแล้ว ปล่อยเป็นกระบวนการของศาล ฝันเดินหน้าสร้างสัมพันธ์บริหารร่วมพื้นที่ทับซ้อนกัมพูชา
ที่รัฐสภา ในช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีว่าที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง เป็นประธานในการประชุม เพื่อกำหนดกรอบในการทำงาน กระทั่งเวลา 11.30 น. นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน และน.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายดนุพร กล่าวว่า กรรมาธิการได้ประชุมกำหนดกรอบการทำงานของกรรมาธิการโดยการเร่งสร้างความสัมพันธ์กับกัมพูชา หลังจากที่ยูเนสโกให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เพื่อที่จะเดินหน้าให้ไทย-กัมพูชาได้มีส่วนเข้ามาบริหารร่วมกัน โดยเฉพาะฝ่ายไทยจะเร่งบูรณะทางเชื่อมที่จะขึ้นไปยังปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อร่วมกันพัฒนาทั้งสองประเทศ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
น.ส.รัชดา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้ให้ความสำคัญกรณีเข้าพระวิหารโดยได้มีการตั้งญัตติศึกษาผลกระทบจากการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นกรณีศึกษา โดยจะเดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ กรรมาธิการยังได้มีมติเห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ อนุกรรมาธิการเพื่อรักษาผลประโยชน์ และอนุกรรมาธิการความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในส่วนของ พม่า กัมพูชา และลาว เนื่องจากเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เมื่อถามว่า ทางอนุกรรมาธิการได้มีการตรวจสอบการร่วมลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศได้ลงนาม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 หรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เนื่องจากได้ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว จึงหารือเฉพาะในส่วนของการฟื้นฟูความสัมพันธ์และบริหารบริเวณพื้นที่ทับซ้อน
เมื่อถามว่า ประเด็นที่สังคมคาใจในเรื่องการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเพียงฝ่ายเดียวเดียวทางกรรมาธิการต่างประเทศจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร นายดนุพร กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งรายละเอียดกรรมาธิการยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ เราเน้นประโยชน์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหลักมากกว่า เรื่องใครผิดใครถูกคงไม่เข้าไปตรวจสอบเพราะกรรมาธิการจะเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เมื่อถามว่า ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนหลังจากกัมพูชาได้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารทางกรรมาธิการต่างประเทศของไปจะเข้าไปมีบทบาทแก้ไขปัญหาในเชิงลึกอย่างไร นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุมได้มีการหารือพูดคุยพอสมควรแต่ยังไม่ได้พูดกันในเชิงลึก โดยจะมีการเชิญท่านทูตมาหารือรวมทั้งจะลงพื้นที่ใน จ.ศรีสะเกษ ด้วย เพื่อรับฟังปัญหาเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีในระยะเวลาอันใกล้นี้