“อภิสิทธิ์” ตำหนินายกฯ ชักเพี้ยนชอบปูดข่าวมีขบวนการเตรียมล็อกตัวที่สนามบิน ระบุไม่ได้ส่งผลดีต่อรัฐบาลและเสถียรภาพบ้านเมือง แนะหากเป็นเรื่องต้องเร่งจัดการเพราะมีอำนาจในมือ
วันนี้ (4 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม กล่าวว่ามีกระบวนการที่จะเอาออกจากตำแหน่งและมีการปล่อยข่าวจะมีการจับกุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า ตนไม่ทราบว่าเจตนาของนายกรัฐมนตรีคืออะไร แต่การพูดลักษณะนี้ไม่ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองและไม่ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอะไรได้ ทั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดในทำนองนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยทักท้วงไปหลายครั้ง ทั้งนี้หากสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดเป็นความจริงรัฐบาลจะต้องดำเนินการ แต่หากไม่เป็นความจริงผลเสียจะตกอยู่กับรัฐบาลเองเพราะทำให้เกิดความหวั่นไหวในตัวรัฐบาลและเสถียรภาพของรัฐบาล
“อยากย้ำอีกครั้งว่า ท่านนายกฯ น่าจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดลักษณะนี้ คือถ้ามีอะไรที่ผิดปกติท่านก็ดำเนินการไปเลย การพูดลักษณะนี้มีแต่จะบั่นทอนรัฐบาล ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ ลำบากมากขึ้น ส่วนเหตุผลจะเป็นเพราะอะไรผมไม่ทราบ เรื่องแบบนี้ได้ยินครั้งแรกก็ได้ยินจากท่านนายกฯนี่ แหละ ดังนั้นดีที่สุดคือหลีกเลี่ยง แล้วไปสร้างบรรยากาศในการแก้ไขปัญหาดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ที่กระแสข่าวที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการปรับ ครม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่าหากนายกรัฐมนตรีจะปรับ ครม.โดยเร็วจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่หากจะปรับ ครม.ทีละตำแหน่งเมื่อมีปัญหาจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองยังคงหมกมุ่นอยู่เฉพาะเรื่องนี้ซึ่งไม่เป็นผลดี
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่ารัฐบาลหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกรณีเขาพระวิหาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องรอดูผลการตัดสินของกรรมการมรดกโลกว่าจะตัดสินเรื่องนี้อย่างไร และดูบทบาทของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ที่จะเดินทางไปยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจะทำได้สำเร็จเรียบร้อยเพียงใด รวมถึงรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยว่ามติ ครม.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และศาลปกครองซึ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปแล้วจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร อย่างไรก็ดี แม้ว่าคำวินิจฉัยของศาลปกครองจะมีผลบังคับในประเทศแต่คณะกรรมการมรดกโลกน่าจะนำไปเป็นปัจจัยในการตัดสินใจว่าหากตัดสินใจอย่างไรไปแล้วจะมีผลต่อประเทศที่มีผลได้เสียงโดยตรง คณะกรรมการมรดกโลกจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ