“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตรอง หน.พรรคชาติไทย เชื่อ อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่สามารถขจัดปัญหาการเมืองได้ เหตุ พรรคร่วม รบ.ยังเห็นแก่ตัว ไม่กล้าแตกแถว เพราะกลัวไม่ได้เป็นรัฐมนตรี – เย้ย “หุ่นเชิด” ไม่รู้โง่หรือฉลาด ที่ไปเซ็นเห็นชอบเรื่องเขาพระวิหารให้กัมพูชา จนถูกหยิบมาโจมตี เชื่อ “นพเหล่” เหลือเวลาเป็นรัฐมนตรีอีกไม่นาน
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในขณะนี้ว่า ตนประเมินว่า ถึงฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไรไปก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อสุดท้ายมีการลงมติไม่ไว้วางใจ คะแนนเสียงของทางรัฐบาลก็ชนะอยู่ดี คงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงเป็นสาเหตุให้ปัญหาทางการเมืองยังคงอยู่ และการเมืองนอกสภา ยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนี้ ตนยังมองว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค ทำตัวเงียบเชียบ และมองแต่ผลประโยชน์ของตัวเองมากเกินไป ทั้งที่จริงแล้วหาก 5 พรรคมีความเป็นตัวของตัวเอง และให้อิสระ ส.ส.ในการตัดสินใจที่จะลงมติไม่ไว้วางใจมากกว่านี้ การเมืองบ้านเราในตอนนี้คงดีขึ้น แต่ตนก็มองว่าคงเป็นไปไม่ได้ อาจเป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลกลัวว่าถ้าทำอะไรแตกแถว เดี๋ยวจะอดเป็นรัฐมนตรี จึงมีการตั้งธงเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้อง ให้ ส.ส.ในพรรคตนลงมติไว้วางใจรัฐบาล
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า จริงๆ แล้วปัญหาที่นำมาอภิปรายในตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก เรื่องหนักๆ มีอยู่เรื่องเดียว คือ เรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งตนแปลกใจว่า ทำไมรัฐบาลถึงต้องมาทำเรื่องนี้ในตอนนี้ ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดนี้โง่หรือฉลาด ทั้งที่มีเรื่องอื่นๆ ให้ทำอีกเยอะแยะ น่าจะเอาเวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังจะ ดีเสียกว่า และรัฐบาลก็รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายค้านและ พวกการเมืองนอกสภาเขาจับตามองอยู่ ยังจะไปทำเรื่องที่ก่อปัญหาขึ้นมาให้การเมืองนอกสภานำไปใช้โจมตีได้อีก
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมเค้าต้องไปเซ็นเรื่องเขาพระวิหารกันตอนนี้ โง่หรือฉลาดก็ไม่รู้ ถ้าเป็นผม ผมไม่เซ็นหรอก ก็รู้อยู่ว่าเขาจับตามองคุณอยู่ ยังจะไปทำเรื่องที่มีปัญหาให้เขาหยิบมาโจมตีได้อีก”
ดังนั้น ตนจึงวิเคราะห์ว่าหลังจากนี้ต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีไม่อย่างนั้นรัฐบาลชุดนี้จะอยู่อย่างลำบาก ส่วนนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ก็คงมีเวลาอีกไม่นาน น่าจะถูกปรับเปลี่ยนเพราะทำพลาดไว้เยอะ เรื่องเขาพระวิหาร
