xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” ฉะแหลก “หมัก” ไร้สำนึกรักชาติ! เมินปม “เขาพระวิหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตย
“สมศักดิ์” ตอกหน้า “หมัก” ไม่เห็นความสำคัญของกรณี “เขาพระวิหาร” ถือว่าไร้สำนึกปกป้องประเทศชาติ แฉพิรุธ “นายกฯ” โพล่งทวงบุญคุณ “แม้ว” กลางสภา เพราะมีเบื้องหลัง พร้อมแนะ ปชช.ช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยการยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย 

เมื่อเวลาประมาณ 01.50 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ โดยกล่าวว่า ถึงวันนี้อยากจะสรุปให้เห็นความก้าวหน้าในการต่อสู้ร่วมกันว่า เมื่อปี 2549 เราสามารถขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีทางเลือก คือ ติดคุก หรือ ถูกเนรเทศ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับเข้ามาในประเทศได้เพราะไปตั้งนายสมัคร สุนทรเวช และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขึ้นมา ทำให้ประเทศชาติซวย โดยเฉพาะนายสมัคร ได้เป็นหัวหน้ารัฐบาลหุ่นเชิด และที่นายสมัคร บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหนี้บุญคุณนั้น ความหมายคือ ถ้านายสมัครไม่เป็นหุ่นเชิดแล้วจะเอาใครมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งต้องมีอะไรกันลึกๆ อยู่บ้าง ดูได้จากการจัดรายการกินไปบ่นไป เดือนละ 70,000 บาทยังเอาเลย

“และถึงแม้ว่า กกต.จะตัดสินว่าไม่มีคำว่านอมินีอยู่ในกฎหมายนั้น น่าเศร้าใจว่าทำไม กกต.ถึงไม่เข้าใจคำว่านอมินี ดังนั้นอย่าไปหวังอะไรเลยกับการอภิปรายในสภา เพราะมีแต่หลอกพวกเรา และโกหกเหมือนเดิม ระบบการเมืองมันเละเทะ แล้วตอนนี้นายจักภพ เพ็ญแข เตรียมที่จะกลับมาจัดรายการ รอบโลกกับจักรภพ ที่สถานีโทรทัศน์บีเอ็นที ซึ่งถือเป็นเรื่องสยอง ทั้งๆ ที่ยังมีเรื่องจาบจ้วงสถาบันค้างคาอยู่ ดังนั้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะมีการเป่านกหวีดกันอีกครั้ง ซึ่งจะมีคนมาเพิ่มจำนวนอีกมาก และก็ยังไม่วายหาว่าพวกเราปลุกระดม” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นายสมัครคิดว่าเรื่องเขาพระวิหารไม่สำคัญ ทั้งๆ ที่สมควรที่จะปกป้องประเทศในฐานะคนไทย และต้องหวงเอกราชอธิปไตย แต่เราซวยเพราเรามีรัฐบาลนอมินีที่เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไปจับมือกับฮุนเซน และที่เรามาอยู่ที่นี่เพื่อเคลื่อนไหวร่วมกันจนสามารถยึดพื้นที่บริเวณหน้าทำเนียบฯ ได้นั้น นายสมัครเขาถือว่าเขาแพ้แล้ว เพราะการที่คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากคนไม่ชอบ ซึ่งมีแต่คนหน้าด้านเท่านั้นที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป

“เรื่องที่จะไปขึ้นศาลปกครอง ดูอย่างไรเขาก็แพ้ เพราะเขาแก้ไม่ตก ซึ่งจะทำให้กระบวนการตื่นตัวของประเทศไทยถูกปลุกขึ้นมา และตอนนี้รัฐบาลกำลังจะทบทวนมติ ครม. เพื่อที่จะแก้ไข โดยพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่าเขายอมแล้ว เราทำไมไม่ให้อภัย มันก็เหมือนกับโจรที่เวลาทำผิดแล้วเอาของมาคืนไม่ได้ เพราะความผิดมันสำเร็จแล้ว ดังนั้นคุณต้องรับผิดชอบ เพราะที่ลงนามไปแล้ว ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ฉะนั้นต่อไปนี้จะมีประชาชนมาร่วมกับเรานับล้านคน และเมื่อนั้น เขาพยายามที่จะสร้างภาพว่าคนที่มาชุมนุมนั้นมีไม่มาก นอกจากนี้ยังเอาเรื่องเด็กมาร้องเรียนเรื่องไม่ได้เรียนหนังสือเพราะเสียงรบกวน ถามว่าระหว่างเรื่องเรียนกับเรื่องของประเทศชาตินั้น ควรที่จะต้องลำดับความสำคัญอย่างไหนก่อนกัน” นายสมศักดิ์ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า นักศึกษาสมัยก่อนเวลามีเหตุการณ์อะไรเขาตื่นตัวกันมาก แต่สมัยนี้ระบบทุนนิยมครอบงำ ทำให้คนเห็นแก่ตัว โดยสังคมใหม่นั้นประชาชนจะต้องเห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว จะเห็นได้จากเงินบริจาคให้กับพันธมิตรฯ ต่อวันนั้น มากนับแสนบาท ซึ่งเราเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่มีแสงสว่างในตัวเอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อีกทั้งสื่อส่วนใหญ่มีแต่คำว่าธุรกิจ เพราะโฆษณาต่อนาทีประมาณ 1 แสนบาท แต่เอเอสทีวีไม่เสียแม้แต่สลึงเดียว และนักดนตรีแต่ละคนที่ขึ้นมาเล่นมีความหมายทั้งสิ้น

“ดังนั้น เราควรที่จะร่วมกันเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างสังคมที่ไม่เบียดเบียนกันโดยใช้เศรษฐกิจพอเพียง นี่คือสิ่งแรกที่ต้องทำ แต่เราซวยที่เรามีรัฐบาลเฮงซวย ซึ่งนายสมัคร บอกเองว่า คำว่าเฮงซวยไม่ได้เป็นคำที่ไม่สุภาพ อีกทั้งเรามาชุมนุมโดยไม่มีอาวุธ ดังนั้นเราอย่าไปกดดันตัวเอง และที่เรามายึดที่ทำเนียบฯ ได้นั้น ทำให้เขาหมดความชอบธรรม ซึ่งถือเป็นชัยชนะของเราในด้านข้อมูลข่าวสาร เพราะเราติดอาวุธทางปัญญา โดยเราเริ่มต้นเป็นหมื่นเป็นแสนคน และคนที่มาเข้าร่วมชุมนุมมีมากกว่าตอนที่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ครูอาจารย์ทั้งหลายต้องไม่นั่งอยู่ในห้องเรียน ต้องคิดเป็นทำเป็น รวมทั้งเกษตรกรต้องมีโซนเกษตร เพราะเมื่อเพาะปลูกแล้วเหลือกินเหลือเก็บ ก็สามารถนำไปขายต่างประเทศได้ ซึ่งเมื่อเรามีเงินก็ไม่ต้องไปปล้นเหมือนโจร ถ้าเรากล้าเริ่มต้นแบบใหม่ สังคมไทยก็จะสามารถไปได้ด้วยดี เพราะระบบทุนนิยมผูกขาดนั้น ดูได้จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีเงินมหาศาล แต่กลับมาเบียดเบียนคนอื่น โดยในทางศาสนาถือว่าขูดรีดประชาชน ดังนั้นอะไรที่เป็นของสาธารณะ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม ฉะนั้นต้องสร้างชาติกันอย่างนี้ โดยปฏิรูปให้คนรวยกับคนจนไม่ห่างกันมากนัก เพราะจะไม่เกิดปัญหาเหลื่อมล้ำ และซ้ำซ้อนกันแม้แต่นิดเดียว



กำลังโหลดความคิดเห็น