xs
xsm
sm
md
lg

ความก้าวหน้าของพันธมิตรฯ “ชัยชนะ” ของการเมืองภาคประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นับแต่วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 ที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมประชาชนได้ร่วมกันชุมนุมใหญ่ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเคลื่อนขบวนมาปักหลักพักค้างที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ก่อนจะบรรลุเป้าหมายเคลื่อนย้ายมวลชนนับแสนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล จนถึงวันนี้นับเป็นเวลายาวนานกว่า 2 เดือนแล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมา การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เกิดพัฒนาการ และ ผลสำเร็จอันส่งผลดีต่อประเทศชาติดังนี้

1. ชุมนุมครั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 เคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาอยู่ที่สะพานมัฆวาน ถนนราชดำเนินนอกสำเร็จ
อ่านข่าว :
- ลำดับเหตุการณ์นาทีต่อนาที ชุมนุมใหญ่ “ต้านแก้ รธน.ฟอกมาร” 25 พ.ค. 2551
- “จำลอง” ชี้ยึดชัยภูมิมัฆวานฯ ชนะแน่

2. เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ตำรวจจึงได้ชี้ขาด จักรภพ เพ็ญแข ว่าหมิ่นเบื้องสูง และทำให้ จักรภพ เพ็ญแข ต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเปิดแถลงข่าวในวันที่ 30 พ.ค. 2551 และมีการลาออกมีผลวันที่ 9 มิถุนายน 2551
อ่านข่าว :
- “เพ็ญ” แถลงลาออกแล้ว อ้างเพื่อ “รักษาขุนให้อยู่รอด”
- ชม-ดาวน์โหลดวิดีโอคลิป “จักรภพ” พูดจาหมิ่นเหม่-จาบจ้วงที่แอลเอ

3. รัฐบาลประกาศว่าได้ต่อรองโรงกลั่น 4 แห่ง ให้ลดค่าการกลั่นลง 3 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 6 เดือน โดยจะช่วยเหลือในปริมาณน้ำมันดีเซลในราคาส่วนลด 122 ล้านลิตร/เดือน
อ่านข่าว :
- ‘โรงกลั่น-ปิโตรฯ’ ไม่น่าห่วง.! ยันลงทุนไม่สะดุดลด 3บาทแค่คายกำไร

4. สมาชิกวุฒิสภาถอนรายชื่อออกจากญัตติการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดของคนในระบอบทักษิณ จนมีจำนวนเสียงไม่เพียงพอและทำให้ญัตติต้องล้มไป หลังจากที่พันธมิตรฯยื่นรายชื่อกว่า 3 หมื่นคนถอดถอนนักการเมืองที่เข้าชื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญเพราะมีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทั้งยังส่งผลให้ชาติประหยัดเงินภาษีอากรของประชาชนได้อีกกว่า 2,400 ล้านบาท
อ่านข่าว :
- พปช.อ้างที่ประชุมสั่งยุติยื่นแก้รัฐธรรมนูญ

5. สมัคร สุนทรเวช ต้องกลับลำหลังจากประกาศที่จะแตกหักกับพันธมิตรฯ เพราะมีประชาชนจำนวนมหาศาลนับแสนคนทั่วทุกสารทิศมาร่วมชุมนุมร่วมกับพันธมิตรฯหลังจากการประกาศกร้าวของนายกรัฐมนตรี
อ่านข่าว :
- “หมัก”ลุอำนาจ!ประกาศแตกหัก ส่ง ตร.-ทหารจัดการ“พันธมิตรฯ” วันนี้
- คำต่อคำ “หมัก” พลิกลิ้นกลางจอ ปัดสลายชุมนุม-ตอบคำถามด่าพันธมิตรฯ

6. รัฐบาลยกเลิกข้าวธงฟ้า รับจำนำข้าวปลือกตันละ 14,000 บาท หลังจากพันธมิตรฯได้อภิปรายเปิดโปงความล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดการปัญหาราคาข้าว
อ่านข่าว :
- “หมัก” แจงเหตุตลาดข้าวป่วนเพราะข้าวถุงธงฟ้า ยืดอกรับเป็นจอมบงการเอง
- รัฐประกาศพยุงราคาข้าว 1.4 หมื่นบ./ตัน “เลี้ยบ” ยันทำตลาดกลับสู่ภาวะปกติ

7. หลังจากที่ไม่สามารถล้มล้างรัฐธรรมนูญได้เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทนายทักษิณ ได้นำเงิน 2 ล้านบาทใส่ถุงขนมมาให้เจ้าหน้าที่ในศาลฎีกา จนเป็นเหตุทำให้ศาลฎีกาได้พิพากษาจำคุกทีมทนายของทักษิณ 3 คนเป็นเวลา 6 เดือนในเวลาต่อมาโดยไม่รอลงอาญา โดยระบุว่าต้องการทำให้เกิดการชักจูงต่อกรณีที่ คตส. ได้ฟ้องในคดีการซื้อที่ดินรัชดาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
อ่านข่าว :
- ประมุขศาลยอมรับ มีทนายนักการเมืองหอบเงินสด 2 ล้านให้ จนท.จริง!
- จำคุก 6 เดือน แก๊งทนายแม้วติดสินบนศาล!
- ย้อนรอยคดี"แม้ว-อ้อ"ทุจริตที่ดินรัชดา ปมสินบน 2 ล้าน

8. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ล้มเหลวและต้องถอยในการสั่งปิดทีวีเคเบิลทีวี หลังประชาชนได้ลุกฮือต่อสู้กับคำสั่งที่ไม่ชอบทั่วประเทศ
อ่านข่าว :
- สมาคมเคเบิลทีวีหวั่น “เป็ดเหลิม” สั่งยุติแพร่ภาพเอเอสทีวีอาจเตรียมสลายชุมนุม
- “เหลิม” บ้อท่าผวาคุก-ถูกถอด พลิกลิ้นปัดสั่งปิดเอเอสทีวี แค่ให้ระวังคำพูดแรง

9. หลังจากที่ไม่สามารถล้มล้างรัฐธรรมนูญได้เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เจ้าหน้าที่ กกต.ได้ปลอมแปลงเอกสาร และยื่นเอกสารเท็จต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในคดีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช พันธมิตรฯจึงได้เปิดโปงและกดดันด้วยการเคลื่อนผู้ชุมนุมแบบดาวกระจายไปหน้า กกต. เป็นผลทำให้กกต.ต้องยอมจำนนและตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ กกต. ที่กระทำการดังกล่าว
อ่านข่าว :
- แฉ! เจ้าหน้าที่ กกต.ปั้นหลักฐานเท็จช่วย “ยงยุทธ” สู้คดีใบแดง
- พลังมวลชนนับหมื่นพร้อมใจเข้าให้กำลังใจ กกต.
- กกต.ตื่นสรุปปลอมเอกสารช่วย “ยุทธตู้เย็น” จริง-ฟันวินัย 2 จนท.

10. เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทำให้นพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องยอมเปิดเผยมติคณะรัฐมนตรีและแผนที่ที่ได้ไปลงนามแถลงการณ์ยกปราสาทพระวิหารและพื้นที่เขาพระวิหารร่วมกับกัมพูชาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หลังจากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯได้ยื่นต่อศาลปกครองกลาง เป็นผลทำให้ศาลปกครองได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามนำมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไปใช้ในการลงนามกับประเทศกัมพูชาได้เป็นผลสำเร็จ
อ่านข่าว :
- “สนธิ” แฉแผนขายอธิปไตย! ยก“พระวิหาร”ให้เขมรแลกสัมปทานขุดก๊าซ
- ศาลฯ คุ้มครอง “เขาพระวิหาร” - ทนายกู้ชาติเตรียมฟ้อง “นพเหล่”-ครม.ยกชุด
- เปิดคำสั่งศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครอง “ปราสาทพระวิหาร”



คลิกอ่านข้อมูล ข่าวและบทความเกี่ยวกับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร


11. พันธมิตรฯ เคลื่อนพลหลายแสนคนมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้เป็นผลสำเร็จ โดยไม่ได้มีการทำลายทรัพย์สินทางราชการหรือความวุ่นวายใดๆทั้งสิ้น
อ่านข่าว :
- วินาทีแห่งชัยชนะขั้นต้นของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เข้ายึดทำเนียบสำเร็จ
- สดุดีเหล่า “ผู้กล้าพันธมิตรฯ” กำชัยยึดทำเนียบฯ เหนือ “รัฐบาลโจร”!

12. ภายหลังจากที่พันธมิตรฯเคลื่อนพลหลายแสนมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร ได้กลับลำยอมให้วุฒิสภาอภิปรายทั่วไป และยอมให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธอ้างว่าไม่มีเวลาเพราะต้องพิจารณาเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี
อ่านข่าว :
- รัฐชิงปิดสภาหนีซักฟอก ปชป.ฟันนายกฯ 7 รมต.
- ปธ.วิปรัฐฯ ยกอภิปราย 2 สภาต่อรองพันธมิตรเพลาม็อบ

13. ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กับคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หลังจากที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีการปลดและเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยาและขัดขวางการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา ซึ่งเป็นไปตามที่พันธมิตรฯได้กล่าวหามาก่อนหน้านี้
อ่านข่าว :
- “ไชยา” หน้าแหก ศาลคุ้มครองชั่วคราวบอร์ด อภ.ชุด “หมอวิชัย”
- คำสั่งศาลปกครอง ชี้ปลดบอร์ด อภ.ตามอำเภอใจ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

14. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ต้องประกาศเลื่อนการจัดงานมหาสังฆทาน รวมพลังไทยเพื่อพ่อของแผ่นดิน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2551 ออกไปโดยไม่มีกำหนด พร้อมกับยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งมาจากกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำเรื่องดังกล่าวไปโจมตีบนเวที เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย มาเป็นประธานจัดงาน โดยมี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย
อ่านข่าว :
- “สนธิ” อัดบิ๊กทหารนายหน้าระบอบแม้ว-จัดฉากพิธีสำคัญ 20 ก.ค.
- “บุญสร้าง” สั่งระงับมหาสังฆทาน เหตุพันธมิตรติงสอดไส้ “เจ๊หน่อย”

15. ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 เสียงว่า ประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ที่ตั้ง คตส.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
อ่านข่าว :
- มหาชนหลั่งไหลร่วมพันธมิตรฯ ให้กำลังใจ คตส. ชุดที่ 1 และ มหาชนหลั่งไหลร่วมพันธมิตรฯ ให้กำลังใจ คตส. ชุดที่ 2
- ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ชี้การปฏิบัติหน้าที่-ต่ออายุ คตส.ไม่ขัด รธน.
ปราสาทพระวิหาร
16. วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2551 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาด้วยมติ 9:0 ว่าแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบให้มรดกโลกนั้นเป็นหนังสือสนธิสัญญา และมีมติ 8:1 ว่าแถลงการณ์ดังกล่าวที่ไม่ผ่านความเห็นชอบต่อรัฐสภานั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งเป็นไปตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ต่อสู้เอาไว้ก่อนหน้านี้
อ่านข่าว :
- ศาล รธน.มีมติ 8 ต่อ 1 ชี้แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ขัด รธน.ต้องผ่านรัฐสภา

17. วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ได้พิพากษาให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช และเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี เป็นบทพิสูจน์ว่าการเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ระบุว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 เป็นการเลือกตั้งที่สกปรกและทุจริต นั้นเป็นความจริง
อ่านข่าว :
- วันดับ “พลังแม้ว” ศาลให้ใบแดง “ยุทธ ตู้เย็น”
- เปิดคำพิพากษา “ยงยุทธ” ซื้อเสียงเอื้อประโยชน์พลังประชาชน

18. วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2551 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติว่านายไชยา สะสมทรัพย์ ได้พ้นสภาพจากรัฐมนตรีนับตั้งแต่ 30 วันที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพราะไม่แจ้งรายละเอียดการถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 5 ของภรรยาตามกฎหมาย
อ่านข่าว :
- จบเห่! มติตุลาการ รธน.ชี้ “ไชยา” พ้นสภาพ รมต.

19. ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2551 หลังจากกลับมาจากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศแคนาดา นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ประกาศลาออกโดยมีผลในวันที่ 14 กรกฎาคม อันเป็นผลจากการกดดันของกลุ่มพันธมิตรฯ สื่อมวลชน และภาคประชาชน ให้นายนพดล รับผิดชอบต่อกรณีการลงนามยินยอมให้ประเทศกัมพูชาจดทะเบียน “ปราสาทพระวิหาร” เป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว
อ่านข่าว :
- “เหล่” ลาออก! แต่ยังไม่สำนึกอ้างไม่ได้กระทำผิด





20. ภายหลังจากการเคลื่อนมวลชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2551 ที่ประชุมคณะทำงานร่วมอัยการสูงสุดและกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติที่จะเสนอเรื่องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองให้เสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทั้งนี้เพราะการเคลื่อนตัวของพันธมิตรฯ ในการหยุดยั้งการล้มล้างรัฐธรรมนูญสำเร็จในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ทำให้คดียุบพรรคการเมืองสามารถเดินหน้าต่อไปได้
อ่านข่าว :
- มติเอกฉันท์ คกก.ร่วม อสส.- กกต.ส่งศาล รธน.วินิจฉัย ยุบ ชท.-มฌ.

21. ภายหลังจากการกดดันด้วยการแถลงการณ์และการปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบการทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีพฤติกรรมให้สงสัยว่าเอื้อประโยชน์ให้กับระบอบทักษิณมาเป็นเวลานาน วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2551 อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้เสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 100, 122 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
อ่านข่าว :
- อสส.ส่งแม้วขึ้นแท่นเชือด คดีโกงสัมปทานเอื้อชินฯ
- เปิดผลสอบคตส.(ฉบับเต็ม) “ทักษิณ” ทรยศประชาชน เอื้อประโยชน์ธุรกิจตนเอง-พวกพ้อง

22. วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2551 ตำรวจได้ขอศาลอาญาให้ออกหมายจับ น.ส.ดารนี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.)โดย ในข้อหาดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในการปราศรัยวันที่ 18 -19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ภายหลังจากที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ปราศรัยเปิดโปงเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 และเป็นข้อพิสูจน์ความจริงอีกครั้ง ตามที่พันธมิตรฯได้เคยระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าผู้ปราศรัยบนเวที นปก. มีแนวคิดที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
อ่านข่าว :
- ตร.ไม่ให้ประกัน “นังดา” ส่งฝากขังศาล มีหวังนอนคุก!
- “ดา” แกล้งปิด datopido.com หลังโดนจับ เว็บโยง นปก.-พีทีวี-ไฮทักษิณ

23. วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 คณะรัฐมนตรีไม่ผ่านความเห็นชอบโครงการจัดการรถเมล์ปรับอากาศเอ็นจีวี 6,000 คัน โดยมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมนำเรื่องการเช่ารถเมล์ NGV จำนวน 6,000 คัน ไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากที่พันธมิตรฯได้เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าว :
- ชท.ง้างปาก'หมัก' ดึงรถเมล์ 6 พันคัน แฉแผนฮุบ ขสมก.

24.วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับการประกันตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากที่พี่น้องประชาชนได้ออกมาชุมนุมหลายหมื่นคนที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายสนธิ ลิ้มทองกุลที่ออกมาพูดบนเวทีเพื่อเปิดโปงขบวนการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์บนเวทีพันธมิตรฯ แต่ตำรวจกลับกลั่นแกล้งออกหมายจับและจะไม่ให้ประกันตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุลโทษฐานที่ได้สรุปเนื้อหาการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ของ น.ส.ดารนี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอปิโด บนเวทีพันธมิตรฯ เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าเป็นการเผยแพร่ที่ผิดกฎหมายและได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ว่าจะไม่ให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับการประกันตัว
อ่านข่าว :
- พันธมิตรฯ เฮ! ตำรวจให้ประกันตัว “สนธิ” อิสระ
- มวลชนร่วมประกาศชัยชนะแน่น “มัฆวานฯ”

25.จากการที่พันธมิตรฯได้หยุดยั้งการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกได้สำเร็จตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 คดีความต่างๆของ คตส.จึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

เป็นผลทำให้เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษ 2 ตัว และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ที่ คตส. ได้ยื่นฟ้องต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกรวม 47 คน เป็นผลทำให้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลหุ่นเชิดที่อยู่ในรัฐบาลทักษิณ ได้แก่น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายอนุรักษ์ จุรีมาศ และ นางอุไรวรรณ เทียนทอง จะต้องหยุดการทำหน้าที่โดยทันที อันเป็นการพิสูจน์ว่าการต่อสู้กับหวยบนดินของกลุ่มพันธมิตรฯตลอดระยะเวลา 3 ปี นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
อ่านข่าว :
- ฟ้ามีตา! ศาลรับฟ้องคดีรัฐบาลทักษิณเปิดขายหวยบนดิน

26.วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลแพ่งได้พิจารณาประเด็นที่มีข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการได้ฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้พันธมิตรฯหยุดการชุมนุมโดยอ้างว่ากีดขวางการจราจรและร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วยเหตุฉุกเฉิน ซึ่งศาลแพ่งได้เห็นด้วยกับฝ่ายพันธมิตรฯที่ได้ยื่นคำร้องว่าหากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยเหตุฉุกเฉินจะเป็นการจำกัดสิทธิของพันธมิตรฯตามรัฐธรรมนูญ คำร้องดังกล่าวจึงจำต้องส่งความเห็นของพันธมิตรฯเพื่อได้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย และรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนในเรื่องคำร้องว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ของพันธมิตรฯ ศาลแพ่งมีความเห็นว่าก็มีเหตุให้ต้องส่งความเห็นของนี้ไปยังศาลปกครองกลางด้วยเหตุดังกล่าวจึงเห็นควรรอการไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวโดยเหตุฉุกเฉินไว้ก่อนเพื่อรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อนจึงค่อยไต่สวนและมีคำสั่งต่อไป จึงถือเป็นความสำเร็จในข้อกฎหมายของพันธมิตรฯที่สามารถชะลอขบวนการอ้างสิทธิส่วนตัวทางแพ่งเพื่อหยุดยั้งสิทธิของมวลชนตามรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ
อ่านข่าว :
- ศาลแพ่งรับฟังพันธมิตรฯ ส่งศาล รธน.ตีความสิทธิการชุมนุม

27.จากการที่พันธมิตรฯได้หยุดยั้งการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกได้สำเร็จตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 คดีความต่างๆของ คตส.จึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

เป็นผลทำให้เมื่อวันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย กรณีเห็นชอบให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157
อ่านข่าว :
- “แม้ว” รอวันเข้าคุก! ศาลรับฟ้องปล่อยกู้พม่าเอื้อชินฯ

28.จากการที่พันธมิตรฯได้หยุดยั้งการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกได้สำเร็จตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 คดีความต่างๆของ คตส.จึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

เป็นผลทำให้วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลอาญาได้พิพากษาว่า นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ให้จำคุก 3 ปี และนางกาญจนาภา หงษ์เหิร ให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ฐานร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกง หรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดในทำนองเดียวกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากร, ฐานโดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร

คำพิพากษานี้ย่อมเป็นการยืนยันความชอบธรรมการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีอากร ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา
อ่านข่าว :
- “เมียแม้ว” หนีภาษีผิดสถานหนัก จำคุก 3 ปี!
- เปิดคำพิพากษา “เมียแม้ว” รวยแต่โกงภาษีผิดร้ายแรง
- “หญิงอ้อ” คอตกหมดสภาพรับกรรม ศาลสั่งจำคุก 3 ปี

29. วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ประชาชนจำนวนหลายแสนคนทั่วทุกสารทิศได้มาชุมนุมร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเวลากลางวัน เพื่อแสดงออกในการ พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพื่อมิให้รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 ในการฟอกความผิดให้กับระบอบทักษิณ เพื่อให้ตนเองและพวกพ้องมิต้องถูกพิจารณาคดีในชั้นศาล ตามที่รัฐบาลได้เคยประกาศว่าจะยื่นญัตติล้มล้างรัฐธรรมนูญในวันเปิดประชุมสภาในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2551

จากการที่พี่น้องประชาชนได้มาชุมนุมนับหลายแสนคนนี้เป็นแรงกดดันที่ส่งผลทำให้รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ต้องเลื่อนการยื่นญัตติในการล้มล้างรัฐธรรมนูญออกไปเป็นวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551 อีกทั้งยังทำให้แผนการระดมกลุ่มอันธพาลของรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ เพื่อก่อกวนการชุมนุมของพันธมิตรฯต้องยกเลิกออกไปอย่างไม่มีกำหนด
อ่านข่าว :
- คลื่น ปชช.ผู้รักชาติสว่างไสว ทั่วถนนราชดำเนิน (1)
- คลื่น ปชช.ผู้รักชาติสว่างไสว ทั่วถนนราชดำเนิน (2)

30. จากการที่พันธมิตรฯได้หยุดยั้งการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกได้สำเร็จตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 การทำงานของ ปปช. และ คตส. จึงเดินหน้าต่อไปได้

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน ชินวัตร โดยวินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดขอบเขตเหมาะสม
อ่านข่าว :
- ศาล รธน.ตีแสกหน้า “แม้ว” ชี้ กม.ป.ป.ช.ไม่ขัด รธน. รับเชือด “หมัก” ชิมไปฯ

31. จากการที่พันธมิตรฯได้หยุดยั้งการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกได้สำเร็จตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 คดีความต่างๆของ คตส.จึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ประทับรับฟ้องคดีที่ คตส.ได้ยื่นฟ้อง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ กับพวกรวม 44 คน ในคดีการทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาท
อ่านข่าว :
- ศาลฎีการับฟ้อง “เนวิน” และพวกทุจริตกล้ายาง

32. การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงสามารถหยุดการล้มล้างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลเพื่อฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัวได้สำเร็จ และทำให้กระบวนการยุติธรรมสามารถเดินหน้าต่อไปได้

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่กลับมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อมาให้การนัดสุดท้ายต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีการซื้อขายที่ดินรัชดา และออกแถลงการณ์หลบหนีศาลฯ ทำให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องริบหลักประกัน 13 ล้านบาท และออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร อยู่ในสถานภาพ “ผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน”

เหตุการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ และขาดกลัวที่จะพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาล เป็นการตอกย้ำความถูกต้อง ชอบธรรม ในการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
อ่านข่าว :
- “แม้ว-อ้อ” ออกจากจีนตั้งแต่วันเสาร์ สื่ออังกฤษยันอยู่ลอนดอนแล้ว

33. วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลแพ่งได้พิจารณาประเด็นที่มีข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการได้ฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้พันธมิตรฯหยุดการชุมนุมโดยอ้างว่ากีดขวางการจราจรและร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วยเหตุฉุกเฉิน ซึ่งศาลแพ่งได้เห็นด้วยกับฝ่ายพันธมิตรฯที่ได้ยื่นคำร้องว่าหากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยเหตุฉุกเฉินจะเป็นการจำกัดสิทธิของพันธมิตรฯตามรัฐธรรมนูญ คำร้องดังกล่าวจึงจำต้องส่งความเห็นของพันธมิตรฯเพื่อได้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย และรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนในเรื่องคำร้องว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ของพันธมิตรฯ ศาลแพ่งมีความเห็นว่าก็มีเหตุให้ต้องส่งความเห็นของนี้ไปยังศาลปกครองกลางด้วย เหตุดังกล่าวจึงเห็นควรรอการไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวโดยเหตุฉุกเฉินไว้ก่อนเพื่อรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อนจึงค่อยไต่สวนและมีคำสั่งต่อไป

จึงถือเป็นความสำเร็จในข้อกฎหมายของพันธมิตรฯที่สามารถชะลอขบวนการอ้างสิทธิส่วนตัวทางแพ่งเพื่อหยุดยั้งสิทธิของมวลชนตามรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ

34. วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ฟ้องต่อศาลแพ่งขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และร้องขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน ซึ่งในเวลาประมาณ 22.00 น. ศาลแพ่งได้พิจารณาให้นำวิธีคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ โดยมีคำสั่งให้ จำเลย และกลุ่มผู้ชุมนุม ออกจากทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งรื้อถอนเวทีปราศรัย และสิ่งปลูกสร้าง ออกจากทำเนียบรัฐบาล เปิดช่องการจราจรบนถนนพิษณุโลก และถนนราชดำเนิน โดยคำสั่งให้มีผลทันที

ประชาชนยังคงใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญชุมนุมต่อไป ไม่รื้อถอนเวที และเชื่อมั่นว่าสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีให้ข้อมูลทำให้ศาลหลงผิด พันธมิตรฯจึงมอบหมายให้ทนายกู้ชาติ นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ใช้สิทธิทางกฎหมายในการต่อสู้คดีความในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งในเวลาต่อมาในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปรากฏว่ารัฐบาลได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากซึ่งไม่ใช่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาล อ้างคำสั่งศาลแพ่งเข้ามาสลายและรื้อเวที ทำร้ายประชาชนด้วยไม้ตะบองซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและผู้สูงวัยจำนวนมาก ใช้แก๊สน้ำตา ทำลายทรัพย์สินของประชาชน ลักทรัพย์ เป็นเหตุทำให้ในวันเดียวกันนั้น ศาลแพ่งต้องได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดีทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจลุแก่อำนาจ กระทำเกินกว่าคำสั่งศาล

ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 นายสมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ดั้งนั้นศาลอุทธรณ์จึงได้อ่านคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551 ว่ารัฐบาลได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งกรณีดังกล่าว มีผลต่อการคุ้มครองชั่วคราวในคดีนี้อยู่แล้วจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้บังคับแก่คดีนี้ต่อไป ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้ยกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และคำสั่งงดการบังคับคดีของศาลชั้นต้น

นับเป็นชัยชนะในการต่อสู้คดีความแพ่งของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อยืนหยัดในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในทำเนียบรัฐบาล

35.วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551 องค์คณะผู้พิพากษาศาลอาญาได้ประชุมแล้วสรุปผลว่า มีการอนุมัติออกหมายจับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 9 คนแล้ว ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี ในข้อหาเป็นกบฏ ตระเตรียมการเป็นกบฏ มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกการมั่วสุมแต่ไม่เลิกตามสั่งการ ซึ่งหมายจับดังกล่าวนี้ ศาลได้ส่งให้พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อดำเนินการต่อไป

ภายหลังศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับแล้ว แกนนำพันธมิตรได้ประกาศจะไม่หนี และอยู่ในทำเนียบรัฐบาลตามความต้องการของมวลมหาประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม และประกาศจะไม่ประกันตัว พร้อมๆกับประกาศแกนนำรุ่นสำรองเอาไว้ล่วงหน้า 3 คน ซึ่งประกอบไปด้วย นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายศิริชัย ไม้งาม และนายสำราญ รอดเพชร พร้อมขอให้ประชาชนยืนหยัดในการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลต่อไป

ผลปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากเข้ามาร่วมชุมนุมเพราะเห็นว่าข้อหาของแกนนำพันธมิตรฯนั้นเป็นข้อหาที่ไม่เป็นความจริง และเป็นการกลั่นแกล้ง ท่ามกลางกระแสข่าวความพยายามการลอบสังหารแกนนำ ประชาชนจึงได้เข้ามาเป็นคลื่นมนุษย์ปิดล้อมป้องกันแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อแสดงสัญลักษณ์การปกป้องคุ้มครองกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และรักษาเอาไว้ซึ่งชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าเข้ามาจับกุมในทำเนียบรัฐบาล ในขณะเดียวกันนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความกู้ชาติได้ใช้สิทธิทางกฎหมายยื่นเรื่องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้เพิกถอนหมายจับโดยทันที ซึ่งศาลอุทธรณ์รับพิจารณาในที่สุด

ดังนั้นการไม่ไปมอบตัว จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องเพราะอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์หมายจับที่มิชอบ แม้ตำรวจจะได้พยายามเข้าจับกุมแกนนำพันธมิตรฯก็ตาม แต่แกนนำพันธมิตรและผู้ถูกออกหมายจับก็มิได้วิตกกังวล หรือหวาดหวั่นในเรื่องนี้แต่ประการใด
อ่านข่าว :
- ศาลอุทธรณ์ถอนหมายจับข้อหากบฏ 9 แกนนำพันธมิตรฯ

36.มีการใช้กำลังในการสลายการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เวทีมัฆวานรังสรรค์สองครั้ง

ครั้งแรก ประมาณช่วงประมาณเที่ยงของวันที่ศุกร์ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551 กำลังตำรวจจำนวนมากได้เข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมในบริเวณพื้นที่การชุมนุม ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ด้วยการทุบตีด้วยกระบอง ยิงแก๊สน้ำตา ใช้ปืนจ่อศีรษะ รุมเหยียบกระทืบผุ้ชุมนุม เข้าทำลายทรัพย์สินของผู้ชุมนุม โยนข้าวของของประชาชนทิ้งลงไปในคลอง ทำให้ประชาชนจำนวนมากทนไม่ได้กลับเข้ามาชุมนุมเพิ่มมากขึ้นนับแสนคนทั้งทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับการกลับเข้ามายึดพื้นที่การชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ได้ตามเดิม

ครั้งที่สองกลุ่มอันพาลของรัฐบาลได้ถูกจัดตั้งจ้างมาหัวละ 500-1,000 บาท ที่นำโดย ส.ส.พรรคพลังประชาชนและอดีตผู้บริหารพรรคไทยรักไทย ระดมเข้ามาจากต่างจังหวัด ตั้งขบวนด้วยรถมอเตอร์ไซค์ รถเครื่องเสียง และชายฉกรรจ์อาวุธครบมือ ทั้งไม้ ดาบ มีด ปืน ขวาน หนังสติ๊กจากสนามหลวงเคลื่อนตัวเข้ามาตามถนนราชดำเนินหลังเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551 ประกาศว่าจะยึดทำเนียบรัฐบาล เป็นผลทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างอันธพาลของรัฐบาลกับประชาชนผู้รักความเป็นธรรม การ์ดอาสา และกลุ่มศรีวิชัยฝ่ายพันธมิตรฯ ที่บริเวณหน้าสี่แยก จปร. ถนนราชดำเนิน และด้วยความเข้มแข็งและฮึกเหิมของประชาชนผู้รักความเป็นธรรม การ์ดอาสา และกลุ่มศรีวิชัย ในการทำหน้าที่ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างห้าวหาญ เป็นผลทำให้กลุ่มอันธพาลของรัฐบาลต้องล่าถอยและทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสามารถยืนหยัดในการชุมนุมอย่างสงบต่อไปได้
อ่านข่าว :
- สลด! ตร.ปล่อย “ม็อบนรก” ฝ่าด่าน ปะทะการ์ดพันธมิตรที่มัฆวานฯ เจ็บอื้อ

37.เช้าวันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้อาศัยการสร้างสถานการณ์ที่จัดฉากขึ้นโดยอันธพาลของรัฐบาลในคืนวันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551 มาเป็นสาเหตุเพื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และห้ามมิให้มีการชุมนุมเกินกว่า 5 คน

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้กระทบต่อผู้ชุมนุมทุกคน เพราะห้ามมิให้มีการชุมนุมเกินกว่า 5 คน แต่ผู้ชุมนุมมีความศรัทธาและเชื่อมั่นว่าไม่ได้กระทำความผิด เพราะเป็นความผิดของรัฐบาลที่สร้างสถานการณ์จัดฉากเพื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อหวังจะให้ยุติการชุมนุม พี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมจึงยืนหยัดอย่างหาญกล้าที่จะชุมนุมต่อไป โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ และจะยกเลิกเมื่อใด

ภายหลังจากนายสมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ปรากฏว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ตกหลุมพรางดังกล่าว แกนนำและพี่น้องประชาชนประกาศยืนหยัดในการชุมนุมต่อไปอย่างห้าวหาญ และผู้บัญชาการทหารบกประกาศไม่ใช้กำลังในการสลายการชุมนุม และไม่ปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ที่ถ่ายทอดสดการชุมนุม 24 ชั่วโมง ทำให้แผนการสลายการชุมนุมโดยอาศัย พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ของนายสมัครล้มเหลวงอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ทีมทนายความของพันธมิตรฯได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้เพิกถอนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มิชอบโดยทันที

ความล้มเหลวดังกล่าวทำให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ต้องร่วมกันแถลงข่าวยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในที่สุด

ถือเป็นความสำเร็จในการยืนหยัดการอารยะขัดขืนต่ออำนาจของนายกรัฐมนตรีที่มิชอบอีกครั้งหนึ่ง

38. เพราะการยืนหยัดในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้เป็นผลสำเร็จเป็นผลทำให้เมื่อวันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้เสนอต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคพลังประชาชน อันเป็นการแสดงถึงความถูกต้องในการต่อสู้ของพันธมิตรฯในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และเห็นความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่ประกอบด้วยพรรคการเมืองที่มีที่มาจากการทุจริตการเลือกตั้ง
อ่านข่าว :
- มติ กกต.เอกฉันท์ ชงศาล รธน.ชี้ขาดยุบ พปช.

39. วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551 มีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 4 โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้พ้นจากตำแหน่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายหลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เปิดโปงหลักฐาน ขบวนการเชื่อมโยงการที่อันธพาลของรัฐบาลที่พยามฆ่าผู้ชุมนุมของฝ่ายพันธมิตรฯที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 นั้น เป็นเครือข่ายของรัฐบาลที่ใกล้ชิดกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และทำให้เกิดแรงกดดันในสังคมต่อรัฐบาลจำนวนมากจนต้องมีการตัดตอนถูกปลดออกจากคณะรัฐมนตรีในที่สุด

40. เมื่อเวลา 15.30 น. วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ว่านายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กรณีการจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์และรับผลตอบแทนในการจัดรายการชิมไปบ่นไป และรายการยกโขยง 6 โมงเช้า โดยได้รับผลตอบแทน โดยศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุในคำวินิจฉัยว่า นายสมัครคำนึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์สาธารณะ ทำเอกสารเท็จขึ้นมาเสนอต่อศาล เป็นผลให้นายสมัคร สุนทรเวช ต้องสิ้นสุดการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่ารัฐสภาที่ได้เลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำกฎหมายเลือกตั้ง และเลือกประมุขฝ่ายบริหารที่กระทำผิดกฎหมายไร้จริยธรรม สะท้อนถึงความไม่รับผิดชอบของนักการเมืองในระบบเก่าที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
อ่านข่าว :
- "บรรลัย" ตามคำสาบาน มติศาลรธน.9-0 ไล่"หมัก"พ้นนายกฯ

41. วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนได้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์เสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยประกาศว่าจะเสนอชื่อต่อที่ประชุมสภาในวันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 21/2551 ลงวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 255 ทันที เพื่อประณามมติพรรคพลังประชาชนดังกล่าว และประกาศที่จะชุมนุมต่อไปตราบใดที่ยังมีการเสนอนายกรัฐมนตรีที่กระทำผิดกฎหมาย ละเมิดรัฐธรรมนูญ เป็นหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ หรือมีพฤติกรรมที่ตระบัดสัตย์ต่อมวลมหาประชาชน

ผลจากการกดดันจากพันธมิตรฯทำให้เกิดการแตกแยกในพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างหนักหน่วง และทำให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเกือบทั้งหมดงดเข้าประชุมสภาในวันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 จนที่ประชุมสภาต้องล่มและปิดตัวลงเพราะไม่ครบองค์ประชุม และทำให้นายสมัคร สุนทรเวช อับอายและประกาศถอนตัวที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น