“หมัก” ปากกล้าขาสั่น พระสวดชยันโตให้ ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.ทำเนียบ

“สมัคร” เมินพันธมิตรฯ เดินทางถึงทำเนียบฯ นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังมีคณะสงฆ์สวดชยันโตให้แคล้วคลาดปลอดภัย ขณะที่คมนาคมชงโครงการเช่ารถเมล์ 6 พันคัน กลับเข้าที่ประชุม ครม.อีกรอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (24 มิ.ย.) ยังคงมีการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ หลังจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศว่าจะไม่ย้ายสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแม้จะมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลก็ตาม

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีตัวแทนองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย และเครือข่ายชาวพุทธ 53 องค์กร กว่าร้อยคน และญาติวีรชน 16 ตุลา มามอบดอกกุหลายให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบพระไพรีพินาศ และรูปเหมือนเสด็จพ่อ ร.5 ให้แก่นายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ กลุ่มผู้ให้กำลังใจมีประมาณ 150 คน สามารถเข้ามาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีถึงหน้าตึกสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล

ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกักบริเวณหน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ไม่สามารถเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม นายสมัครไม่ได้เข้าทำเนียบทางประตู 5 แต่เข้าประตูสะพานอรทัย และเข้ามายังประตู 6 แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เดินรับดอกไม้จากประชาชนที่มาให้กำลังใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมกับกล่าวขอบคุณกับผู้มาให้กำลังใจ

สำหรับการประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท.ประกอบด้วยการแก้ไขปัญหาภาระการเงินและการขาดทุนสะสม รวมถึงแผนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าสายสีแดง เฟส 2 เส้นทางบางซื่อ-รังสิต พร้อมกันนี้จะเสนอโครงการเช่ารถเมล์ปรับอากาศเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน ที่คณะรัฐมนตรีให้กระทรวงคมนาคมนำไปจัดทำรายละเอียด รวมทั้งขั้นตอนการประกวดราคาที่ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยฯ สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่กังวลกรณีที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ แล้วถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่ ยังไม่ได้มีการมอบหมายงานในกระทรวง

ขณะที่ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องการที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกรุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล แต่ทางกลุ่มพันธมิตรฯบอกแล้วว่าจะไม่บุกเข้ามา เราก็สบายใจ ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากมีการปิดกั้นหรือบุกรุกเข้ามาในทำเนียบ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายของบ้านเมืองตำรวจจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่เพราะการหากมีการละเมิด เป็นความผิดกฎหมายที่มีโทษสูงกว่าการขีดขวางจราจร ซึ่งที่ผ่านมาการกีดขวางจราจรถือเป็นความผิดเล็กน้อย

เมื่อถามว่า ได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมอย่างไร พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่มีความรู้ที่จะประเมิน แต่เรามีหน้าที่ในแง่การรักษาความสงบในบ้านเมืองและความสะดวกของประชาชนในการที่จะเดินทางไปไหนมาไหน ถึงตรงนี้ยืนยันว่า เมื่อตำรวจมายืนตรงจุดนี้คงจะปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมายบ้านเมืองคงไม่ได้ เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ราชการ หากมีการฝ่าฝืน หรือปิดทางเข้าออกถือเป็นความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพทางร่างกาย ตำรวจต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด แต่โชคดีที่กลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้ละเมิดกฎหมายส่วนนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระมัดระวังตลอด 24 ชั่วโมงไม่ว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะบอกว่า บุกหรือไม่ก็ตาม เราต้องพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา

“เราพร้อมจะจับทันทีหากมีใครละเมิดกฎหมายบุกรุกเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล” พล.ต.อ.จงรัก กล่าว และว่า เวลานี้ได้พยายามตกลงกับกลุ่มพันธมิตรฯในเรื่องการใช้เครื่องขยายเสียงซึ่งอาจทำให้เสียงดังเด็กเรียนหนังสือไม่ได้ พระที่บิณฑบาตไม่มีใครมาตักบาตร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความสงบ ทางตำรวจพยายามเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯอยู่แต่ไม่ได้ผลเท่าไหร่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้รักษาสถานที่ราชการและการบุกรุกอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการเจรจาเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งหาทางกันอยู่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย