xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” จ้อผ่านช่อง 3 อ้างไม่คิดปิด ASTV - ปูดอีกปาระเบิดมหาดไทยศุกร์นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เป็ดเหลิม” เดินสายแก้ข้อหาปิดกั้นสื่อ อ้างไม่คิดให้เคเบิลตัดสัญญาณเอเอสทีวี แค่เตือนว่าเป็นเรื่องผิด และต้องเดินหน้าเอาผิดเต็มสูบ - ปล่อยข่าวอีก มีมือที่สามจะวางระเบิดหน้า ก.มหาดไทย และเตรียมก่อเหตุร้ายแรงศุกร์นี้

วันนี้ (17 มิ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะนำการเมืองมาเล่นกันในสภา ซึ่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะได้ดูเป็นแบบอย่าง ว่า การเมืองต้องเล่นกันในสภา ส่วนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจดังกล่าวจะทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของสภา ซึ่งหากไม่ทันสมัยนี้จริงๆ พรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถใช้มาตรา 129 ไปรวมรายชื่อกับวุฒิสภาชิก ขอเปิดสภาสมัยวิสามัญใหม่ได้ โดยรวมเสียงของ ส.ส.และ ส.ว.ซึ่งสุดท้ายก็จะได้ 1 ใน 3 ของสองสภา ซึ่งฝ่ายค้านก็คงต้องไปพยายามบ้าง

ผู้ดำเนินรายการถามว่า เหตุใด ร.ต.อ.เฉลิม จึงดูเหมือนเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่เข้าไปเกี่ยวข้องและเปิดศึกกับ เอเอสทีวี และการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย เป็นกระทรวงที่ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ดังนั้น จะนิ่งเฉยกับปัญหานี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็สร้างผลกระทบให้กับสังคมในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจที่ตลาดหุ้นก็ตกต่ำลง หรือปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติด ที่กำลังต้องเร่งแก้ไข ซึ่งแทนที่ตำรวจจะได้ไปดำเนินการแต่กลับต้องเอากำลังไปดูแลม็อบพันธมิตรฯ

ส่วนกรณีที่ตนมีคำสั่งว่าต้องมีการดำเนินการกับ เอเอสทีวี และเคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดสัญญาณของเอเอสทีวีนั้น ก็เนื่องจากเมื่อพันธมิตรฯ มีการประกาศอารยะขัดขืน ว่า จะตัดน้ำตัดไฟ ไม่เสียภาษี หรือกระทำการผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดและในกฎหมายอาญามาตรา 65 ระบุไว้ว่าผู้ใดประกาศบอกกล่าวแก่ผู้อื่นให้กระทำผิดกฎหมายถือเป็นความผิด ดังนั้น เมื่อเอเอสทีวี ออกอากาศคำพูดดังกล่าว แล้วเคเบิลทีวีทำการถ่ายทอดออกไป ก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำความผิดดังกล่าวร่วมกันไปด้วย ส่วนกรณีที่ว่าไม่เคยมีใครหยิบเอากฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาเอาโทษกับสถานีโทรทัศน์อย่างที่ตนทำ ก็เป็นเพราะไม่มีใครบ้าระห่ำ กระทำการอย่างนี้ ทีวีช่องอื่นๆ ทั้ง 3 5 7 9 ต่างไม่เคยมีใครกล้าทำเอเอสทีวีมาก่อน “เอเอสทีวี เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องเดียวของโลก ผมไม่เอาประเทศไทยนะ ที่อยู่ๆ ปราศรัยด่าโคตรเหง้ารัฐบาล ด่าทุกคน พระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่เว้น”

ดังนั้น เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องที่กระทำผิดต่อรัฐ ซึ่งใครจะไปแจ้งความกล่าวโทษต่อผู้ถ่ายทอดสัญญาณ ก็ได้ แต่ตนก็อยากจะขอความร่วมมือจากผู้ว่าฯ ให้เป็นคนดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ เมื่อเคเบิลทีวีถ่ายทอดสัญญาณจากเอเอสทีวีไป ก็ต้องถือว่ามีความผิดร่วมกัน ส่วนเรื่องของการหมิ่นประมาทเป็นรายบุคคล ก็เป็นเรื่องที่คู่กรณีต้องไปดำเนินการแจ้งความกันเอง เช่นหากพันธมิตรฯ กล่าวหารัฐบาล ว่า ต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์ หรือไม่จงรักภักดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริงแต่อย่างใด “มีที่ไหน ใครคิด พวกผมจงรักภักดี ไม่น้อยกว่าพันธมิตรฯ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป แล้วใครจะไปคิดอย่างนั้น”

ต่อคำถามว่า เมื่อให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แล้วศาลตัดสินออกมาว่าการกระทำของเคเบิลทีวี และเอเอสทีวีไม่ผิด จะทำให้ รมว.มหาดไทย หน้าแตกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “โอ๊ย ไม่หน้าแตกหรอก หนังเหนียว” และว่า อยากพูดถึงในส่วนของผู้ชมที่มีจานรับชมดาวเทียมของเอเอสทีวี แล้วดูอยู่ที่บ้านให้สบายใจได้ เพราะไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่หากมีคนใด นำไปถ่ายทอดบนจอมอนิเตอร์ใหญ่ๆ แล้วชักชวนคนมาดูอย่างนี้ถือว่าผิด เพราะถือว่าเผยแพร่

ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า เมื่อทำเช่นนี้แล้วเกรงหรือไม่ว่ามาตรการนี้จะยิ่งเป็นการชักชวนให้คนออกไปชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ มากขึ้น และเมื่อคนรู้สึกว่าถูกปิดกั้นก็จะไปดูเอเอสทีวีมากขึ้นด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ว่าหากจะมีคนไปชุมนุมกันมากขึ้น และการดำเนินการนี้ก็ไม่ถือเป็นการปิดกั้น “ใครจะไปปิดกั้น ก็ไปซื้อจานเอเอสทีวีมาดูเองเด่ะ” และว่า ถ้าเอเอสทีวีขายจานรับสัญญาณได้มากขึ้นก็ดี ตนไม่ได้อิจฉา จะถือว่าตนเป็นคนช่วยขายจานรับสัญญาณให้ก็ได้ และทั้งหมดนี้ไม่ถือเป็นการไปยั่วยุให้การชุมนุมดุเดือดยิ่งขึ้น แต่ที่ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ที่ช่อง 3 ในตอนนี้ ก็เพราะต้องการจะบอกว่า ตนไม่เคยคิดแทรกแซงสื่อ หรือคิดจะตัดสัญญาณใคร เพราะตนก็ไม่มีอำนาจไปทำอย่างนั้น

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ตนได้ทราบข่าวมา และก็เคยเตือนไปแล้วว่าจะมีกลุ่มมือที่ 3 มาก่อความไม่สงบ ซึ่งล่าสุดตอนนี้กำลังจะมีกระบวนการหนึ่งจะเอาระเบิดไปโยนเข้าไปในกระทรวงมหาดไทย เพื่อหวังจะฉีกหน้าตน และกำลังจะก่อเหตุร้ายในวันศุกร์นี้ ซึ่งตนได้กระซิบบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว เพราะไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น ดังนั้น พันธมิตรฯ ควรจะไปชุมนุมที่อื่น เพื่อป้องกันกลุ่มมือที่ 3 ก่อความไม่สงบ

“ผมไม่อยากให้เกิดจริงๆ ก็ไปชุมนุมที่อื่นอย่าให้กีดขวางจราจร แต่ถ้าเขายังยืนยันชุมนุมตรงนี้ แหม มันเดือดร้อนชาวบ้าน อย่ามาหวังเลยว่ารัฐบาลจะลาออกไม่มี ลุงหมัก รอมาจนอายุ 73 ปี ไม่มีทางลาออกแน่นอน”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น