xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” แฉ “หมัก” ยังรับจัดการมรดก “ธรรมวัฒนะ” - ตั้งลูกสาวรับเงินแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ” อัด “หมัก” คนอัปมงคล แฉยังเป็นผู้จัดการมรดก “ธรรมวัฒนะ” รับโบนัสปีละเป็นล้าน หลังเป็นนายกฯ ให้ลูกสาวรับแทน พินัยกรรมระบุให้เสร็จใน 1 ปี แต่ผ่านมา 18 ปีมีแต่พี่น้องฆ่ากันตาย เปิดเทปคำประกาศ “จอมพลสฤษดิ์” ทวงคืนพระวิหาร หักหน้า “หมัก” ยอมยกให้เขมรเฉย ย้ำการสูญเสีย “พระวิหาร” จงใจฉ้อฉลแลกผลประโยชน์ทางธุรกิจของนายใหญ่ ชี้บ้านเมืองวิกฤตเพราะคนขายชาติ เตือนเป่านกหวีดครั้งที่สองมาอีกเป็นล้าน


วันนี้ (23 มิ.ย.) เวลาประมาณ 21.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีว่า ไม่ใช่แค่เป็นโมฆบุรุษ แต่ความเป็นคนรู้จักผิดชอบชั่วดีไม่มีเลย จนวันนี้นายสมัครยังคงมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการมรดกของตระกูลธรรมวัฒนะอยู่ ตามกฎหมายแล้วคนเป็นนายกรัฐมนตรีจะมีตำแหน่งอะไรก็ไม่ได้ เขาเป็นผู้จัดการมรดกของตระกูลธรรมวัฒนะมา 18 ปีแล้ว แต่ในพินัยกรรมระบุว่าให้นายสมัครจัดการมรดกให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี แต่นี่ใช้เวลา 18 ปีแล้วยังไม่เรียบร้อย

“ลำพังมรดกของตระกูลธรรมวัฒนะยังจัดการไม่เรียบร้อย แล้วจะมาจัดการประเทศไทยได้อย่างไร ใช่ไหมพี่น้อง 1.ทำผิดกฎหมาย 2.ยโส อวดดี 18 ปีเป็นประธานคณะกรรมการจัดการมรดก เขาระบุให้ทำให้เสร็จภายใน 1 ปี หลักฐานมีหมด ได้รับค่าที่ปรึกษาเดือนละ 2 หมื่นบาท มาเป็นเวลา 18 ปี เสร็จแล้วสิ้นปียังมีโบนัสให้อีกปีละ 2 แสนบาท ช่วงหลังได้ปีละเป็นล้าน

ตัวเองเป็นนอมินี ของทักษิณ ชินวัตร ยังไม่พอ พอเป็นนายกฯ ช่วงหลัง ก่อนเป็นนายกฯ กลัวเขาว่า ก็เลยขอไม่รับเงินค่าที่ปรึกษา แต่ใส่ชื่อลูกสาวรับแทน การเมืองก็มีนอมินี ส่วนตัวก็มีนอมินีครับพี่น้อง

อยู่ไปทำไมอายเขา 18 ปียังทำอะไรไม่ได้ 18 ปีก็ทำให้พี่น้องเขาฆ่ากันฉิบหายวายป่วงหมดแล้ว 4 เดือนก็ทำให้ประเทศฉิบหายหมด ไอ้คนนี้มันอัปมงคลไปทุกอย่าง” นายสนธิ กล่าว

จากนั้น นายสนธิ ด้เปิดเทปบันทึกเสียงการพูดของนายสมัคร ในรายการสนทนาประสาสมัคร ที่ยอมรับว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา เปรียบเทียบกับคำประกาศของจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2505 ที่ยืนยันต้องทวงคืนปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมาให้ได้ไม่ว่าจะอีกกี่ปีกี่ชาติ เป็นการชี้ให้เห็นว่าใครคือเสือใครคือหมา

นายสนธิ ย้ำว่า ไทยมีความชอบธรรมในการอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทพระวิหาร เพราะแม้กระทั่งคำตัดสินของศาลโลกก็ไม่ได้มีมติเป็นเอกฉันท์มีผู้พิพากษาถึง 3 คนที่เห็นด้วยกับเรา แต่เรากำลังเสียสิทธิที่จะทวงคืนหลังจากนายนพดล และนายซกอันรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาลงนามในข้อตกลง

นายสนธิ ย้ำว่า ถ้ากระทำไปด้วยความโง่อาจยอมรับได้ แต่นี่เป็นการจงใจฉ้อฉลที่จะยกปราสาทพระวิหารให้แลกกับผลประโยชน์ทางธุรกิจของนายใหญ่ ทั้งที่ถ้าไทยไม่รับรอง กัมพูชาก็ขึ้นทะเบียนไม่ได้ จะให้ต้องพิพาทเรื่องปราสาทพระวิหารกับเขมรไปอีก 500 ปีก็ให้เป็นไป

“มันหมดสิ้นแล้วบ้านเมืองนี้ บ้านเมืองวิกฤต แต่ไม่นึกว่ามันวิกฤตและชั่วช้าถึงขนาดนี้ เจ็บใจอะไรไม่เท่ากับคนขายชาติ ยกดินแดนให้เขมรเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของบิดามันที่บอกว่าไม่เล่นการเมืองแต่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างในประเทศนี้” นายสนธิ ระบุ และว่า มีคนถามว่าจะสู้อีกอีกนานเท่าไหร่ ก็ตอบไปว่าจะสู้จนกว่าเลือดหัวมันออก ตายเป็นตาย

นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้เรามายืนอยู่บนทางสองแพร่งที่ต้องมีชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และไม่ขายชาติขายแผ่นดิน ส่วนอีกแพร่งหนึ่งที่มีพวกนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่ไม่เอาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พวกเราเลือกข้างแล้วหรือไม่ว่าอยู่ข้างไหน นี่คือเหตุผลว่าเราอย่าท้อ และนี่คือบทพิสูจน์ว่าฝนตกก็ไม่หนี

“ที่ผ่านมาเราเป่านกหวีดแล้วมาถึงตรงนี้ ต่อไปถ้าเราเป่านกหวีดอีกครั้งให้มากันเป็นล้าน สู้ไม่สู้ครับพี่น้อง” นายสนธิ ระบุ

นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้การเมืองพังทลาย เมื่อ ส.ว.กำลังอภิปรายแล้วถูกนายสมัครขากถุยใส่ ไม่ให้ความสนใจ การเมืองแบบนี้เราไม่เอา เราต้องเปลี่ยนการเมืองใหม่ เวลานี้ไม่ใช่เรื่องแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้ว

“สู้ไม่สู้ ถ้าสู้ ผมพร้อมจะตายกับพี่น้อง และจะตายก่อนพี่น้อง” นายสนธิ กล่าวย้ำ



กำลังโหลดความคิดเห็น