xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “หมัก” การันตี “เขาพระวิหาร” ของกัมพูชา-หมิ่นพันธมิตรฯแก๊งข้างถนน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายการ “สนทนาประสาสมัคร” ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2551 เวลา 08.30-09.30 น.โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แจงเรื่องเขาพระวิหาร การันตีเป็นของเขมรแล้ว ใส่ไฟพันธมิตรฯ ปลุกระดม เย้ยคนเรียกร้องจะเป็นจะตาย ทำไขสือไม่รู้เรื่องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในเขมร โวยสื่อยกชั้นพันธมิตรฯ เทียบเท่ารัฐบาล อ้างเชิดชูคนทำผิด แต่เหยียบย่ำคนทำถูก กม.ประชดจะตั้งแก๊งข้างถนนบ้างหากแพ้อภิปรายและ ปชป.ได้เป็นรัฐบาล เฉไฉเช่ารถเมล์ 6 พันคัน ไม่ได้ใช้เงินซื้อ ไม่มีช่องทางโกง ปิดท้ายตอบจดหมายเหน็บพันธมิตรฯ ตามเคย ยันจันทร์นี้ เข้าทำเนียบแน่

“สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ ขอเรียนให้ทราบนิดนะฮะเมื่อวานนี้โดนต่อว่า คือ เมื่อวานก็บอกว่าจะไปร้องเพลงปลุกใจเขาที่กรมประชาสัมพันธ์ รับปากกันไว้แน่นหนาเลยครับ แต่ว่ามีคนเขาบอกมาว่า ถึงว่างก็ไม่ควรไป จะเป็นการยั่วกิเลสชาวบ้านเกินไปที่จะไปร้องเพลงปลุกใจตอนนั้น ผมก็เชื่อคำแนะนำแต่ขออภัยท่านที่ไปรอฟังนะ

ทีนี้ เช้านี้โผล่เข้ามามีคำถามก่อนเพื่อนเลย ขอให้ตอบก่อนพูด เพราะกลัวว่าวันนี้พูดเยอะแล้วจะหมดเวลา ช่วยแปลคำว่า “สะพานชมัยมรุเชฐ” ให้ฟังหน่อย เพราะลูกถาม แปลให้ลูกฟังไม่ได้ รู้แค่คำเดียว คำว่าเชษฐ์ แปลว่าพี่ แต่ชมัย กับมรุ ไม่รู้แปลว่าอะไร สะพานอยู่หน้าทำเนียบ ฮะ หน้าทำเนียบรัฐบาล คำว่า “ชมัย” แปลว่าทั้งสอง ถ้าจะเทียบให้ชัดภาษาอังกฤษมันแปลว่า Both ที่แปลว่าทั้งสอง ชมัย แปลว่า ทั้งสอง “มรุ” แปลว่า ที่ล่วงลับไปแล้ว เชษฐ์ ก็แปลว่า พี่ เจ้านายท่านสร้างสะพานนี้ก็อุทิศให้พระเชษฐาที่ล่วงลับไปแล้ว 2 พระองค์ ก็ชมัยมรุเชฐ สะพานนี้มีสร้างคู่กันนะ มีสะพานอีกสะพานหนึ่งอยู่ถนนราชวิถี ตรงผ่านสวนจิตรฯ ที่จะขึ้นทางรถไฟ ชื่อสะพานอุภัยเจษฏุทิศ อันนั้นก็ยิ่งยาเหมือนกัน อุภัยเจษฏุทิศ แปลเหมือนกันนะครับ ชื่อคล้องกันด้วยนะ ชมัยมรุเชษฐ ขึ้นก่อน แล้วก็อุภัยเจษฏุทิศ แปลเหมือนกันเลยครับ “อุภัย” แปลว่า ทั้งสอง เจษฏ์ ก็แปลว่า พี่ อุทิศ ก็อุทิศ อุทิศให้พี่ทั้งสองที่ล่วงลับไปแล้ว เมืองไทยเราก็มีวิธีการอย่างนี้ล่ะครับ บางสะพานก็ใส่หมายเลข หมายเลขตรงท้ายน่ะ จะบอกตรงท้าย ท่านเห็นไหมในกรุงเทพฯ มีสะพานหมายเลขท้ายๆ นั่นบอก พ.ศ.ครับ เช่น สะพานเจริญศรี 42 ที่หน้าศาล คลองหลอด ตรงนั้นก็เป็นสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ.2442 สะพานเฉลิมโลก 55 นี่ก็แปลว่ารัชกาลที่ 6 เพราะว่าท่านขึ้นครองราชย์ 2453 54-55 เฉลิมโลก 55 ก็แปลว่า สร้างสะพานชื่อเฉลิมโลก พ.ศ.55 ถัดมาสะพานหัวช้าง ก็เฉลิมหล้า 56 ถ้าใครเกิดการโต เห็นแถวๆ หน้าวัดสระปทุม ตรงหัวถนนอังรีดูนังต์ แต่ก่อนมีสะพานชื่อสะพานเฉลิมเผ่า 57 ก็แปลว่าปีที่สร้าง ถ้าเห็นเบอร์ข้างหลังแปลว่าปีที่สร้าง เดี๋ยวนี้ก็ลบเลือนไปเยอะ ถามเรื่องสะพานก่อน ตอบให้กว้างขวางไปนิด

**แจง “พระวิหาร” - โบ้ยพันธมิตรฯ ปลุกระดม

คำถามถัดไป นี่ถามทั้งโทรศัพท์ ถามทั้งสั่งเลยว่า ให้พูดเสียก่อนที่จะพูดเรื่องอะไรอื่นในทางการบ้านการเมืองที่ตั้งใจจะพูดวันนี้ คือว่า วันนี้ถ้าไม่อธิบายความเรื่องเขาพระวิหารให้ฟังก็ดูเหมือนกับว่าจะให้เขาจุดชนวนให้มันลุกลามกันต่อไป ผมบอกว่าวันนั้นไปประชุม กอ.รมน. ก็ปราศรัยกับชาว กอ.รมน. 450 คน มาจากทั่วประเทศ ผมก็พูดไปหน่อยว่าแหมผมคันปากเต็มที อยากจะพูดเรื่องนี้ คันปาก ก็คือว่าคนที่มาซักไซร้ไล่เลียง ไล่ต้อน จะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ คือพวกนี้ไม่ค่อยคิดว่า ไม่ถามลูกพี่ตัวที่อายุมากๆ ที่อยู่ในพรรคเดียวกันน่ะ ถามสิมันเกิดเหตุอะไรยังไงมา

ผมต้องอธิบายให้ฟังให้ชัดเจนเลยนะครับเรื่องนี้ตอนปลายที่มันเถิดทำเนี่ย เกิดเอาเรื่องนี้มาปลุกระดมกัน แล้วปลุกระดมขนาดไหน โห ปลุกระดมแล้วน่ากลัวครับ ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นช่างตัดเสื้อ ตัดเสื้อแพงด้วยนะ ตัวนึงแต่ก่อนตัดเป็นพัน เดี๋ยวนี้ตัดเป็นชุดละหมื่น ผู้หญิงนะ บอกวันนี้ไม่รับแขก ไม่เอาอะไรแล้ว จะไปแล้ว จะไปประชุมกับเขา บอกว่าจะต้องไปเอาให้ได้เรื่องนี้ เรื่องเขาพระวิหาร ไทยจะเสียเขาพระวิหาร แล้วก็ต้อง คือพูดหลุดคำมาว่า ถ้าฉันจะตายเพราะเรื่องเขาพระวิหารก็จะยอมตาย โอ๊ย ผมฟังแล้วบอก โอ้โห นี่การปลุกระดมมันได้ผลถึงขนาดคนเราเป็นช่างตัดเสื้อนะฮะ ไม่มีความคิดเลยฟังแล้ว คือผมอธิบายให้ฟังได้ชัดเจนว่าเรื่องนี้เอามาปลุกระดมกันเกินเหตุ นี่เกินเหตุถึงขนาดจะเอาไปศาลปกครองนะครับ แต่ผมเชื่อว่าศาลปกครองก็อายุมากพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยังไงนะ

คือ พ.ศ.2505 เนี่ย เขมรฟ้องศาลโลกว่าเขาพระวิหารน่ะเป็นของเขา แล้วเราก็สู้คดีศาลโลก บริจาคกันคนละบาทนี่ละครับ แล้วก็ไปสู้คดี ก็บังเอิญท่านที่ไปสู้คดีท่านเชื่อมั่นในเรื่องแผนที่ เขาถามว่ารับแผนที่ไหม ที่ฝรั่งเศสขีดไว้ ก็ท่านไปยืนยันว่ารับแผนที่ที่ขีด เท่านั้นล่ะครับ เมื่อขีดลงไปแล้ว ไอ้ตรงนี้ ถ้าจะไปบอกว่าจะเอาสันปันน้ำ ไม่รับแผนที่ที่ขีด ก็ยังสู้กันได้นาน บอกรับแผนที่ที่ขีด ไอ้ฝรั่งคนขีดมันก็ไม่ได้ไปดูของจริง มันดูแผนที่ ตรงนั้นสันปันน้ำ คือเป็นหิน เป็นแนวยื่นเข้าไปทางโน้น ข้างล่างต่ำ แล้วยื่นเข้าไป ก็สร้างปราสาทตรงแนวยื่นเข้าไป เวลามันเขียนแผนที่มันก็ขีดแผนที่มา ไอ้ตัวแนวที่ยื่นขึ้นไปในอากาศตรงนั้น คือถ้าคิดสันปันน้ำก็เป็นของไทย แต่ว่าฝรั่งขีดเส้น ฝรั่งเศสนี่ล่ะครับ ขีดเส้นมาตรงตีนกระไดนั่นล่ะครับ

ก็เวลาไปต่อสู้กันทนายของเราไปยอมรับแผนที่ ไปยอมรับแผนที่ก็แพ้คดีเลยครับ เอาแผนที่มากางเสร็จปั๊บ บริเวณที่ยื่นไปนั้นอยู่นอกแผนที่ ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับอยู่ในเขมร เท่านั้นล่ะครับ ก็แพ้คดีครับ ศาลโลกตัดสินแพ้คดี ต้องยกเขาพระวิหารให้เขาไป นี่คดีความระหว่างศาลโลกนะครับ แม้จะมาพูดจากัน 2-3 วัน มาพูดจาบอกว่า 20 วันหลังจากนั้นได้ไปยื่นทักท้วงไว้ว่า ยังไม่สละสิทธิ์ ก็แล้วยังไงครับ เวลาผ่านมา 45 ปี แล้วมีใครได้ไปเริ่มทำสิทธิ์ ไปเริ่มคดี เปิดคดีใหม่หรือยัง 45 ปีครับ มันแพ้คดีเขา แล้วตกลงขีดเส้นกันตรงนั้น ที่อยู่กันมาได้นี่ก็เพราะประโยชน์ร่วมกัน เพราะว่านักท่องเที่ยวขึ้นได้ทางนี้ ทางโน้นขึ้นไม่ได้ ต้องขึ้นทางเรา สะดวก นักท่องเที่ยวก็มาทางเรา ถึงอยู่กันมาว่า แผ่นดินน่ะเขาชนะศาลโลก เขาเอาไปแล้ว เขาชักธงอยู่บนนั้น 45 ปีครับ ถ้าปีละผืน ก็ 45 ผืนแล้ว เปลี่ยนธงมาน่ะ ไม่มีใครทักไม่มีใครท้วง อยู่กันมาอย่างเรียบร้อยดี ก็ตกลงว่าเราแพ้คดีเขา เขาก็เอาที่ตรงนั้นไป ก็เป็นของเขา จะคาบลูกคาบดอกยังไง จะสงวนสิทธิ์ยังไง ก็ 45 ปีไม่มีใครทักใครท้วงอะไรยังไงเลย

**การันตี “พระวิหาร” ของเขมร

เสร็จเรียบร้อยแล้วเกิดอะไรขึ้น เกิดว่า วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เขมรเขาจะเอาที่นี่ เขาพระวิหารเนี่ย ไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พอจะขึ้นทะเบียนมรดกโลกเราก็ต้องท้วงทันที บอกถ้าขึ้นทะเบียนมรดกโลก รอบๆ ภูเขาที่อยู่ข้างล่าง นี่เขาเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อน มีอยู่ 4 ตารางกิโลเมตรกว่า ยังตกลงกันไม่ได้ พื้นที่ทับซ้อนเนี่ย เขาบอกว่าไม่ได้ คุณไปขึ้นอย่างนั้นได้ยังไง เขาบอกเขาจะขึ้นทะเบียน เราบอกว่าไม่ได้ ทางนายกฯ ฮุน เซน ก็บอกว่าจะแก้ปัญหาเพื่อจะขึ้นทะเบียน เขาบอกจะเอาเฉพาะตัวปราสาท เราก็บอกว่าตัวปราสาทได้ แต่ต้องไปตกลงกันที่ยูเนสโก ก็ตกลงไปที่ปารีส

มันไม่ใช่ นั่นตกลงในที่ของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราเลยนะ ไม่ใช่ที่ของเรา แล้วก็ไม่ได้เข้ามาตรา 190 อะไรเลย เรื่องของเขา เพียงแต่บอกว่ามีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ เราไม่เห็นด้วยถ้าเขาจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย เขาก็อยากจะขึ้นทะเบียนของเขา เขาก็ไปพูดกันที่โน่น เจรจากัน 12 ชั่วโมง ก็ตกลงกันเรียบร้อยว่าขึ้นเฉพาะตัวปราสาท คราวนี้ผมอธิบายด้วยปากเปล่าโดยไม่ต้องเอาแผนท่งแผนที่มากาง ทหารเขาก็ไปดูครับ เจ้ากรมแผนที่ทหารไปดูหมด ก็ตกลงว่า ตัวที่ของเขาในเขตแดนของเขา ขีดขอบเป็นพารามิเตอร์รอบๆ วันนั้นเขาใส่มาสีชมพู แปลว่าขีดขอบปราสาทอันนั้น ขีดขอบเอาแค่ตัวปราสาท ก็อยู่ในที่เขา ขีดขอบเขตของเขานั่นล่ะครับ แล้วก็ตกลงว่าขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ก็ของๆ เขา อยู่ในนั้นของเขา ขึ้นทะเบียน ตกลง ถ้าเผื่ออย่างนี้ได้ไม่มีปัญหา แล้วพื้นที่ทับซ้อนเขาก็บอกว่า 2 ปีค่อยเจรจากัน ภายใน 2 ปีน่ะ เจรจาคือยังไง คือไอ้ที่ทับซ้อนที่มีคนเขมรเข้ามาตั้งแต่ พ.ศ.43 นั่นน่ะ ตั้งบ้านตั้งวัดอะไรตรงนั้น พ.ศ.43 ครับ รัฐบาลไหนก็ไม่ทราบ 2543 ไปนับดูก็แล้วกัน

ก็เขาเข้ามาอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร แล้วก็อยู่มาตรงนั้น นี่ล่ะครับ คราวนี้ ภายใน 2 ปีนี้จะต้องเอาตรงนั้นออกไป เพราะเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งหมดมีเท่านี้เท่านั้นเองครับ เขาก็ไปตกลงว่า โอเค ถ้าอย่างนี้ขึ้นทะเบียน วันที่ 5 กรกฎาคมนี้ เขาจะขึ้นทะเบียนที่ควิเบก แคนาดา ก็เขาขึ้นทะเบียนปราสาทที่อยู่ในเขตของเขาน่ะครับ มันไม่มีสนธิสัญญาอะไรเกี่ยวข้องอะไรกันเลย เราทักท้วงเพราะว่าจะเอาพื้นที่รอบปราสาท เขียนมาด้วย บอกไม่ได้ อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้มันทับซ้อน ก็เจรจาอยู่พื้นที่ทับซ้อน เราก็ท้วง แล้วก็ท้วงสำเร็จ แปลว่าพื้นที่ทับซ้อนไม่เอาไปขึ้น ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท คำว่า "พื้นที่ทับซ้อน" ยังมีอีกว่า ชายแดนที่ยังเจรจาไม่เสร็จ ยังเถียงกันตรงไหน ก็เป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องถือ รอบเขาพระวิหารมีอยู่ 4 กิโลเมตร ก็ยังต้องเจรจาต่อ รวมทั้งไอ้ในทะเลที่เอามาด่ากันเนี่ย ในทะเลเป็นกี่พันตารางกิโลเมตร ก็สุดแท้แต่ ทับซ้อนกันอยู่ ก็ไม่เจรจา ไม่เจรจานะครับ ทิ้งไว้อย่างนั้น เพราะว่าเขาพระวิหารก็ยังไม่เจรจา ชายแดนก็ไม่เจรจา พื้นที่ทับซ้อนทั้งหมดไม่มีการเจรจา

แล้วเพื่อเขา ก็เอาของเขาในที่ของเขา ขอบเขตเรียบร้อยนั่นล่ะครับ ไปขึ้นทะเบียน ก็ตกลงกันเท่านี้เอง เขาก็แถลงการณ์ร่วม ว่าตกลงถ้าเผื่อเขมรจะเอาเฉพาะรอบๆ ตรงนั้น เราก็ไม่ขัดข้อง เขาก็เรียก Joint Communique ฝรั่งเศสนะครับ มันไม่ใช่สนธิสัญญาอะไรนี่ครับ ตกลงว่าโอเค ที่ของเขานะครับ เพราะฉะนั้นอยู่ดีๆ เอามาปลุกระดม เอาไปนั่นกัน นายกฯ ทักษิณ เกิดไปตีกอล์ฟกับฮุน เซน บอกว่าจะแลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนอะไรล่ะครับ ฟ้องคดีอยู่ในศาลนะครับ เป็นทำนองว่ารัฐบาลนี้เอาเขาพระวิหารไปยกให้เขมร เพื่อจะแลกเปลี่ยนไปขุดน้ำมัน น้ำมันก็ไม่ได้ขุด แลกก็ไม่ได้แลก เพราะมันของๆ เขา เราน่ะทำหน้าที่รัฐบาลนี้ทักท้วง เอาล่ะ จะเอาเรื่องไม่ไว้ใจรัฐมนตรีนพดล คือพูดเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง แม่ทัพนายกองออกมา ผู้บัญชาการทหารบกออกมา ท่านกรมสนธิสัญญาฯ ออกมา เจ้ากรมแผนที่ออกมา เขายืนยันชัดเจนว่ามันขอบเขตของเขา ที่ของเขาเท่านั้น ไม่มีพื้นที่เรา ไม่เคยเสียอะไรไปทั้งนั้น ก็ยังไม่ฟัง ปลุกระดมกัน ได้ระดับไหน ขนาดผู้หญิงตัดเสื้อชุดละหมื่นนั่นล่ะครับ โหย แสดงอาการ บอกไม่ได้เลย ฉันจะต้องไปร่วมชุมนุม จะเสียเขาพระวิหารไปฉันยอมตาย ยอมเสียชีวิต มันอะไรกันขนาดนี้ล่ะครับเนี่ย

การปลุกระดมถึงได้ผลขนาดนั้นเชียวเหรอครับ ทำไมคนเราเกิดอาการรักชาติกันขึ้นมาจะเป็นจะตาย แล้วทำไมล่ะครับ ก่อนหน้านี้ถ้าเขมรไม่ขึ้นทะเบียนก็อยู่กันมาต่อไป อยู่กันไปอีก 50 ปี ก็อาจจะอยู่อย่างนี้อีก 50 ปีต่อไปข้างหน้า เขาอยากจะเอาหน้าเอาตา เขาจะขึ้นทะเบียน ก็บ้านเราก็ขึ้นทะเบียนในแผ่นดินของเรา เขาก็ขึ้นทะเบียนก็เป็นแผ่นดินของเขา แล้วมันอะไรกัน มันอะไรกันนักหนาถึงอย่างนี้ ผมอธิบายให้ฟังชัดเจนแล้ว ผมต้องรับผิดชอบในหัวหน้ารัฐบาล จะไปเกลียดแค้น ชิงชัง ไม่ชอบ รัฐมนตรีฯ นพดล รัฐมนตรีฯ นพดล เคยเป็นทนายให้นายกฯ ทักษิณในอดีต ทุกอย่างมันจบสิ้นไปหมดแล้ว มันไปโยงใย มันไปแลกเปลี่ยนอะไรล่ะครับ

** ปัดโรงไฟฟ้าเกาะกงเอี่ยว “แม้ว”

โรงไฟฟ้าที่เกาะกง ที่จะสร้างเนี่ย รัฐบาลนี้เป็นคนเจรจานะ ไม่ใช่นายกฯ ทักษิณนะ ของเราจะสร้างโรงไฟฟ้า 2 โรง ตกลงถ่านหินเผา 7,000 บีทียู ถ่านหินที่แม่เมาะ เผา 2,400 บีทียู มันมีควัน มีซัลเฟอร์ ก็ตกลงเราจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 2 อันที่หินกรูด อะไรต่างๆ ตกลงเอาถ่านหิน ชนิดที่เผา 7,000 บีทียู เผาแล้วหมดไม่มีมลพิษ ต่อต้านกัน 10 ปี สร้างไม่ได้ ก็เจรจากันน่ะครับ นั่นล่ะครับ ไปเยี่ยมที่ผมเดินทางไปก็ตกลงว่า เขาบอกยินดี เขายินดีให้สร้างโรงไฟฟ้า แล้วไฟฟ้าก็มาขายบ้านเรา โรงไฟฟ้าสร้างในเมืองเขาแล้วส่งไฟฟ้ามาขายบ้านเรา แล้วเดี๋ยวนี้ที่ลาวไม่ทำอย่างนั้นเหรอครับ น้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 ก็เอาไฟฟ้าบ้านเขามาขายบ้านเรา มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนอะไรทั้งนั้นเลย ทำไมทันกันได้ถึงขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจหรอกครับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีเจ้าหน้าที่ของพรรคโผล่มาแสดงอะไรต่างๆ ผมดูอายุอานาม เขาจะเกิดทันหรือไม่ทัน ไม่รู้ แต่ควรจะถามไอ้คนแก่ๆ ในพรรคดูบ้าง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เมื่อ 45 ปีที่แล้ว

เอาล่ะครับ ทีนี้ก็หวังใจว่าคงเข้าใจนะครับ เพราะผมรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้เป็นสนธิสัญญาอะไรเลย เขาตกลงในที่ของเขา แต่บังเอิญการขึ้นทะเบียนยูเนสโกจะเอาบริเวณด้วย เราบอกไม่ได้ บริเวณนั้นทับซ้อน ยังเถียงกันอยู่ ก็ไปตกลงกันที่ปารีส บอกเอาล่ะ เอาเฉพาะตัวปราสาท เขาก็ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท ในเขตของเขานะ แล้วถึงว่าอะไร ผมต้องใช้คำว่า "อะไรกันนักหนา" ถึงปลุกระดมกันว่าเสียดินแดน มันเสียอะไรล่ะครับ มันเสียไปเมื่อ 45 ปีที่แล้ว มันแผ่นดินของเขานะครับ แล้วขึ้นก็ขึ้นปราสาทเท่านั้น ทำให้คนไทยเข้าใจผิด เกิดไม่ทัน จะเป็นจะตายขึ้นมาว่าจะเสียดินแดน ไม่มีเสียหรอกครับ แม่ทัพนายกองเขามารับรองกัน เขาดูแผนที่ ไม่มีเรื่องอะไรเลย แต่ทำไมใช้วิธีการกันอย่างนี้ผมไม่เข้าใจ

เอาล่ะครับ ถัดไปเป็นเรื่องที่ผมต้องการจะพูดวันนี้ ความจริงจะต้องพูดเรื่องการเกษตร อุตส่าห์ไปศึกษามาต่างๆ จะคุย แต่เดี๋ยวไว้ต่อหางตอนท้าย ถ้าไม่ทันก็ต้องเอาไว้ต่ออาทิตย์หน้า วันนี้ผมจะต้องพูดให้ฟังให้เข้าใจหน่อยนะครับ คือจะต้องทบทวนให้ฟังว่า ประเทศไทยเนี่ยเรามีการปกครองที่เปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 มาถึงบัดนี้ก็ 76 ปีแล้วครับ จะกระโดกกระเดก จะเปลี่ยนแปลงยังไง ถ้ามีทหาร เคยมีอำนาจ ยึดอำนาจประชาธิปไตย เต็มใบ ครึ่งใบ เรียกว่ากระโดกกระเดกกันมาเนี่ยนะ สุดท้ายก็ยังมีปฏิวัติ เปลี่ยนแปลง ยึดอำนาจ ก็ยังมีอยู่นะครับ แต่ว่าเมื่อเสร็จเรียบร้อยถอยไปแล้ว เราก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติ คือมีรัฐธรรมนูญมาใช้รับรอง แล้วจากรัฐธรรมนูญก็จะมีการเลือกตั้ง มีการเลือกตั้ง

สมัยนี้ทันสมัยแต่ก่อนนี้ก็ให้มหาดไทยเป็นคนดูแล ถ้าทันสมัยจริงๆ เขาจะต้องมีคณะกรรมการเลือกตั้ง เหมือนในโลกเขามี ฟิลิปปินส์น่ะเขามีก่อนหน้าเรา เขาเรียก "นัมเฟรล" ของเราก็สังเกตการณ์ สุดท้ายเราก็มีองค์กรพิเศษ เรียกว่าคณะกรรมการเลือกตั้ง จัดการทำให้ทัน แต่ก่อนรอศาล 4 ปี หมดวาระสภา คดียังอยู่ในศาล เดี๋ยวนี้เขาจัดการเลย 1 เดือนทำอย่างนี้ ต่อไปทำอย่างนี้ ก็เลือกตั้ง มีกฎเกณฑ์ ทำกฎเกณฑ์ ต่างชาติก็เข้ามาดู เสร็จแล้วก็เลือกตั้งตามระบบมาตรฐาน พื้นฐานจะเป็นยังไง มายังไงก็สุดแท้แต่ แต่ว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 23 ธันวาคม เป็นการตกลงแบบชาวโลกเขาดูกันทั้งโลกนะครับ แล้วตกลงเรียบร้อยแล้วก็ พรรคการเมืองได้ 233 พรรคการเมืองนี่ได้ 164 ที่เหลือมีอีก 5 พรรคการเมือง เสร็จแล้วรวบรวมกัน ใช้เวลาพักหนึ่งก็ตกลงกันได้ว่า พรรคที่ได้ 233 คือพรรคพลังประชาชน รวมกับอีก 5 พรรค ได้ 316 อีกพรรคหนึ่งเหลือ 164 ก็เป็นฝ่ายค้าน ก็เริ่มต้นออกกันมาอย่างนี้ นี่ก็มาตรฐานสากลนะครับ

**อ้างชุมนุมพันธมิตรฯ ทำขายหน้า

แล้วข้อสำคัญที่สุดก็คือว่า ในรัฐธรรมนูญเขาก็บอกเลยว่าวิธีแก้ไขจะเป็นยังไง ก็มันมีข้อบกพร่องอยู่ ต้องแก้ ก็พูดกัน คนร่างก็บอกว่าเอาเถอะ ใช้ไปก่อนแล้วไปแก้ทีหลัง ก็ถึงคราวจะแก้ เกิดอาการไม่ได้ขึ้นมา จะไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ ทั้งหมดก็พูดกันตรงไปตรงมา ไอ้ความเคียดแค้นชิงชัง ไอ้การไล่นายกฯ คนเก่า ยังไม่จบ นายกฯ คนเก่าก็กลับมาขึ้นศาลแล้ว เขามาขึ้นศาลนะครับ มาขึ้นศาล ต้องอยู่ ไปไหนไม่รอดต้องขึ้นศาลครับ เป็นจำเลยในคดี ในศาล ต้องมาขึ้นศาล ก็เรียกร้องให้เขามาขึ้นศาล เขาก็มาขึ้นศาล แต่ว่านั่งจ้องดูหาเหตุกัน แล้วเอาเหตุตรงไหน พอจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาเลยครับ โดดลงมาทันทีแก้รัฐธรรมนูญ พอถัดมาอีกหน่อย เอ้า มีการเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอ้า 2 แล้ว กระโดดมาเอาด้วย อ้าว บังเอิญรัฐธรรมนูญตกไป เรียบร้อย คนหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็ถอยออกไป เขาก็ลาออก พอตำรวจชี้ว่ามีมูลเขาก็ลาออก แล้วไง เปลี่ยนทันทีเลยครับ ขับไล่รัฐบาล

ไล่รัฐบาลที่ผมเป็นหัวหน้าเนี่ยครับ ไล่รัฐบาล เสร็จแล้วผมก็ต้องทำหน้าที่ของผม ผมบอกไปทำอยู่ตรงนั้นไม่ได้ ผมก็อธิบายความเลยบอกคุณทำอย่างนี้ไม่ได้ มันขวางทาง หน้าองค์การสหประชาชาติ ขายหน้าเขาไปทั่วโลก ทำอย่างนี้ได้ยังไง ไม่เคารพกฎบัตรกฎหมาย อธิบายความเท่านั้นล่ะครับ โอ้โห กลายเป็นเรื่องใหญ่ นายกรัฐมนตรีกลายเป็นคนร้ายไปในพริบตา ยังไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ บอกตำรวจว่าจะต้องทำยังไง วิธีการจะต้องยังไง จะดูจังหวะจังโคน แล้วต้องพูด ถ้าเอาโทรทัศน์ไปถ่าย ต้องรอให้เขาเป็นคนรื้อเอง ถ่ายให้คนเห็นว่าเป็นยังไง ก็ซักซ้อมไว้อย่างนั้น จะเมื่อไหร่ยังไงก็ไม่รู้ แล้วปรากฏว่า โอ้โห 5 โมงเย็น ประกาศเองเลยครับ 5 โมงเย็น ตำรวจจะสลาย เสร็จแล้วนักวิชาการ วิชาเกิน ออกมาล่อกันนัวไปเลย กลายเป็นว่ารัฐบาล โอ๊ย รัฐบาลไม่โง่จะสลาย

ผมก็เอาล่ะครับ ยอม ไม่สลายก็ไม่สลาย พูดไปก็ไม่ได้นั่นไป ตำรวจก็รับผิดชอบ ทีแรกว่าตำรวจยังไม่มีสถานะ เอ้าตำรวจได้รับโปรดเกล้าฯ ทำไมไม่รับตำแหน่ง เอ้าคุณดูเลย คุณรับเรื่องไปดูเลย ก็อย่างนั้นล่ะครับ ผมก็อดทนนะครับ ขายหน้าเขาก็ขายหน้า เจอทูตทีเขาถามผม ผมก็บอก ผมก็ยังไม่ทราบจะแก้ไขยังไง เพราะว่าผู้คนก็ยึดยื้อยุดกัน บอกว่าอย่าๆ ทำอะไรจะเสียหาย เขาก็มากัน สุดท้ายก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยล่ะครับ ขับไล่ๆๆ ไปๆ มาๆ นั่งฟังดูก็ อ๋อ ด่าอดีตนายกฯ ไม่พอใจ สุดท้ายเอาผมเข้าไปพ่วงด้วย ผมจะถามสิครับว่าอย่างนี้มันยุติธรรมไหม ผมมาถูกต้องตามกฎหมาย อดีตนายกฯ เขาก็เป็นอดีตนายกฯ แล้วเขาก็กำลังจะขึ้นศาล ขึ้นศาลไปแล้ว คดีความอยู่ในศาล แล้วจะพยายาม ความเกลียดชังยังไม่หาย จะเอากันให้เป็นให้ตาย แล้วก็จะลากเอาผมไปประกบด้วย กล่าวหาว่าเป็นนอมินี กรรมการก็บอกไม่เป็นนอมินี จะทำยังไงก็บอกไม่ใช่ จะเอาอย่างนั้นก็ไม่ใช่ พยายามจ้องทุกวิถีทาง คือจะเอาออกให้ได้ แล้วยังไง จุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนล่ะครับเนี่ย

**อ้าง ปชป.ซักฟอกหวังแซะ 5 พรรคร่วม

มีคน 5 คน มาตั้งขบวนการเสร็จเรียบร้อย ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เอาล่ะ สมมุติว่า มันจะเกิดกลับข้างกันเนี่ย อย่างที่กำลังนี้ ที่ว่าตกลงอภิปรายไม่ไว้วางใจเนี่ย ก็เอา เปิดไม่ไว้วางใจทำขึ้น ผมบอกมีเวลาจัดการทำเสียให้มันจบเรื่องไป ก็เอาไปเลยวันครึ่งไม่ไว้วางใจ ต่อไป 2-3 วัน ที่จะงบประมาณ ก็จบสิ้นไป ก็จะทำนะครับ วุฒิสมาชิกขอพูด เอ้า วันจันทร์ก็จะไปฟังวุฒิสมาชิก อีกวันครึ่งก็จะให้จัดการทำให้มันจบสิ้นไป เมื่อเวลาที่เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็ทำครับ ทำไมถึงตัดสินใจอย่างนี้ ก็เราก็ได้สังเกตเห็นว่า อ๋อ เขาอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงคือยังไงก็คือ เขาเรียกกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ก็ยื่นญัตติมา ยื่นญัตติมา มี 35 คน 6 พรรคร่วมกัน ก็ล่อมันพรรคเดียวเท่านั้นเอง เล่นพรรคพลังประชาชนพรรคเดียว 7 คน ก็ต้องการอะไร ไอ้นี่ล่ะกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา อีก 5 พรรคไม่แตะ เพื่ออะไร เพื่อจะได้เข้าสภา แล้วก็ถล่มทลายเอามันให้ชอกช้ำเลย เข้าสภามีภูมิคุ้มกัน จะเอาอะไรมาขุดมาด่า ก็เอา ผมก็บอกว่าทีแรกก็ลังเลใจว่า เรายังไม่ได้ทำอะไร สัญญาอะไรยังไม่ได้เซ็นสักแกร่ก โครงการอะไรต่างๆ ก็กำลังจะเริ่มดำเนินการ แต่ทำไมจะเอากันให้เป็นให้ตาย

**เล่นลิ้นจัดม็อบไล่รัฐบาล ปชป.

ดูสิครับ 9 ข้อที่เขียนมาน่ะแต่ละข้อๆ เหมือนกับแค่นต้องเขียนมา แค่นจะต้องเขียนมา 9 ข้อ เสร็จแล้วก็ยื่น เมื่อเราเห็นว่า เอาล่ะถ้าจะตกลงให้ดับชนวน ไม่ให้มันมีเรื่องคาราคาซังเอาล่ะ เอา ให้คุณวันครึ่ง ประชุม ครม.เช้า บ่ายมาให้ครึ่งวัน รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ต่อไปก็ให้งบประมาณอีก 2 หรือ 3 วัน ก็จะได้เสร็จๆ สิ้นกันไป ผมจะถามตรงนี้เท่านั้นล่ะครับ ว่าถ้าสมมุติว่าทางผมเลวทรามต่ำช้าจริง ทางฝ่ายค้านด่าทอว่ากล่าวเสร็จเรียบร้อย ลงคะแนน แล้วก็คณะ 5 พรรคเขาบอกว่า เออ เห็นว่าเลวจริง เลยไปลงคะแนนโน่น ไม่ไว้วางใจ ได้ไป 247 ไม่ไว้วางใจ เอาล่ะผมแพ้ ผมถอยออกไป แล้วไง ก็ได้รัฐบาลใหม่ คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ 5 พรรคไปรวมทางพรรคประชาธิปัตย์ แล้วถ้าคณะผมมันมีคนที่ไม่ได้รับเลือกตั้งก็เยอะนะครับ ถ้าผมอยู่ข้างหลัง ผมชักใยเลย ว่าออกมาเลยๆ เอามาสัก 5 คน ตั้งวงกันเลย ออกไปข้างถนนบ้าง ล่อมันทุกวันเลย ล่อทุกวัน ทำอย่างเดียวกัน ยึดถนนโน้นยึดถนนนี้ ทำมันสัก 5-6 กอง ล่อมันทั้งเมืองเลย แล้วมันอะไรจะเกิดขึ้นล่ะบ้านเมืองนี้

ไอ้ระบบที่มันเป็นทางราชการที่ทำอย่างถูกต้องมันแปลว่ายังไงครับ ที่ล่อกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เอาล่ะ กลั้นใจ ไม่อยากให้เกิดจลาจล ตำรวจเขาเล่าให้ฟังนะครับ ที่เข้ามาๆ ที่เขาปล่อยให้มันเข้ามาตรงนั้นก็เพราะเขาล่อจะให้ คืออะไรจะเอากระบองฟาด มันต้องมีเสียงปืนยิงซะนัดนึง เท่านั้นล่ะครับ ในอดีตมีแล้วนี่ครับ คนเขาเล่าให้ฟัง มีเสียงปืนดังปัง โอ้โห บอกว่าเราชนะแล้ว พอเสียงปืนนัดเดียวบอกเราชนะแล้ว

แล้วผมจะถาม มันแพ้ชนะกันตรงไหนยังไง เคลื่อนจากมัฆวานฯ มายึดตรงนี้ได้ เราชนะแล้ว แล้วยังไงต่อไปล่ะครับ ยังไงต่อไป ปลุกระดมจนกระทั่งบ้านเมืองจลาจล บ้านเมืองนี้มี 63 ล้านคนนะครับ ผมไม่อยากให้คำว่าคนหยิบมือนึง เอามาจากไหนยังไงไม่อยากวิจารณ์ให้มันเสียปาก จะมาอย่างไหน ก็เอาเถอะครับ จะทำก็ลองทำดู แล้วจุดหมายปลายทาง แปลว่าคน 5 คนตั้งคณะขึ้นมาแล้วเล่นกันข้างถนนอย่างนี้ เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีต้องพ้นไป แล้วบ้านเมืองอย่างนี้มันอยู่ได้ยังไงครับ เอาหน้าตาไว้ที่ไหนกันประเทศในโลกเขา ผมบอกถ้าสมมุติอภิปรายสำเร็จเอาล่ะ ผมแพ้ คณะ 5 พรรคของผมที่ไม่แตะต้องเลยเนี่ย ก็จะเปิดช่อง ไปร่วมทางโน้น ไปลงคะแนนไล่กระผมออกมา พอคุณตั้งรัฐบาลเสร็จปั๊บ ผมก็ตั้งแก๊งเล่นข้างถนนบ้าง แล้วยังไง ทีนี้จะมีใครมาเห็นใจผมมั้ยครับเนี่ย จะมีใครมายื้อยุดฉุดมือคุณอภิสิทธิ์มั้ย ว่าไม่ให้มาแตะต้อง ผมยึดถนนหมดล่ะ ผมไม่ทำ ผมให้คนที่สอบตก 5-6 คน ล่ออย่างนี้เหมือนกัน แล้วบ้านเมืองมันอยู่ได้หรือครับ บ้านเมืองมันมีหลักเกณฑ์นะครับ ผมถึงได้ร้องถามคุณ คุณมาจากไหน 5 คน คุณเลือกตั้งเมื่อไหร่ คุณมีสถานะยังไงทางกฎหมาย

**ใส่ไฟพันธมิตรฯหวังให้เกิดการปะทะ-โวยสื่อตีข่าว

แต่กำลังนี้บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลาย ผมก็ โอ้โห ประโคมข่าวกัน เป็นทำนองเหมือนกับว่าทั้ง 5 คนนี้มีสิทธิ์ที่จะมาตั้งข้างถนน มาปลุกระดม จะปิดถนน ไปแตะต้องไม่ได้ แหม ผมชอบใจคำพูดของท่านโฆษก ท่านเป็นตำรวจเก่านะครับ โฆษกรัฐบาลนี้ คือท่านจำได้นะฮะ ตำรวจจะสลายม็อบ จำได้ พอผมพูดวันเสาร์-วันอาทิตย์ ตำรวจจะสลายม็อบ 5 โมงเย็น ตำรวจจะสลายม็อบ แปลว่าตำรวจจะเข้าไปนั่น แปลว่าตำรวจสลายม็อบ แล้วไอ้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันนี้ล่ะครับ ม็อบสลายตำรวจ เป็นไงรู้มั้ย ม็อบสลายตำรวจ พูดได้มั้ยครับ ม็อบสลายตำรวจ บุกเข้ามา รุกเข้ามา ก็ตำรวจเล่าให้ผมฟังนี่ครับ ว่าเขาน่ะกระเหี้ยนกระหือรือ เขาว่าทำมั้ย ทำไมตำรวจไม่ตี ทำไมตำรวจไม่ทำ ทำไมตำรวจปล่อยทะลักเข้ามา เขาหวังใจให้มันปะทะ เพื่อจะเกิดเรื่อง จะได้เอาไปเป็นคดีความ ไม่สำเร็จหรอกครับ เพราะตำรวจเขาร่วมมือ คือร่วมมือว่าคุณจะเอาอย่างนี้ก็ตามใจ ไม่ปะทะ บาดเจ็บไป 4 คนนะ ก็ยอมเจ็บ

ก็ยังไงล่ะ พระสงฆ์องค์เจ้า ก็บอกว่า คุณสมัครรอดตัวไป ผมก็บอกว่ายังไม่รู้ว่าจะรอดแค่ไหน วันไหนเขาอดกลั้นไม่ได้ฟาดเข้าไปก็เกิดเรื่องเท่านั้นเอง แต่ถามว่าคณะนี้มันต้องการทำให้เกิดเรื่องเพื่อจะเอาเหตุ โดยยังไงครับ สื่อสารมวลชนทั้งหลายก็คอยจะประโคม ผมถึงบอกว่า อ๋อ ไอ้สมัครปากไม่ดี ว่าถึงสื่ออีกแล้ว ก็ดูสิฮะ ดูหนังสือพิมพ์ ดูพาดหัวกันเอิกเกริก เหมือนกับว่าคนทั้ง 5 นั้นมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับคณะผม คือมีสิทธิจะต่อต้าน จะอยู่ข้างถนน ทำให้ความยุ่งยาก เด็กนักเรียนไปไม่ได้ นั่นถูกต้อง เพราะสิทธิ อ้างรัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาตรานี้ แค่นอ้างมาอย่างนั้นเอง ที่ผมรำคาญใจก็คือว่าสื่อสารมวลชนนั้น เทียบยกน้ำหนักสองข้างเท่ากัน นั่นล่ะครับ คือความไม่เป็นธรรมในสังคม ผมมาถูกต้องตามกฎหมายนี่ครับ คุณอภิสิทธิ์ก็ถูกต้องตามกฎหมาย 5 พรรคที่ร่วมกับผมเขาก็มาถูกต้องตามกฎหมาย ก็เราทำตามกฎหมายถูกต้อง บ้านเมืองมาถึงตรงนี้ ทหารเขาก็บอกว่าเอาล่ะ เรื่องของรัฐบาล เขาไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศที่จะปลุกระดมให้มา เขาก็ไม่ต้องเข้ามาแล้ว

**ปากสั่นแจงเช่ารถเมล์

ทุกอย่างก็กำลังดำเนินการ โครงการต่างๆ ใน 4 เดือนนี้ก็ทำกันตัวเป็นเกลียวเลยล่ะครับ หรือว่าไอ้ที่กำลังจะทำใหญ่นี่มันเป็นโอกาส จะทำมาหากิน จะทำโครงการรถไฟต่อทั้งหมด ก็ที่แล้วมา เวลาผ่านมา ทำกัน 24 หยุดอยู่ข้างบน ยกระดับผ่ากลางเมืองเลย ทำใต้ยึกยักๆ อีก 20 มีอยู่แค่เนี้ย ต่อไปนี้จะทำประมาณ 300 กิโลฯ เริ่มต้นลงมือแล้วนะครับ ทั้งรถไฟ ทั้งเมือง ทั้งในเมือง นี่มันเป็นโอกาสของรัฐบาล ก่อกแก่กๆ แบบนี้จะได้เป็นคนทำเหรอครับเนี่ย จะทำรถไฟรางคู่ จะทำอันนั้น จะทำน้ำเข้ามาทางการเกษตร จะขุดบ่อลอกบึงหมดกำลังนี้ ทุกบึงกำลังจะเอาดินขึ้นหมด จะปรับหมด เพื่อจะเก็บน้ำหมด จะลงมือทำหมด มันเป็นโอกาสหรือไงครับ มันเป็นโอกาสแล้วมีคนทนไม่ได้หรือไงครับ แล้วไอ้รัฐบาลกอกแกก เส็งเคร็งคนนี้มันจะได้โอกาสตัดสินใจจะทำโครงการทั้งหมด แม้กระทั่งอย่างไอ้รถเมล์นี่ ให้ผมพูดให้ฟังหน่อยเถอะครับว่าไอ้เรื่องรถเมล์ เพียงแต่คิดแนวทางมาจะแก้ไข แสดงความรับผิดชอบเท่านั้นล่ะครับ โดนเอาไปยื่นไม่ไว้วางใจ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในกระดาษทั้งนั้น ยังไม่ได้ประมูลสักแกร็ก ยังไม่ได้ทำอะไรสักอัน

ผมเล่าให้ฟังก็ได้นะครับ รถเมล์เนี่ยนะครับ อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก่อนเรามีรถ 6,000 คัน ดำเนินการใช้กันมาเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล แล้วก็ใช้ดำเนินการกันมา แล้วก็ทำกันบกพร่องเสียหาย จนกระทั่งรถเนี่ยเหลือ 3,500 คัน หายไป 2,500 คัน เสียหายต่างๆ จนกระทั่งเอกชนต้องเข้ามาช่วยเดิน แล้วก็ดำเนินการกัน เอกชนได้สายดีๆ วิ่ง ตัวรัฐบาลได้สายไม่ดีวิ่งแล้วก็อยู่กันมาอย่างนั้น แล้วเป็นไงรู้มั้ยครับ แต่ก่อนมีคน 22,000 แล้วก็กลับมาตอนนี้เหลือ 18,000 แต่รถอยู่ 3,500 กับคน 18,000 ไม่สัมพันธ์กัน แต่ก่อนมัน 1 ต่อ 4 รถ 1 คัน คน 4 คน เดี๋ยวรถ 1 คัน คน 6 คน แบกน้ำหนัก แล้วเป็นไงครับ ก็รถที่ซื้อมาก็รถจะต้องซ่อม ระบบเช่าก็มาทำ ต้องตรวจสอบ มาเพิ่มเติม ก็ได้บทเรียนมาแล้วนี่ครับ รถที่เอามาซื้อมาต้องซ่อม อะไหล่ก็หากิน ยางก็หากิน น้ำมันก็ดูดกันออกไปได้ แล้วยังไง ตั๋วก็ขี่ช้าง ไม่เข้าใจว่าขี่ช้างเป็นยังไง ก็ตั๋ว 10 ใบ ฉีกกันได้ 12 ใบน่ะ ไอ้อย่างนี้น่ะมันเสียหาย ตอนผมอยู่เนี่ยนะ ติดลบอยู่ 2,000 ล้าน ก็มันเหลือแหล่ มโหฬารเต็มทีแล้ว เป็นหนี้ ขสมก. เป็นหนี้ 2,000 ล้าน บัดนี้ผมกลับเข้ามาใหม่ ขสมก.เป็นหนี้ ตัวเลขพูดคร่าวๆ 69,000 ตัวเลขที่แสดงเอกสารเห็น 74,000 ล้าน 74,000 ครับ ผมนั่งไม่รู้ไม่ชี้ซะ อีกหน่อยผมก็ไป มันก็ถึงแสนล้าน แล้วมีใครรับผิดชอบไหมล่ะครับ ปล่อยมันไว้อย่างนี้ เขาก็มีความคิดว่า คนมีความคิด ไอ้รัฐบาลที่ดูทำมันลงให้ได้ แต่มีความคิดว่าต้องแก้ไขปัญหา เขาก็เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ก็คร่าวๆ ง่ายๆ อย่างนี้ครับ

**เฉไฉรถไม่ได้ซื้อ-โกงไม่ได้

โละรถทั้งหมดขายไปซะ แล้วก็เอารถใหม่เข้ามา 6,000 คัน สภาพรถใหม่ปรับอากาศทั้งหมด แล้วก็ใช้แก๊ส เมื่อใช้แก๊สเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ จะทำให้ค่าใช้จ่ายมันลงไปเหลือ 1 ใน 3 เคยใช้ 100 ก็ใช้ 33 บาท ในการที่จะเดินรถ เมื่อเป็นอย่างนี้มันก็พอจะปรับปรุงได้ เขาก็จะทำ คน 18,000 เขาก็ใช้ คน 6,000 ล้าน เขาบอกเอาเออร์ลีรีไทร์ออกไปเสียครึ่ง ที่เหลือก็จะอยู่สัมพันธ์กับตัวรถ เอาแก๊สใส่ลงไป ทุกคัน 6,000 ก็ขโมยแก๊สไปขายไม่ได้ เพราะมันอัด ขโมยไปขายไม่ได้ ตั๋วก็เป็น e-ticket คือขึ้นไปก็เสียบๆ ก็แปลว่าขี่ช้างไม่ได้ ผู้คนก็เออร์ลีรีไทร์ เสีย 6,000 ล้านให้เขา ออกไปซะครึ่งหนึ่ง แล้วก็เนี่ยที่เขาจะแก้ไขได้ เขาก็บอกว่าอย่างนี้พอจะแก้ไขได้ แล้วรายได้ที่จะต่อมา นอกจากจะจ่ายเลี้ยงตัวมันเองได้ ก็จะมีเหลือที่จะใช้หนี้ 74,000 ล้าน คิดเท่านั้นล่ะครับ โอ้โห ถูกกล่าวหาว่าทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง จะหากินกับไอ้รถ ว่ายังไงครับ ว่าได้คันละล้าน ไม่ได้ซื้อรถนะครับ ซื้อไม่ได้นะครับ รถซื้อมาเนี่ย 3 ปีต้องซ่อม หากินกับอะไหล่ รถถ้ามี 100 คันก็วิ่งได้ 70 คัน เขาที่ให้เช่าเนี่ย แปลว่าตลอดเวลา 10 ปี รถต้องเอารถใหม่มาทุกวัน รถต้องใช้งานได้ ใหม่หรือไม่ใหม่ก็ต้องใช้งานได้ ต้องเปลี่ยนยาง ต้องมีแบตเตอรี่ ต้องมีอะไรเสร็จ แล้วเราเติมแก๊สของเราเองเท่านั้น ก็ยังไม่ทันจะเริ่มต้นนับ ก..ข..ยังไง ยังไม่ได้ประมูลเลยครับ กล่าวหาแล้วว่าเลือกบริษัทไว้แล้ว ก็รอซะก่อนสิครับ รอให้เลือกบริษัทซะก่อนค่อยล่อกัน

ไอ้นี่ผมก็บอกให้ชะลอ เอามาเขียนให้ดูซิว่า วิธีการจะออกประมูล จะเชิญชวนยังไง โอ้โห สมัครดึงออก เพราะสมัครกลัวจะไม่ไว้วางใจ อ่ะ นี่ไงครับ ก็วันอังคารนี่ผมเชิญให้ไม่ไว้วางใจ เอาเลย ถลกกันเลย ว่าเป็นยังไง ดูซิมันมียังไง มันมียังไง มันมีหลักฐานการทุจริตยังไง มันเซ็นสัญญากับใครไปแล้ว มันจ่ายเงินวางมัดจำใครไปแล้วบ้าง ไม่มีซักบาทนึง ยังอยู่ในกระดาษทั้งสิ้น ไอ้ตัวที่จะเขียน Preservation ก็ยังไม่ได้เขียน เพียงแต่เกิดความคิดในแนวทางเท่านั้น ก็ล่อกันซะอย่างนี้แล้ว เห็นมั้ยครับ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า เรื่องอย่างนี้ผมจะถามเอาไว้เลยครับว่า ใครจะยกย่องสรรเสริญทั้ง 5 พระหน่อ ที่ปลุกระดมกันอยู่อย่างนี้ก็เชิญเถอะครับ แต่ผมมีสิทธิ์เรียกร้องได้ว่า ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีชีวิตยืนยาวของประเทศไทยมาตั้งแต่คนจำนวนไม่เท่าไหร่ เดี๋ยวนี้ 63 ล้านคน บ้านเมืองก็มีชื่อเสียง ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยเป็นยังไง แต่ว่ามันมีไอ้แผลอยู่กลางใจพระนครอย่างนี้ มันใช้ได้เหรอครับ ผมจะถามซิ

ผมจะย้ำนะครับว่า เอาล่ะ ถ้ามันสวิปอย่างนี้ ทำมือปึ๊บได้ คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ทั้งหมดไปหมด ผมเหลือ 233 ผมเป็นฝ่ายค้าน แล้วผมตั้งใจประกาศเลย ผมจะเก็บไอ้ฝ่ายที่สอบไม่ได้ 5 คน ตั้งเป็นแก๊งเลย แล้วก็ระดมอยู่กลางถนน อย่างนี้ เอาอย่างเดียวกันอย่างนี้ ไหวมั้ยครับ คนที่ชอบผมก็มีนะ คนที่ไม่ชอบพรรคโน้นก็มี เอาล่ะ ผมจะเรียกระดมมา เอามั้ย แล้วบ้านเมืองมันอยู่ได้มั้ยครับอย่างนี้ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนครับ เคียดแค้นชิงชังไม่ชอบ เขามาขึ้นศาลแล้ว แต่ผมต้องถือว่าไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ แต่ผมมาทำหน้าที่ของผม ผมเข้าตามตรอกออกตามประตู จะมาคาดคั้นมาเค้นยังไง ไม่มีทางหรอกครับ

**หยันฝ่ายค้านซักฟอก

เอาล่ะ วันจันทร์ผมก็จะพูดกับวุฒิสมาชิก วันอังคาร วันพุธ ผมจะพูดกับทางฝ่ายค้าน วันพฤหัสฯ วันศุกร์ผมก็จะพูดงบประมาณ ผมก็ทำหน้าที่ของผม ก็เวลามันมีเท่านี้ก็ถูกต้อง ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะมาพูดจางอแงอะไรอย่างนั้น เอ้า ที่คาดคั้นให้ผมเปิด พอผมเปิดแล้วมาว่าผมอีก เอ๊ะ ตกลงเอายังไงล่ะครับ ผมบอกผมไม่พร้อมเพราะเวลามันน้อย ก็ขอว่าจะไม่เปิด โอ๊ย ว่ากล่าวอย่างโน้นอย่างนี้ จะต้องบรรจุ จะต้องอะไร อ้าว พอบรรจุเสร็จเรียบร้อย พอคุณชัยบรรจุ ผมก็บอกเอาเลย เอา ตัดสินใจให้ ประชุม ครม.ให้เลิกเร็วหน่อย แล้วก็ไปอยู่สภา วันครึ่ง อะไรมันจะอะไรกันนักหนาล่ะครับ 4 เดือนเนี่ย ถ้าผมอยู่มา 4 ปีแล้วจะถลกหนังเอาให้หมด เอาซัก 7 วัน แบบสมัยประชาธิปัตย์ล่อแต่ก่อน เอาสิครับ ไอ้นี่อยู่มา 4 เดือนครับ สัญญายังไม่ได้เซ็นอะไรสักฉบับ งานการยังอยู่ในระหว่าง โอ้โห ต้องอธิบายให้ฟังตรงนั้นอย่างนั้น ยังทั้งนั้นล่ะครับ แล้วจะเอาอะไรมาด่ากันให้นักหนา ผมอยากจะรู้ จะเชี่ยวชาญการขุด เอาสิ ผมจะยอมให้ขุด เอามาด่า เอาซะวันครึ่ง พอสมควรแก่เหตุ ต่อไปก็งบประมาณ ไม่มีงบประมาณบ้านเมืองบริหารไม่ได้ นั่นล่ะครับสำคัญ ชัดเจนนะครับ

เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ ผมต้องการพูดเพียงเท่านี้ ให้รู้นะครับว่าการเปิดสภา วันจันทร์ผมก็เปิดให้วุฒิฯ วันอังคาร วันพุธ ผมเปิดให้พรรคการเมืองฝ่ายค้าน แล้วก็นักการเมืองก็ เอาเถอะ จะล่อกันยังไงก็สุดแท้แต่ จะเล่นผมพรรคเดียว อีก 5 พรรคเก็บไว้เพื่อจะให้เขาไปทางนั้น ได้ครับ แต่พรรคการเมืองทั้ง 5 เขาก็รู้ครับว่า เขาอยู่กับใครมันเป็นยังไง อยู่กับนายกฯ คนนี้มันเค็มหรือมันจืด รู้ดีครับ นั่งกันมา 4 เดือนรู้รสชาติว่าเป็นคนเค็มหรือเป็นคนจืด เป็นคนร้ายกาจหรือเป็นคนที่คบได้ ผมถึงไม่เดือดร้อนไงครับ อยู่กันมา 6 พรรคเนี่ย อยู่กันมาเรียบร้อยดี ก็เอาสิครับ ลองดู วันพุธ วันอะไร เอาเลย ล่อกันให้ช้ำเลย แล้วดูซิ 5 พรรคเขาเปลี่ยนใจมั้ย เปลี่ยนใจยังไงแล้ว ผมบอกไว้ล่วงหน้าเลย ถ้าคุณทำอย่างนั้นสำเร็จเรียบร้อย คุณตั้งนายกฯ ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ล่ะก็ จะมีไอ้ 5 คนที่สอบไม่ได้ อยู่ตามถนนเหมือนกันเลย ล่อมันทุกวันเลย หาเรื่องลากขึ้นมาเลย ไอ้โน่นไอ้นี่ ล่อมันทุกวัน ทำอย่างเดียวกัน แล้วบ้านเมืองอยู่ได้มั้ยครับ ผมจะถาม เอาหน้าไว้ที่ไหนครับ เท่านั้นล่ะครับ ผมไม่พูดอะไรเยอะ วันนี้เอาเท่านี้พอสมควร

**พล่าม “ปุ๋ยอินทรีย์”

ผมอยากให้ดูนี่ดีกว่าๆ นี่ลองดูนะครับ ช่วยกรุณาถ่ายตรงนั้นที (บอกตากล้อง) ผมจะไม่ลุกเดินไปล่ะ วันก่อนแหม คนก็เขาพูดจาหัวเราะเยาะ ผมลากเก้าอี้ไปลากเก้าอี้มา ผมลากของผมเอง ก็บอกทางช่างไม่ช่วยดูเลย จะต้องตัดภาพไปแช่ไว้ก่อน ให้ผมลากเก้าอี้ไปก่อน บอกไม่มีปัญหาหรอก ไม่มีอะไรเสียหาย ผมอยากจะพูดให้ฟังนะครับ ผมไปประชุม กอ.รมน. แล้วก็นายทหารเขาทำ นี่งานของทหารนะ นี่ดูตั้งแต่เริ่มต้นนะ จุดแดงๆ นี่ เขาเรียกว่า ปุ๋ยธรรม มีปุ๋ยเคมี มีปุ๋ยอินทรีย์ อันนี้ปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ปี 50 ที่เขาทำ ส่วนผสมที่เขาทำ เขาใช้แกลบที่ยังไม่ได้เผา เขาใช้มูลสัตว์ที่เอามารวมกัน เขามีจุลินทรีย์ที่ผสม ผมอ่านตัวเลขให้ฟังหน่อยนะ เขาใช้งบประมาณเพื่อโครงการนี้ นี่ทดลองนะ เขาใช้งบโครงการนี้ 2 ล้านบาท ใน 138 ชุมชน นี่งาน กอ.รมน.นะ 138 ชุมชน ได้ปุ๋ยหมัก อีเอ็ม 4,000 ตัน 2 ล้าน ได้ 4,000 ตัน มูลค่า 8 ล้าน เพราะว่ากิโลฯ ละ 2 บาท ปุ๋ยเคมีกิโลฯ ละ 25 ปุ๋ยนี่เขาทำกิโลฯ ละ 2 บาท เห็นมั้ยมันถูกกว่ากันเท่าไหร่ เสร็จแล้วทั้งหมด 4,000 ตัน เขาก็เอาไปปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ปุ๋ย 4,000 ตัน ไปปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ได้ข้าวมา 24 ล้านกิโลกรัม ไร่นึงได้ 600 กิโลกรัมต่อไร่นะ

ทีนี้ข้าวได้มูลค่า 360 ล้าน กิโลฯ ละ 15 บาท ข้าวเปลือกนะ ถ้าใช้ปุ๋ยเคมี 40,000 ไร่ ไร่ละ 600 คือ 24 ล้าน ต้องใช้เงิน 24 ล้าน เขาประหยัดเงินช่วยชาวนาได้ 22 ล้าน ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์มีประสิทธิภาพนี่นะ เวลานี้เกษตรได้ผลิตปุ๋ยอีเอ็ม 5,000 ตัน ชาวนา 50,000 ไร่ เขาทำกันที่อุบลฯ ผมไปฟังเขาคุยมาแล้ว ผมต้องให้ดู เวลาที่เขาผสมเขาใช้แกลบ 1 ส่วน รำ 1 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน เขาผสม ทำมูลสัตว์ใช้จุลินทรีย์ใส่ แล้วเขาก็ผสมใช้เครื่องจักรมาคลุกเคล้า นี่เขาทำใส่ได้ถุงอย่างนี้ แล้วเขาก็เริ่มใช้ เขาโปรยใส่ในข้าว ทีนี้พอเสร็จเรียบร้อย เขาได้ข้าวอย่างนี้ นา 1 ไร่ ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งกระสอบ 600 แต่จุลินทรีย์ 1 ไร่ 100 บาท ถูกกว่ากัน เห็นมั้ย

ทีนี้ดูมันสำปะหลัง นี่น่าตื่นเต้นนะ นี่ที่ขุดธรรมดา ที่ใช้ปุ๋ยธรรมดา ปุ๋ยเคมี มันสำปะหลังเคมีเฉลี่ยได้ 3 - 5 ตันต่อไร่ ปุ๋ยเคมี 3 ตันต่อไร่ มันสำปะหลัง เฉลี่ยได้ 3-5 ตันต่อไร่ แต่ว่าจุลินทรีย์ มัน 9 เดือน 17 ตันต่อไร่ เวลาเท่ากัน 3-5 ตันต่อไร่ ไอ้นี่ 17 ตันต่อไร่ เพราะฉะนั้นถ้าดู ในน้ำสิ่งแวดล้อมไม่เสียนะ ใส่ปุ๋ยเคมีในนา ปลา กบ มันไม่อยู่ แต่ว่าใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ ปลากลับมา กบกลับมา (ชี้ภาพ) นี่ผลไม้ ทุเรียน นี่ผลไม้ไล่ดู ตรงนี้มะละกอ นี่ขนุน นี่ยาง ทุกอย่างใช้ได้หม ทบทวนให้ฟังอย่างนี้นะครับว่า เมื่อเวลาที่ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งกระสอบ 600 แต่ปุ๋ยจุลินทรีย์ 100 บาท ถูกกว่ากัน

ทีนี้คุยให้ฟังอย่างนี้แล้วก็จะบอกว่า ถ้าหากว่ารัฐบาลใช้เงินไป 4,100 ล้าน ทำอะไรทราบมั้ยฮะ ไปชักชวนให้ราษฎรทั้งประเทศเลิกใช้ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยเคมีเลิกได้หมดมั้ยครับ เลิกไม่หมดหรอกครับ เขาเอาปุ๋ยเคมีส่วนหนึ่งมาผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์มันมาจากกากอ้อย จากน้ำตาล เขามีส่วนผสมนะแล้วเคมีผสมหน่อย ไม่ได้ใช้เงินเพื่อการอื่นนะ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรเชื่อว่าใช้ปุ๋ยอินทรีย์มันดีกว่า แม้มันจะเขียวช้ากว่าหน่อย นี่มาเจอปุ๋ยจุลินทรีย์ คนที่ทำนี่เป็นทหารนะ เขาอยู่ กอ.รมน. ส่วนหนึ่งของงาน กอ.รมน. ส่วนสุดท้ายเลยนะ คือเข้าไปช่วยราษฎรพัฒนา แล้วนี่ล่ะคืองานที่เขาเข้าไปพัฒนา ปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ปี 50 เขาดำเนินการได้ปุ๋ย 4,000 ตัน ปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ เห็นมั้ยครับ แล้วเวลาที่จริงๆ แล้วถ้าจะใช้เคมีต้องใช้ 24 ล้าน แต่ว่าถ้าใช้ปุ๋ยอินทรีย์ จุลินทรีย์เนี่ย 2 ล้านครับ ลงทุน 2 ล้านได้ปุ๋ย 4,000 ตัน มูลค่ากิโลฯ ละ 2บาท เสร็จเรียบร้อยแล้วปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ได้ข้าว 24 ล้านกิโลกรัม มีมูลค่า 360 ล้านบาท ใช้ปุ๋ยเคมีต้องใช้ 24 ล้านครับ กำลังนี้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ปี 51 เวลานี้เกษตรกรได้ปุ๋ยอีเอ็ม 5,000 ตัน ได้ 50,000 ไร่ ที่อุบลราชธานี กับศรีสะเกษ ผมจะตามไปดูเขา วันนี้เห็นปั๊บผมบอกขอยืมเลยทันที ยกมาเลย

วันนี้แม้จะต้องคุยเรื่องการเมืองมาค่อนทาง แต่ว่าคุยเรื่องนี้ให้ฟังว่า ไอ้นี่ล่ะครับงานที่รัฐบาลทำ งานที่รัฐบาลสนับสนุน แน่นอน หน่วยงาน กอ.รมน.เขาทำของเขามาก่อน แต่ผมต้องสนับสนุนให้มันแพร่ออกไปทั่วประเทศ มันไม่กลืนทั้งหมดหรอกครับ แต่ว่าถ้าพอเพียงแล้ว ลักษณะนี้ใช้ได้ เขาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ถัดไปก็อินทรีย์ แปลว่ามากกว่านี้หน่อย แพงกว่านี้หน่อย แต่ได้ประโยชน์ คือทำให้ดีๆ เราจะหลีกเลี่ยงเคมี ไม่หมดครับ เคมียังต้องมา ปุ๋ยเอ็นพีเค ยังต้องมาเป็นส่วนผสม นี่ล่ะครับคืองานที่รัฐบาลสนใจว่าไม่ต้องการเสียเงินให้มันแพงมากเกินเหตุ ก็เหมือนอะไรครับ ก็เหมือนที่เราทำเอทานอลได้สำเร็จ แต่ก่อนเอา 5 ใส่ไป เบนซิน 95 ต่อไปใส่ไป 10 เดี๋ยวนี้ใส่ 20 เบนซิน 80 แต่ในทางปฏิภาคกลับ เดี๋ยวนี้เราผลิตเอทานอลได้ อี 85 คือ เอทานอล 85 เบนซิน 15 กำลังปรับปรุงเรื่องรถอยู่ นี่ล่ะครับงานของรัฐบาลนี้ มันเกิดขึ้นตรงนี้พอดี ก็เอาล่ะเราดำเนินการ แปลว่ามีพืชทดแทน แล้วยังไง เลิกปลูกไร่ ปลูกข้าว มาปลูกอ้อย เปล่าครับ เลิกปลูกข้าวมาปลูกมัน มันเขาก็อยู่ส่วนมัน อ้อยก็อยู่ส่วนอ้อย แต่ว่าผลิตผลซึ่งมันเคยได้ไร่ละ 6 ตัน มันเป็นไร่ละ 10 เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไร่ละ 15 กำลังยืนยัน 15 แต่ว่าเขาปลูกกัน 20 นี่สบายๆ แล้ว อ้อยนะครับ

คุณเสนาะ เทียนทอง บอกที่บ้านปลูก 25 ตันต่อไร่ เราเพิ่มผลผลิตต่างหากล่ะครับ ปีนี้เราได้อ้อยมา 73 ล้านตันอ้อย น้ำตาลแค่ 23 เหลือ 50 ทำเอทานอล ต่อไปได้มากขึ้นอีกก็เอทานอล มันสำปะหลังเนี่ยนะ ระยอง 9 เนี่ย มันงาม มันมากมายก่ายกอง จนกระทั่งเราสามารถ 42 โรง จดทะเบียน 12 โรงดำเนินการแล้ว แล้วตกลงถ้าน้ำมันยังแพงบ้าเลือดอยู่ เขาก็ต้องจัดการ เขาต้องจัดการแน่นอน คือเรื่องระบบรถตกลงหมดแล้วครับ ต่อไปก็จะใช้น้ำมัน เคยซื้อเขา 100 ลิตร ก็ซื้อ 15 ลิตร เราผลิตได้เอง 85 นี่มันมหัศจรรย์ไหมล่ะครับ มหัศจรรย์ครับ แปลว่ารถยังมี รถยังวิ่งได้ แล้วเราปลูกพืชน้ำมัน ที่เรียกว่าพืช Energy ปลูกบนแผ่นดินของเราเอง บริษัทที่ประเทศบราซิลเขาใช้ 100% ครับ เขาใหญ่โตมโหฬาร เขาทำสำเร็จ รัฐมนตรีของเราเพิ่งไปบราซิลเพิ่งกลับมา เพื่อจะดูว่าอะไรยังไง เรื่องแก๊สเป็นยังไง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะบอกให้ฟังนะครับ เรื่องแก๊สเขาคำนวณแล้วจะใช้ได้ 26 ปี รถยนต์ รถอะไร 26 ปี เร่งการเติมเท่านั้นล่ะครับ ต่อไปจะต้องเติมได้เร็ว จะต้องเติมได้กี่ปั๊ม นี่คือการจะต้องแก้ไข

วันจันทร์นี้รัฐมนตรีจะไปเซ็นสัญญาที่พม่า เพราะอะไรครับ ตั้งนมนานกาเล ก็ไม่ตกลง ก็ผมไปเยี่ยมนั่นล่ะครับ พูดจากัน หลังจากนั้นปั๊บ เราจัดการช่วยเหลือ เขาจัดการขอเชิญ เซ็นสัญญาซื้อแก๊ส แต่ก่อนเราใช้เยตากุน เยดานา 2 อัน เดี๋ยวนี้เป็นอันที่ 3 เอ็ม 9 เขาเชิญไปเซ็นสัญญา แปลว่าเราจะมีแก๊สใช้จากอ่าวของเพื่อนบ้าน เป็นรีเสิร์ฟของเพื่อนบ้านนะครับ เขาก็ช่วยเรา กำลังนี้โรงไฟฟ้าราชบุรีก็ใช้จากที่นั่น เดี๋ยวนี้จะเอามาจะใช้อะไรๆ ก็เอ็ม 9 เซ็นสัญญา วันจันทร์นี้เซ็นสัญญา ที่ลาว สปป.ลาว เขื่อนน้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 น้ำเทิน 3 ก็ทำไฟ ร้อยหนึ่งก็ 85 ลาวใช้ 15 ไทยใช้ 85 ลาวใช้ 10 ไทยใช้ 90 นั่นน่ะเพื่อนบ้านครับ นี่คือเพื่อนบ้านนะ แล้วกัมพูชาเขาก็เพื่อนบ้าน แล้วก็ยังไงครับ คือที่จะปลุกระดมเอาเรื่องเอาราวกันน่ะ ต้องการอะไรครับ ต้องการอะไร

**ไขสือผลประโยชน์ในเขมร

กับเพื่อนบ้านนี่รักษาไมตรี เราเสียดินแดนอะไรไปครับ เสียไปแล้ว 45 ปีครับ เขาจะเอาที่มีขอบเขต เราบอกไม่ได้ต้องเอาเฉพาะตัว เขาเอาเฉพาะตัวไปแล้ว ของๆ เขาน่ะฮะ ก็พูดซะให้ชัดเจน ไม่มีเสียดินแดนไหนสักกระเบียดนิ้วเดียว ไม่ได้อะไรต่ออะไรเลย แต่จะเอากันให้ได้ เอาไปผูกเอาไปโยง ให้คนที่เกิดไม่ทัน 45 ปี เข้าใจว่าเราเสียดินแดน ผมย้ำนะครับว่ามันดินแดนที่มันเสียไปแล้ว 45 ปีครับ ปักธงเขามาแล้ว 45 ปี ไม่เคยมีใครโผล่หน้าไปท้วง อ้างว่ารีเสิร์ฟไว้ 20 วันหลังจากนั้น แล้วไง 45 ปีทำอะไร เสร็จแล้วเราทำให้สงบเรียบร้อยได้ ตกลงเรียบร้อยได้ แล้วแทนที่จะได้รับคำชมเชย กลับจะเอาเรื่องเอาราว เอาไปโยงใย จะเอาไปโยงใยกับอดีตนายกฯ แล้วยังไง แล้วมันแลกอะไร มันเปลี่ยนอะไรยังไงเหรอครับ

ก็เอาล่ะครับ จะถล่มทลายกันก็วันอังคาร บ่ายโมงครึ่ง เชิญเลย จะเอายังไงก็ รถเมล์จะถล่มยังไงก็มาเถอะ ผมเล่าให้ประชาชนในบ้านเมืองฟังซะก่อนว่าเป็นยังไง เขาพระวิหารผมเล่าให้ฟังซะก่อนเป็นยังไง การเมืองผมอธิบายให้ฟังเลยว่าจะมีแก๊ง 5 คน ถล่มอยู่อย่างนี้ล่ะก็ ถ้ามันเปลี่ยนขั้วเมื่อไหร่ ผมก็จะตั้งแก๊ง 5 คน มาเอาอย่างนี้บ้าง แล้วบ้านเมืองเป็นยังไงครับ ลองคิดดู แล้วผมจะดูซิว่าสื่อสารมวลชนจะอยู่ข้างไหน หรือว่าพาดหัวด่าไอ้แก๊ง 5 คน ที่มันเกิดใหม่ขึ้นทุกวัน

เดี๋ยวตอบคำถามหน่อยวันนี้ แหม

คำถาม : อ่อ นายกฯ สมควรให้นักวิชาการพูดเรื่องเขาพระวิหาร อธิบายเสริม เพราะประชาชนฟังพันธมิตรฯ มาก นักวิชาการพูดมีน้ำหนักกว่า

- นักวิชาการจะพูดมีน้ำหนักยังไงล่ะก็ ผมนี่ล่ะครับรู้เรื่อง ถ้าฟังคนอย่างผมพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องฟังใครแล้วครับ มันไม่มีหลักวิชาการอะไรยังไงเลย แม่ทัพนายกองมาออก อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มาออก แม่ทัพบกมาออก เจ้ากรมแผนที่ฯ มาออก ยังไม่ฟัง ยังไม่เชื่อเลยครับเนี่ย ผมก็พูดให้ฟังชัดเจนนี่ล่ะครับ ไม่ต้องนักวิชาการที่ไหนล่ะครับ ผมนี่ล่ะครับ ผมรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย

คำถาม : เรื่องเขาพระวิหาร ให้ลงเรื่องที่แท้จริง ประวัติในหนังสือพิมพ์

- โอ๊ย เขาไม่ลงหรอกครับหนังสือพิมพ์น่ะ

คำถาม : ขอให้ท่านนายกฯ จัดแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เรื่องเขาพระวิหาร แถลงร่วมกับ ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร รัฐมนตรีฯ

- เขาทำไปแล้วครับแต่ไม่มีสนใจ นี่ล่ะครับ คนเนี้ย ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร รัฐมนตรีต่างประเทศ เขาออกโทรทัศน์ไปแล้ว ก็ยังเอาไปปลุกระดมด่ากันว่าคนไทยเสียดินแดน ถามสิครับว่ามันดินแดนที่มันเสียเขาไปแล้ว 45 ปี เขาปักธงมา 45 ปี ไม่เคยมีใครมีเรื่อง เขาจะขอเอาไปขึ้นทะเบียน เราบอกขึ้นบริเวณตรงนั้นทับซ้อนไม่ได้ เราท้วง ต้องเฉพาะตึก เขาเอาไปขึ้นเฉพาะตึกของเขาน่ะครับ เท่านี้ไม่เข้าใจเรื่องไม่ทราบจะทำยังไงแล้วนะครับ

คำถาม : อ๋อ อยากให้รายการนี้มีคอลเซ็นเตอร์

- แหม เรียกกันซะภาษาฝรั่งนะเนี่ย เดี๋ยวนี้ ศูนย์โทรศัพท์น่ะเรียกไม่ได้นะ 24 ชั่วโมง

คำถาม : อยากให้สื่อความประชาชนทั่วประเทศคิดยังไง ให้ท่านพูดไปข้างหน้า

- อ๋อ อาทิตย์ละหนนี่ละครับ จะได้มีคนฟังเยอะดี วันนี้เขาบอกว่า อ.สุขุม บอกเมื่อเช้าว่า เนี่ยคนฟังเยอะ ก็เยอะล่ะครับ ผมก็มีสารคดีเรื่องโน้นเรื่องนี้ วันนี้สารคดีก็ออกได้แต่แค่เรื่องรถเมล์ เรื่องมันสำปะหลัง เรื่องอ้อย เรื่องปุ๋ย

คำถาม : ทำไมไม่มีใครพูดถึงนักเรียนจะเรียนยังไง เพราะเสียงดังมากจากพันธมิตรฯ

- ก็ลองดูวันจันทร์ก็แล้วกันครับว่าเขาจะทนกันได้ยังไง แค่ไหน ก็ต้องช่วยกันดูสิครับ ก็ปล่อยกันเหลือเกินนี่ครับ ปล่อยกันเหลือเกิน ยกย่องกันเหลือเกิน ไม่รู้ประชาธิปไตยแขนงไหนยังไง ผมเรียนมาผมไม่เคยเจอ ยกย่องกันเหลือเกิน

คำถาม : ประชาชนของรัฐบาลเยอะ อยากให้แสดงพลังยังไง

- ไม่ต้องล่ะครับ กรุณาอยู่ในที่ตั้ง กรุณาไม่ต้องแสดงล่ะครับ

คำถาม : หัวจ่ายแก๊สติดมิเตอร์ ขนส่งแก๊ส แล้ววิ่งบริการจอดตามจุด

- เขาจะทำทุกวิถีทางให้มันเติมมาก เติมเร็ว กำลังนี้นะครับ ต้องยืนยันอยู่ว่าแก๊สทั่วไปจะใช้ได้ 26 ปี นี่เซ็นสัญญาเอ็ม 9 กับพม่า อาจจะได้มากกว่า 26 ปี แล้วกำลังจะเจรจากับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็จะเอาแก๊ส ใครจะดูถูกดูแคลนรัสเซีย คุณปูตินเขาชวนผมว่าให้ไปพบ ผมก็เดือนตุลาคม นัดกัน จะไปคุย ก็กำลังจะดูเรื่องแทงก์ฟาร์มแก๊ส เขายินดีสนับสนุนครับ รวมทั้งน้ำมันดีเซลราคาถูก กำลังเจรจาความกันอยู่ ผมก็ทำหน้าที่ครับ เขาคงเห็นว่าเขาคงพอคบได้ พอนั่นได้ เขาก็ติดต่อมา

คำถาม : ควรมีมาตรการและบทลงโทษรถบรรทุกน้ำหนักเกิน

- อ๋อ ครับๆๆๆ เรื่องนี้เขามีมาตรการอยู่

คำถาม : ทุนการศึกษาสมัย ดร.ทักษิณ อยากให้มีอีก

- อ๋อ เขามี กำลังดำเนินการครับเรื่องนี้

คำถาม : อยากจะทราบเรื่องถังแก๊สเอ็นจีวี บอกลดราคา 50% จริงมั้ย ลดเมื่อไหร่ตอบด้วย

- เขาต้องการจะให้ใช้ เขาจะต้องพยายามทุกวิถีทาง แต่บัดนี้นะครับ กำลังพูดกับทาง คือถังของจีน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าของจีนก็ดีเท่ากัน ราคาถูกกว่ากันครึ่งหนึ่ง ก็จะเอาของจีน ของอิตาลี อะไร ผมจำชื่อ ...ฮาร์ดี ลันต๊อก อะไรของอิตาลี นั่นเขาเจ๋งนะ แต่ว่าจีนเขาก็ว่าของเขาดีนะ เขาต้องหาทางปรับปรุง

คำถาม : ให้กำลังใจนายกฯ อ๋อ อย่าไปหลงกลหลงทางฝ่ายยั่วยุให้ตบะแตก ไม่ต้องไปโกรธพวกเขา

- ไม่โกรธหรอกครับ แล้วขอประกาศซะด้วย โครงการต่อไปก็จะส่งสื่อสารมวลชนมารุมล้อม แล้วจะถามยั่วยุให้ผมตบะแตก บอกไว้ล่วงหน้าเลยครับ ไม่แตกล่ะฮะ เพราะว่าปกตินั้นก็ไม่เปิดโอกาสให้ยั่วยุอยู่แล้ว ผมจะทำเรื่องนี้เพื่อบ้านเมืองของเรา ผมจะพยายามอดกลั้นทั้งหลาย เพราะผมก็เป็นคนธรรมดาครับ เป็นคนเหมือนกันล่ะครับ ปลุกระดมปลุกได้ คุณก็คน คุณก็กินข้าว ผมก็คน ผมก็กินข้าว ดูซิครับว่าใครจะอึดกว่ากันยังไง ผมแน่ใจว่าผมทำสิ่งที่ถูกต้อง

แล้วบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายท่านใช้วิจารณญาณของท่านให้ดีเถอะครับ ว่ามันควรจะสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมายหรือไม่ แล้วควรจะพูดถึงคนที่ทำถูกกฎหมายในแง่ทางที่ดีบ้างหรือไม่ ผมไม่ได้ดีวิเศษกว่าคนอื่นหรอกครับ แต่ผมมีความตั้งใจดีที่จะทำงานให้บ้านเมืองนี้ ผมทำงานทุกอย่าง ผมจะทำให้ ผมบอกแล้วผมทำให้ ผมไม่ทำเอา ผมเดินทางมาจนสุดท้ายปลายชีวิตผมแล้ว แต่ว่าเขาห้ามพูดว่าจะไปเมื่อไหร่ ยังไง แต่ผมจะอยู่ ถ้าอยู่ได้ 4 ปี ผมทำให้ 4 ปี โครงการทั้งหลายทั้งปวง ผมจะเริ่มต้นขึ้นให้ได้เลยก็แล้วกันครับ

2-3 วันผมไปประเทศจีน แล้วจะเจรจาความ เจรจาความกับท่านประธานาธิบดีจีน เรื่องอาวุธยุทธภัณฑ์ ที่ทหารฝากไป และผมจะเจรจากับท่านนายกฯ เรื่องการช่วยเหลือ เรื่องการขุด โครงการต่างๆ เรื่องทั้งเงินกู้ เรื่องทั้งโครงการเทคนิค เริ่มต้นที่สุดก็คือว่าขุดลอกคูคลองหนองบึงทั้งหมดด้วยเครื่องมือทันสมัย จากส่วนกลาง ซึ่งไม่ไปหวังพึ่งกับใครอีกแล้ว ฟังดูแล้วไม่มีใครรับผิดชอบเลยครับ พูดไป วนไปวนมา เชื่อมั้ยครับกรมชลประทาน เรือขุดตั้งแต่สมัยซื้อมา 70-80 ปีแล้ว ไม่เคยซื้ออีกเลย บัดนี้จะเอาความทันสมัย จะขุดหมดเลยครับ ลึก 1 ลึก 2 จะเอาให้ลึกให้มากกว่านั้น อีกคำถามหนึ่งสุดท้าย

คำถาม : อ่อ เป็นนักเรียน อยู่โรงเรียนราชวินิตมัธยม วันจันทร์โรงเรียนจะเปิด อยากให้นายกฯ ช่วยจัดการม็อบพันธมิตรฯ อยากให้เรื่องความปลอดภัยด้วย

- กรุณาเถอะครับ ผมจะหลีกเลี่ยงที่จะไปปะทะกับพันธมิตรฯ บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ให้หนู เขาจะใช้วิจารณญาณของเขา ว่าเขาควรจะมีบทความ จะพาดหัวเตือนม็อบยังไง อะไรบ้าง เดือดร้อนไปหมดล่ะครับ เดือดร้อนไปทั่ว แต่รัฐบาลไม่เดือดร้อนหรอกครับ

ผมยืนยันตรงนี้นะครับว่า วันจันทร์ผมจะเข้าไปนั่งทำงานที่ทำเนียบฯ เพราะยังมีทางเข้า-ออกอยู่ ไม่มีปัญหา วันอังคารก็ประชุม ครม.ในทำเนียบฯ บ้านเมืองยังดำเนินการตามปรกติเหมือนเดิมทุกประการ ใครจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ยังไง ผมจะปล่อยให้แสดงตามสมควรแก่เหตุ

ถึงเวลาถ้าประชาชนทนไม่ได้ยังไงก็พยักหน้าให้สัญญาณผมแล้วกัน ผมจะทำหน้าที่ เวลานี้ต้องใช้ตรงนี้แล้วครับ ไม่งั้นมันไม่ได้หรอกครับ เพราะเวลานี้มีคนสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมาย แล้วเหยียบย่ำคนที่ทำถูกกฎหมาย น่าเสียใจมั้ยครับ

แต่ว่าผมทนได้ ผมจะอดทนเพื่อบ้านเมืองของเรา พูดให้มันโก้ไปหน่อย ที่พูดได้เพราะอะไร บังเอิญผมเป็นนายกรัฐมนตรีครับ บังเอิญเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และบังเอิญได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด บริหารมา 4 เดือนนี่ล่ะครับ ไหวครับ

ผมคิดว่าผมเอาได้ ผมเอาอยู่ เพียงแต่ว่า เพียงแต่ว่า ขอให้ตัวบทกฎหมายมันยังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบ้านเมืองนี้ ขอให้บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายใช้วิจารณญาณว่าคนที่ทำผิดกฎหมายยังจะยกย่องสรรเสริญกันต่อไป ขณะที่คนมีหน้าที่ทำตามกฎหมายถูกเหยียบย่ำ ใครเป็นเจ้าของประเทศช่วยดูด้วยนะฮะ เวลาเกินมานิดหนึ่งฮะ วันอาทิตย์หน้าพบกันใหม่ วันนี้ลาก่อน สวัสดีครับ



กำลังโหลดความคิดเห็น