พันธมิตรฯ ทั่วประเทศหลั่งไหลรวมตัวหน้ากระทรวงบัวแก้ว ขับไล่ “นพดล” เหตุหมกเม็ดไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ “เขาพระวิหาร” ให้ชาวไทยได้รับรู้ข้อเท็จจริง ประกาศกร้าวหมดเวลาของนักการเมืองชั่วช้าสามานย์แล้ว
วันนี้ (18 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งจากเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า จากกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ มีมติเดินทางไปกระทรวงต่างประเทศในเวลา 10.00 น. เพื่อขับไล่นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ที่ไม่ยอมเปิดเผยแผนที่ทับซ้อนเขาพระวิหารให้กับประชาชนคนไทยได้รับรู้ หลังจากแอบตกลงร่วมกับประเทศกัมพูชาไปก่อนหน้านี้นั้น เพียงพอที่จะทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ที่เคลือบแคลงใจ และหวงแหนแผ่นดินไทย ต่างหลั่งไหลเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการแสดงพลังบริสุทธิ์เรียกร้องให้นายนพดล เปิดเผยข้อเท็จจริงโดยด่วน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบต่อหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
เมื่อเวลาประมาณ 08.10 น. น.ส.อัญชลี ไพรีรัก และ น.ส.กมลพร วรกุล ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ดำเนินรายการ “ยามเช้าที่สะพานมัฆวาน” โดย น.ส.อัญชลี กล่าวถึงกำหนดการขับไล่ รมว.ต่างประเทศว่า ถ้าธรรมะพ่ายแพอธรรมในวันนี้ ประเทศไทยก็อยู่กันไม่ได้แล้ว ดังนั้นวันนี้เราจึงร่วมกันไปสู้ให้เห็นดำเห็นแดง เพื่อที่จะบอกกับนักการเมืองชั่วช้าสามานย์ในทำเนียบรัฐบาล และในรัฐสภาว่า พอกันที
“เราจะยุติการโกงบ้านกินเมืองในวันนี้ด้วยมือของเราเอง และเริ่มต้นเปิดศักราชใหม่เปิดจุดเปลี่ยนของประเทศไทย วันนี้เราไม่ได้มาเพื่อโค่นระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียว เราเดินผ่านจุดนั้นไปแล้ว แต่เรามาเพื่อสร้างสังคมใหม่ให้กับประเทศไทย มีคนบอกว่าพันธมิตรฯ เป้าหมายแกว่ง แต่เราแน่วแน่ที่จะแก้ไขในสิ่งผิด และกำลังจะถึงโค้งสุดท้ายแล้ว และถ้าใครไม่กล้า วางดาบกลางสนามรบได้เลย ไม่ว่ากัน ส่วนคนที่กล้า คนที่สู้ ไม่กลัว ขอให้เดินหน้าต่อไป เพื่อเป็นนักรบของประชาชน ซึ่งเป็นกองทัพประชาชนที่แท้จริง แล้วเราจะชนะ เพราะสิ่งที่จะทำให้กองทัพพ่ายแพ้ก็ คือ ความกลัว” น.ส.อัญชลี กล่าว
น.ส.อัญชลี กล่าวอีกว่า อย่าว่าแต่ดินแดนเพียงตารางนิ้วเดียว แค่ก้อนหิน หรือผงธุลี ก็อย่าหมายว่าจะเอาไปยกให้กับใครง่ายๆ เพื่อแลกกับเกาะกง ส่วนกระทรวงการต่างประเทศที่เหล่าพี่น้องพันธมิตรฯ จะเดินทางไปนั้น อยู่ติดกับโรงพยาบาลรามาฯ ถ.ศรีอยุธยา ใกล้กับโรงแรมสยามซิตี้ และใกล้กับกระทรวงอุตสาหกรรม ฉะนั้นวันนี้นายนพดล ต้องเจอดีอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ประชาชนที่จะร่วมชุมนุมที่กระทรวงการต่างประเทศ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีพญาไท ต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 20 บาท
ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทยอยนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณประตูทางเข้าออกบริเวณถนนศรีอยุธยา และถนนพระราม 6 ตั้งแต่ช่วงเช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนได้ทยอยเดินทางไปรวมตัวกันเพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่ด้านหน้ากระทรวงการต่างประเทศตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.เป็นต้นมา และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเวลาประมาณ 10.00 น. จำนวนผู้ชุมนุมได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8 พันคน
พร้อมกันนี้ได้มีการเปิดเวทีย่อยปราศรัยที่ด้านหน้ากระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายอมร อมรรัตนานนท์ นางสาวอัญชลี ไพรีรัก นายวีระ สมความคิด นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ นางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ นายอธิวัฒน์ บุญชาติ ขึ้นเวทีปราศรัย ทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเขมร สลับกันไป โดยได้มีการทวงถามสำนึกความเป็นคนไทยของนายนพดล ปัทมะ และเรียกร้องให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเลิกก้มหัวใหก้บรัฐมนตรีว่าการคนนี้ หลังจากนั้นได้เปิดให้ผู้ร่วมชุมนุมที่พูดภาษาต่างประเทศภาษาอื่นๆ ขึ้นมาปราศรัย เช่น ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส มาเลเซีย กวางตุ้ง จีนกลาง รัสเซีย สเปน เป็นต้น
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกจากพันธมิตรฯ ถึงนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง ขอให้กำลังใจกระทรวงการต่างประเทศยืนหยัดในการพิทักษ์รักษาศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ (พันธมิตรฯ ยื่น จม.เปิดผนึก หนุน ขรก.บัวแก้วปลดแอก “ทาสแม้ว”) ตามด้วยการปราศรัยของนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในประเด็นเขาพระวิหาร โดยเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยข้อมูลการทำข้อตกลงเรื่องเขตแดนเขาพระวิหารกับกัมพูชา ซึ่งหากนายนพดลรักชาติจริง ต้องเปิดเผยข้อมูล ไม่เช่นนั้นจะถือว่านายนพดลทำเพื่อประโยชน์ของเจ้านายตัวเองที่กำลังเข้าไปลงทุนในธุรกิจหลายประเภทในกัมพูชา จนเวลาประมาณ 11.50 น. ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ได้ตั้งแถวเพื่อเดินกลับสะพานมัฆวานฯ
มีรายงานว่า ระหว่างที่พันธมิตรฯ มาชุมนุมขับไล่ที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศนั้น นายนพดลซึ่งมีกำหนดการที่จะพบปะหารือกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ที่กระทรวงในเวลา 11.00 น. ได้เลื่อนการนัดหมายออกไปและเลิกภารกิจในกระทรวงวันนี้ทั้งหมด ส่วนเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจำนวนมากที่ออกมายืนดูการชุมนุมและให้กำลังใจพันธมิตรฯ