“ไทกร”แฉวีซีดีซื้อเสียงขอนแก่น - กกต.พิลึกบอกจ่ายปันผลสหกรณ์

“ไทกร” เปิดวีซีดีซื้อเสียงโจ๋งครึ่มที่ขอนแก่น เขตเลือกตั้ง “สุวิทย์” พร้อมปูดพิรุธทีมสอบสวน “สมชัย” จ่อสรุปเป็นเพียงจ่ายเงินปันผลสหกรณ์ ก่อนทวงถาม “ลูกสาวสดศรี” มีเหตุผลอะไรถึงไปอยู่บ้านที่เคยมีนักการเมือง พปช.ไปใช้บริการที่ นครพนม

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายไทกร พลสุวรรณ ปราศรัย

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วันนี้ (13 มิ.ย.) นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชิงสะพานมัฆวานฯ ว่า ชาวขอนแก่นจะไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองอันเป็นทรราชย์ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อีกต่อไป โดยขณะนี้มีนักการเมืองคนหนึ่ง วิ่งล็อบบี้โดยการเข้าไปหานายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เพราะกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี

“วันนี้ผมมีวีซีดี ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีการซื้อเสียงที่เราแอบจับได้ โดยคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือ คนที่ขึ้นราคาน้ำตาลกิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในวงจรอุบาทว์" นายไทกร กล่าว

สำหรับวีซีดีดังกล่าว เป็นการตระเวนจ่ายเงินในหมู่บ้านโดยกลุ่มหัวคะแนน และระบุชัดให้เลือกหมายเลข 1, 2, 3 ซึ่งหมายเลข 1 คือนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ปรากฏว่าในขณะนี้ ทีมสอบสวนของ กกต.ภายใต้การกำกับของนายสมชัย กำลังจะสรุปว่า การกระทำดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในวีซีดีนั้น เป็นเพียงการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มสหกรณ์

นายไทกร กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนแรกที่จับได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกสังกัดของพรรคเล็กในการรับจ้างพรรคไทยรักไทยลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อ 2549 จนกระทั่งหาพยาน และมอบให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการฟ้องร้อง จนมีการยุบพรรคไทยรักไทยในที่สุด แล้วสิ่งที่ตนได้ก็คือ ถูกทุบรถ และถูกขู่ฆ่า แต่การที่ยังยืนอยู่ที่นี่ เพราะเรายืนอยู่บนความถูกต้อง

“การเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองนั้น ทำมาตั้งแต่สมัย 3 หนา 5 ห่วง แล้ว ง่ายนิดเดียว เพราะเพียงแค่พิมพ์รายชื่อของคนที่เราต้องที่จะให้เป็นสมาชิกลงในแผ่นซีดี แล้วแอบเอาเข้าไปใส่ในคอมพิวเตอร์หลักของ กกต. ดังนั้นสิ่งที่บอกว่าปลอมเอกสารที่นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือฝีมือของ กกต.ที่คุมชั้น 21 ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกต.ฝ่ายดูแลทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งก็คือ นางสดศรี”นายไทกร กล่าว

นายไทกร กล่าวต่อว่า ตนจึงมีคำถามไปถึงนางสดศรี สัตยธรรม ว่า ลูกสาวของท่านได้ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นครพนม ซึ่งมีข้อสงสัยว่า มีบ้านทาวเฮาส์ 2 ห้อง เลขที่ 792/1/2 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถ.สุนทรวิจิตร ติดกับซอยพิทักษ์ธรรม มองเห็นเมืองท่าแขกได้ ราคาสูง บ้านหลังนี้ คนทั่วไปทราบดีว่าเป็นคุณหญิงคนหนึ่ง ซึ่งคนที่เข้าไปใช้บริการเป็นคนของพรรคพลังประชาชนทั้งสิ้น โดยบ้านหลังดังกล่าวติดราคาขายไว้ 8 ล้านบาท ทำไมจู่ๆ ลูกสาวของคุณสดศรี เข้าไปอยู่ได้อย่างไร ถามว่าเข้าไปอยู่โดยเช่าเขา ซื้อมา หรือเขาให้อยู่ฟรีๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องตอบคำถาม เพราะไปมีสัมพันธ์กับ ส.ส.ได้อย่างไร

นายไทกร ยังได้ฝากคำถามไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ณ ห้องประชุมในจังหวัดแห่งหนึ่งของภาคอีสานตอนกลาง โดยขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม กำลังแจ้งให้ผู้ว่าฯ หาทางปิดเอเอสทีวี และฟ้องเอาผิดพวกพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ว่าฯ ส่ายหัวไปมา โดยบอกว่า “มันบ้าอำนาจ” และมีรองผู้ว่าฯ อีกคน บอกว่า “ไอ้นี่มันเป็ดง่อย” จึงขอบอกว่าให้ ร.ต.อ.เฉลิม หาประเทศแถบแอฟริกาที่มีสงครามกลางเมืองเอาไว้ เพราะไอ้ปื๊ดจะได้ยิงคนโดยสะดวก ที่สำคัญ คือ อีกไม่นาน ร.ต.อ.เฉลิม และครอบครัว จะไม่มีแผ่นดินอยู่อีกต่อไป