“ประพันธ์-พิเชษฐ” จี้ กกต.สอบการปลอมเอกสารให้ข้อเท็จจริงกระจ่างโดยเร็ว เตือน “สดศรี” ปรับเปลี่ยนท่าที แยกแยะให้ออกอย่ายึดองค์กรเป็นของตัวเอง จวกความคิดใกล้เคียง “หมัก” เข้าไปทุกที ย้ำหลักฐานชัดเจน “สมชัย” พูดเองเรื่องลายเซ็น พร้อมแฉ “ทนายแม้ว” อักษรนำหน้า “ธ” เป็นคนนำเงิน 2 ล้านไปวางที่ศาล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สภาท่าพระอาทิตย์"
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์ ภาคพิเศษ” ถึงกรณที่ศาลอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับ นายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัและปรายปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) และอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า เรื่องนี้เป็นคดีตัวอย่างคดีหนึ่งที่ประชาชนสามารถใช้เป็นบรรทัดฐานได้ว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีขบวนการกลั่นแกล้ง เจตนาต้องการโจมตีทำลายดิสเครดิตกระบวนการยุติธรรม เนื่องศาลกำลังพิจารณาเรื่องนายสุนัยขอโอนย้ายกลับศาลยุติธรรม ถ้านายสุนัยถูกจับจะมีมลทิน กลับศาลลำบาก จึงมีการออกหมายจับให้ตกเป็นผู้ต้องหา เพราะระบอบทักษิณไม่ต้องการให้คนที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต กล้าหาญแบบนี้ไปเป็นตุลาการผู้พิพากษา เนื่องจากกลัวจะตัดสินคดีของตัวเองมีความผิดต้องติดคุก
“คนเป็นอดีตอธิบดี และอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกายังโดนกลั่นแกล้งถึงขนาดนี้ และถ้าเป็นประชาชนธรรมดาจะโดนขนาดไหน ดีนะที่ศาลอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับ สุดท้าย ตร.สภอ.วังน้อย จังหวัดอยุธยา ตกเป็นจำเลย เพราะยอมเป็นเครื่องมือรับใช้นักการเมืองและระบอบทักษิณ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบกลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหาย นี่แหละรัฐตำรวจในระบอบทักษิณ”
นายประพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีกระบวนการสร้างหลักฐานเท็จในคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ถูกใบแดงโดยมีส่งฟ้องทุจริตการเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงรายว่า ระบอบทักษิณเลวสุดๆ กล้าทำทุกอย่าง ขอเพียงได้ชนะได้อำนาจ การปลอมแปลงทะเบียนเลือกตั้งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในครั้งที่มีการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร จนเป็นที่มาของการยุบพรรคไทยรักไทยที่ผ่านมา มาในครั้งนี้ กกต. โดยนายสมชัย จึงประเสริฐ ก็ยอมรับแล้วว่ามีตำรวจสารภาพว่าได้เซ็นชื่อแทนนายตำรวจอีกคนหนึ่งจริง ตนขอให้ กกต.เร่งสอบสวนคดีนี้ให้กระจ่างโดยเร็วที่สุดว่ามีขบวนการทุจริตกันอย่างไร เพราะกกต.ทั้ง 5 คนก็มาจากกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น ขอเพียง กกต.มีความกล้าหาญที่จะทำความจริงให้ปรากฏ เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้
“ทุกอย่างมีหลักฐานชัดเจนมาก ฝากไปถึงนางสดศรีที่ออกมาบอกว่าจะทำไรต้องมีหลักฐานยืนยันและไม่ควรเอาไปพูดในที่สาธารณะนั้น เค้ามีหลักฐานชัดเจน นางสดศรีควรจะเปลี่ยนท่าทีของตนเองในการจะพูดอะไร ผมมองว่าความคิดของนางสดศรีใกล้เคียงกับนายสมัครเข้าไปทุกทีที่มองว่าประเทศเป็นของตัวเอง กกต.เป็นองค์กร ไม่ใช่เป็นของสดศรี จงมีจุดยืน อย่าเอาตัวเองไปเป็นสัญลักษณ์ขององค์กร ต้องแยกแยะให้ออก เพราะถ้า กกต.ไม่มีสดศรี กกต.ก็อยู่ได้ ดีชั่วอยู่ที่การทำหน้าที่ของแต่ละคน ขอให้ยึดความถูกต้องยึดหลักกฎหมายเท่านั้น ไม่ต้องไปเข้าข้างใคร” อดีต สนช.กล่าว
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีเงิน 2 ล้านที่ทนายเอามาวางให้ไปแบ่งๆ กันว่า เป็นความอุกอาจของคนมีอาชีพทนายเลวๆ ทนายมีความรู้มีจรรยาบรรณจะไม่ทำแบบนี้ จะสู้ด้วยพยานหลักฐาน ซึ่งตนได้ตรวจสอบข่าวในศาลแล้วว่าเป็นอดีตทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ อัษรนำหน้าคือ “ธ” และเคยถูกศาลตัดสินในคดีหมิ่นประมาทมาแล้ว ซึ่งคงไม่เกิน 7 วัน เราคงได้ฉีกหน้ากากออกว่าคนนี้เป็นใคร เจตนาเพื่อใคร ต้องยึดเงินและลงโทษกับคนนั้นทันที ฐานละเมิดอำนาจศาล ส่อเจตนาติดสินบน ไม่เกิน 7 วัน คงได้รู้ชื่อและฉีกหน้ากากออกมา มีการพูดกันวงในผู้พิพากษาว่าทำไมถึงกล้าทำ สุดท้ายก็วิเคราะห์กันว่าต้องการดิสเครดิตศาลเพื่อขอเปลี่ยนองค์คณะผู้พิพากษาในคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างนี้สภาทนายความควรจะถอนชื่อออกจากวิชาชีพทนายไปตลอดชีวิต
ด้าน นายพิเชฐ พัฒนโชติ รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ความเหิมเกริมของระบอบทักษิณ ถือว่ามีอำนาจและเงินใช้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง กรณีของ กกต.ที่มีการหลักฐานการปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับคดีใบแดงของนายยงยุทธนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กกต.ควรเร่งให้รู้ว่าใครบ้างที่ร่วมกันกระทำความผิด การพูดของนางสดรีควรจะมีท่าทีที่ดีกว่านี้ อย่าพูดเชิงท้าทาย เพราะทุกอย่างที่พูดกันนั้นมีหลักฐานชัดเจน นายสมชัย จึงประเสริฐ ก็พูดเองว่ามีนายตำรวจสารภาพว่าเซ็นชื่อแทนจริง ประชาชนไม่ได้ต้องการทำลายองค์กร กกต. แต่มี กกต.บางคนทำตัวเอง ไม่ซื่อสัตย์ ทุจริต