“พันธมิตรฯ” ชู อารยะขัดขืนเต็มสูบ - “สรส.-ผู้นำ รง.” นัดถกหยุดงานต้านกังฉิน

พันธมิตรฯ เดินหน้าอารยะขัดขืนเต็มสูบ จับตาพฤติกรรมรัฐลูกกรอก-ขรก.กังฉินทุกฝีก้าว โดยจะทยอยออกประกาศทุก 3 วัน พร้อมเรียกร้องคนไทยออกมาพิทักษ์สิทธิของตนเอง คาด ใช้ยุทธการดาวกระจายกดดัน “สตช.-กกต.” แทนเคลื่อนพลเข้ากดดันหน้ารัฐสภาในวันเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯ ขณะที่ “สรส.-ผู้นำแรงงาน” นัดถกใช้มาตรการเดียวกัน 17 มิ.ย.นี้

วานนี้ (10 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ภายหลังแกนนำพันธมิตรฯ อ่านประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 1/2551 เรื่อง “มาตรการตอบโต้ข้าราชการที่ทรยศชาติและเป็นปรปักษ์ต่อประชาชน” บนเวทีแล้ว ได้เปิดแถลงข่าวด้านหลังเวทีอีกครั้ง โดย นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวย้ำว่า การแสดงออกของภาคประชาชนโดยการทำอารยะขัดขืนจะไม่สร้างผลกระทบต่อประชาชนส่วนรวม แต่เป็นการแสดงออกเพื่อให้รู้ว่าการกระทำหรือคำสั่งของรัฐที่ไม่ยุติธรรมของรัฐเป็นอย่างไร

นายพิภพ กล่าวต่อว่า เนื่องจากการทำอารยะขัดขืนเกิดขึ้นในหลายประเทศ ทั้งปัจจุบันและในอดีต ทั้งในสหรัฐฯ หรือยุโรป หากพบว่าการกระทำของรัฐไม่มีความถูกต้องชอบธรรม ประชาชนจึงสามารถที่จะปฏิเสธได้ และพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้ยกขึ้นมาเท่านั้น แต่เพราะเราเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรม ทั้งจากการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารทั้งจากสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี หรือจากวิทยุชุมชน

“รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ได้เปิดช่องให้ประชาชนสามารถฟ้องร้องกับศาลปกครองได้ และยังเป็นมาตรการที่เปิดช่องให้ประชาชนทำได้ เป็นการปิดกั้นคนไม่ดีมาปกครองบ้านเมืองหรืออกคำสั่งที่ไม่ยุติธรรม ดังนั้น ทุกคืนประมาณตี 2 จะมีการให้ความรู้ทางวิชาการกับประชาชนในเรื่องการทำอารยะขัดขืน” นายพิภพ กล่าว

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในฐานะแกนนำของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สรส.) ตนและ ผู้นำแรงงานทั่วประเทศจะหารือกันในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ว่า จะมีท่าทีในเรื่องการทำอารยะขัดขืนอย่างไร โดยเฉพาะการประกาศหยุดงานของ สมาชิก สรส.ซึ่งถือว่าเป็นการใช้สิทธิอันชอบธรรมทางกฎหมาย และหากมีการกระทำที่รุนแรงกับพันธมิตรฯ การกลั่นแกล้งพันธมิตรฯ เราก็อาจจะมีการตอบโต้ตามมาตรการเบื้องต้น

“อารยะขัดขืน อย่างการประกาศปิดน้ำปิดไฟ เป็นการพูดคุยกันเบื้องต้น ประชาชนทั่วไปจะไม่เดือดร้อน เราอาจจะดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่มีความยุติธรรม เช่น ทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงการคลัง เป็นต้น” นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ประชาชนสามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแสดงออกว่าเป็นมวลชน สามารถไปร้องกับศาลปกครองจังหวัด ศาลปกครองกลาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งพันธมิตรฯ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา จะมีข้อมูลในเรื่องของการทำอารยะขัดขืน เช่นเดียวกับที่พันธมิตรฯเคยรณรงค์โนโหวตเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.2549 จนมีคำสั่งจากศาลว่าเป็นการเลือกตั้งที่มิชอบ ขณะที่การประเมินการทำอารยะขัดขืนนั้น ถือว่า หากประชาชนออกมาใช้สิทธิ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จและหากคดีแพ้หรือชนะก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิที่จะปิดกั้น

“การที่ประชาชนสามารถทำอารยะขัดขืนได้ เช่น ฟ้องร้องคำสั่งของอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่ห้ามเคเบิลทีวี หรือวิทยุชุมชน ไม่ให้ออกอากาศการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ คำสั่งการห้ามประชาชนในต่างจังหวัดเข้ามาร่วมชุมนุม” นายสุริยะใส กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม จะมีการทยอยออกประกาศอารยะขัดขืนทุก 3 วัน โดยแกนนำพันธมิตรฯจะหารือและแจ้งให้ประชาชนรับทราบ เพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิของตัวเอง ดังนั้น เราจึงอยากให้ประชาชนมาใช้สิทธิมากกว่าที่ให้เป็นภาพว่าพันธมิตรฯเป็นผู้จัดฉาก

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า วันที่ 11 มิ.ย.นี้ จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปกดดันรัฐสภา แม้จะมีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญก็ตาม แต่หากจะเคลื่อนในลักษณะดาวกระจาย ก็อาจจะเคลื่อนไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)