วิปรัฐบาลสุมหัวถก กมธ.วิสามัญแก้ไข รธน. แบ่งเค้กจัดสรรให้โควตาทุกพรรค ขึงขังเน้นคนนอกที่เป็นกลางเกรงสังคมร้องยี้ ทำใจกว้างจองเก้าอี้ให้พันธมิตรฯ โดดร่วมวง
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย เลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมวิปรัฐบาลว่า เป็นการประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่มีเงื่อนไขบัญญัติไว้ว่าต้องแล้วเสร็จ 2 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งทั้ง 2 ฉบับวิปรัฐบาลได้มอบหมายให้อนุกรรมการไปกลั่นกรองมาแล้ว 1 รอบขณะเดียวกันจะสักถามกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการหารือกันถึงการเตรียมให้แต่ละพรรคยื่นญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยจะมีความชัดเจนในเรื่องของจำนวน กมธ. ขณะนี้ยังอยู่ที่จำนวน 60 คน โดยกระจายไปตามพรรคต่างๆ คือ พรรคพลังประชาชน 29 คน พรรคประชาธิปัตย์ 21 คน พรรคชาติไทย 4 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 3 คน ส่วนที่เหลือพรรคละ 1 คน
“โดยจะมีการพูดในหลักการกว้างๆ ว่าสัดส่วนที่ได้ไปโดยเฉพาะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ส่วนหนึ่งให้ ส.ส.มาเป็น กมธ.และอีกส่วนให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็น กมธ. ซึ่งในแต่ละพรรคจะมีการประชุม ส.ส.พรรคในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ และจะพิจารณาว่าจะให้ใครเข้ามาเป็น กมธ.บ้าง ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชาชน กมธ.ในส่วนของ ส.ส.จะกระจายไปทุกภาค โดยต้องดูความเหมาะสมของแต่ละคนด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันนี้พรรคพลังประชาชนพร้อมที่จะยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์จะสามารถพิจารณาญัตติดังกล่าวได้” นายสามารถ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมนัดแรกในวันที่ 11 มิ.ย.จะไม่มีการนำญัตติ กมธ.วิสามัญดังกล่าวเข้าหารือ นายสามารถ กล่าวว่า ตนคิดว่าสัปดาห์นี้เรามีเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในวาระแล้ว คือ ร่าง พ.ร.บ.3-4 ฉบับที่รัฐธรรมนูญกำหนดเงื่อนไขไว้ ซึ่งในสัปดาห์แรกจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก่อน สัปดาห์ถัดไปจะเป็นเรื่องของญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนสัปดาห์สุดท้ายเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อ นายโภคิน พลกุล และนายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา เป็นประธาน กมธ.วิสามัญ มองว่าน่าจะให้เป็นคนนอกที่เป็นกลางและได้รับการยอมรับเข้ามาเป็นประธานหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า จริงๆ แล้วชื่อที่ออกมาเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคพลังประชาชนจะต้องมีการประชุมกันในวันที่ 10 มิ.ย.เพื่อกำหนดตัวบุคคลที่จะเป็น กมธ.ทั้ง ส.ส.และคนนอกว่าจะเป็นใครบ้าง ส่วนตัวประธานกมธ.นั้น ในใจตนก็อยากได้คนที่เป็นกลาง ซึ่งจะสามารถประสานได้กับทุกส่วนที่อยู่ใน กมธ. ได้
ต่อข้อถามว่าจะนำคนที่อยู่ในสถาบันพระปกเกล้ามาร่วม กมธ.ด้วยหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นกลางและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย เพราะหากนำนักการเมืองเข้ามาอาจถูกมองว่าเป็นการแบ่งขั้วได้ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า แน่นอน สถาบันพระปกเกล้าใกล้ชิดและคลุกคลีกับการศึกษาประเด็นรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ก็คงจะมีตัวแทนจากสถาบันพระปกเกล้าเข้ามา แต่หากจะมาเป็นประธานก็ต้องหารือกันก่อนเพราะมีหลายคนที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า แสดงว่าตำแหน่งประธาน กมธ.น่าจะให้เป็นสัดส่วนของพรรคการเมืองใช่หรือไม่ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ แต่ในใจตนคิดว่าวันนี้เราต้องการให้สังคมมั่นใจในการแก้รัฐธรรมนูญว่าเราจะไม่ไปทำอะไรให้มีปัญหา ดังนั้น เราคงจะต้องมาพิถีพิถันในการหาตัวประธานด้วยเหมือนกัน ถ้าได้ประธานที่สังคมรับไม่ได้ เขาร้องยี้แล้วทุกอย่างที่ทำมาก็อาจจะไม่ได้รับการยอมรับและไม่ได้รับความชอบธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับตัวแทนคนนอกจะให้มีตัวแทนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) หรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า เราจะระดมความเห็นทุกส่วน หากพันธมิตรฯ มีตัวแทนจะมาร่วมก็ยินดี ส่วนกลุ่มอื่นที่จะเข้ามาเราก็ยินดี แม้กระทั่งนักวิชาการอิสระเราก็จะเชิญมา หรือแม้แต่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ชุดที่ผ่านมาเราก็จะเชิญมาร่วมด้วย
เมื่อถามว่าถ้าบุคคลเหล่านี้เข้ามาจะมาในโควตาพรรคอะไร อย่างกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ชัดเจนแล้วว่าพรรคพลังประชาชนไม่เอา นายสามารถ กล่าวว่า ใครบอกไม่เอา ถ้ามาก็ยินดี ถ้าญัตติดังกล่าวเข้าสภาก็ไม่ใช่ของพรรคการเมืองไหน เพียงแต่สัดส่วนที่ได้มาเป็นตัวเลขของพรรคพลังประชาชน ทั้งนี้ มีโอกาสที่จะใช้โควตาของพรรคพลังประชาชนหรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ได้ แล้วแต่จะสะดวก เราไม่ขัดข้อง
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่าถ้ามีการยื่นญัตติเข้าสภาเมื่อใดจะเคลื่อนขบวนมาที่สภา นายสามารถกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะเขาคงมาด้วยเจตนาดี เนื่องจากเรายังไม่ได้แก้ เพียงแต่ศึกษาประเด็นการแก้ไขเท่านั้น และการศึกษาก็เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายแม้แต่พันธมิตรฯ เองสภาก็ยินดีต้อนรับ
ด้าน นายเอกพจน์ ปานแย้ม กล่าวว่า ในส่วนโควตา กมธ.วิสามัญของพรรคชาติไทยนั้น จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งในที่ประชุม ส.ส.พรรควันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ส่วนรายชื่อกรรมาธิการของพรรคชาติไทยขณะนี้มี 3 คนคือ นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคชาติไทย นายเกษม สรศักดิ์เกษม ทีมกฎหมายพรรคชาติไทย และตนเอง สำหรับสัดส่วนคนนอกอาจจะเป็นอดีตผู้สมัครหรือทีมฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย เลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมวิปรัฐบาลว่า เป็นการประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่มีเงื่อนไขบัญญัติไว้ว่าต้องแล้วเสร็จ 2 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งทั้ง 2 ฉบับวิปรัฐบาลได้มอบหมายให้อนุกรรมการไปกลั่นกรองมาแล้ว 1 รอบขณะเดียวกันจะสักถามกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการหารือกันถึงการเตรียมให้แต่ละพรรคยื่นญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 โดยจะมีความชัดเจนในเรื่องของจำนวน กมธ. ขณะนี้ยังอยู่ที่จำนวน 60 คน โดยกระจายไปตามพรรคต่างๆ คือ พรรคพลังประชาชน 29 คน พรรคประชาธิปัตย์ 21 คน พรรคชาติไทย 4 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 3 คน ส่วนที่เหลือพรรคละ 1 คน
“โดยจะมีการพูดในหลักการกว้างๆ ว่าสัดส่วนที่ได้ไปโดยเฉพาะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ส่วนหนึ่งให้ ส.ส.มาเป็น กมธ.และอีกส่วนให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็น กมธ. ซึ่งในแต่ละพรรคจะมีการประชุม ส.ส.พรรคในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ และจะพิจารณาว่าจะให้ใครเข้ามาเป็น กมธ.บ้าง ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชาชน กมธ.ในส่วนของ ส.ส.จะกระจายไปทุกภาค โดยต้องดูความเหมาะสมของแต่ละคนด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันนี้พรรคพลังประชาชนพร้อมที่จะยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์จะสามารถพิจารณาญัตติดังกล่าวได้” นายสามารถ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมนัดแรกในวันที่ 11 มิ.ย.จะไม่มีการนำญัตติ กมธ.วิสามัญดังกล่าวเข้าหารือ นายสามารถ กล่าวว่า ตนคิดว่าสัปดาห์นี้เรามีเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในวาระแล้ว คือ ร่าง พ.ร.บ.3-4 ฉบับที่รัฐธรรมนูญกำหนดเงื่อนไขไว้ ซึ่งในสัปดาห์แรกจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก่อน สัปดาห์ถัดไปจะเป็นเรื่องของญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนสัปดาห์สุดท้ายเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อ นายโภคิน พลกุล และนายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา เป็นประธาน กมธ.วิสามัญ มองว่าน่าจะให้เป็นคนนอกที่เป็นกลางและได้รับการยอมรับเข้ามาเป็นประธานหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า จริงๆ แล้วชื่อที่ออกมาเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ซึ่งพรรคพลังประชาชนจะต้องมีการประชุมกันในวันที่ 10 มิ.ย.เพื่อกำหนดตัวบุคคลที่จะเป็น กมธ.ทั้ง ส.ส.และคนนอกว่าจะเป็นใครบ้าง ส่วนตัวประธานกมธ.นั้น ในใจตนก็อยากได้คนที่เป็นกลาง ซึ่งจะสามารถประสานได้กับทุกส่วนที่อยู่ใน กมธ. ได้
ต่อข้อถามว่าจะนำคนที่อยู่ในสถาบันพระปกเกล้ามาร่วม กมธ.ด้วยหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นกลางและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย เพราะหากนำนักการเมืองเข้ามาอาจถูกมองว่าเป็นการแบ่งขั้วได้ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า แน่นอน สถาบันพระปกเกล้าใกล้ชิดและคลุกคลีกับการศึกษาประเด็นรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ก็คงจะมีตัวแทนจากสถาบันพระปกเกล้าเข้ามา แต่หากจะมาเป็นประธานก็ต้องหารือกันก่อนเพราะมีหลายคนที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า แสดงว่าตำแหน่งประธาน กมธ.น่าจะให้เป็นสัดส่วนของพรรคการเมืองใช่หรือไม่ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ แต่ในใจตนคิดว่าวันนี้เราต้องการให้สังคมมั่นใจในการแก้รัฐธรรมนูญว่าเราจะไม่ไปทำอะไรให้มีปัญหา ดังนั้น เราคงจะต้องมาพิถีพิถันในการหาตัวประธานด้วยเหมือนกัน ถ้าได้ประธานที่สังคมรับไม่ได้ เขาร้องยี้แล้วทุกอย่างที่ทำมาก็อาจจะไม่ได้รับการยอมรับและไม่ได้รับความชอบธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับตัวแทนคนนอกจะให้มีตัวแทนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) หรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า เราจะระดมความเห็นทุกส่วน หากพันธมิตรฯ มีตัวแทนจะมาร่วมก็ยินดี ส่วนกลุ่มอื่นที่จะเข้ามาเราก็ยินดี แม้กระทั่งนักวิชาการอิสระเราก็จะเชิญมา หรือแม้แต่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ชุดที่ผ่านมาเราก็จะเชิญมาร่วมด้วย
เมื่อถามว่าถ้าบุคคลเหล่านี้เข้ามาจะมาในโควตาพรรคอะไร อย่างกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ชัดเจนแล้วว่าพรรคพลังประชาชนไม่เอา นายสามารถ กล่าวว่า ใครบอกไม่เอา ถ้ามาก็ยินดี ถ้าญัตติดังกล่าวเข้าสภาก็ไม่ใช่ของพรรคการเมืองไหน เพียงแต่สัดส่วนที่ได้มาเป็นตัวเลขของพรรคพลังประชาชน ทั้งนี้ มีโอกาสที่จะใช้โควตาของพรรคพลังประชาชนหรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ได้ แล้วแต่จะสะดวก เราไม่ขัดข้อง
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่าถ้ามีการยื่นญัตติเข้าสภาเมื่อใดจะเคลื่อนขบวนมาที่สภา นายสามารถกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะเขาคงมาด้วยเจตนาดี เนื่องจากเรายังไม่ได้แก้ เพียงแต่ศึกษาประเด็นการแก้ไขเท่านั้น และการศึกษาก็เปิดกว้างให้ทุกฝ่ายแม้แต่พันธมิตรฯ เองสภาก็ยินดีต้อนรับ
ด้าน นายเอกพจน์ ปานแย้ม กล่าวว่า ในส่วนโควตา กมธ.วิสามัญของพรรคชาติไทยนั้น จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งในที่ประชุม ส.ส.พรรควันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ส่วนรายชื่อกรรมาธิการของพรรคชาติไทยขณะนี้มี 3 คนคือ นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคชาติไทย นายเกษม สรศักดิ์เกษม ทีมกฎหมายพรรคชาติไทย และตนเอง สำหรับสัดส่วนคนนอกอาจจะเป็นอดีตผู้สมัครหรือทีมฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้
