ทีมโฆษก ปชป.รุมชำแหละ “พลังแม้ว” หยุดโยนบาปให้กลุ่มพันธมิตรฯ ชี้ นักลงทุนเบรกลงทุนในไทย เพราะรัฐบาลลูกกรอกบริหารเหลว ตอกย้ำ “หมัก” นอมินี “ถาวร” ชี้ รธน.ให้สิทธิ ส.ส.ร่วมเวทีพันธมิตรฯ ได้ ท้าให้ดำเนินการหากผิดกฎหมาย
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พยายามโยนบาปให้กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ว่า เป็นผู้ที่ทำให้การบริหารประเทศผิดพลาด รวมถึงโฆษกรัฐบาล ระบุว่า นักลงทุนเยอรมันระงับการมาลงทุนในไทย เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ถือเป็นการสร้างความสับสนและเข้าใจผิดให้กับประชาชน เพราะข้อเท็จจริงการพิจารณาที่จะเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติจะต้องดูหลายปัจจัยหลัก ในเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ได้ดูที่ปัจจัยเฉพาะด้าน ที่สำคัญ กลุ่มพันธมิตรฯมีการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทั่วโลก จึงถือเป็นการพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง
“รัฐบาลบริหารประเทศเหมือนคนใกล้ล้มละลาย แถมยังพยายามสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น เช่น การจัดให้มีม็อบชนม็อบ มท.1 ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ควบคุมไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่กลับออกมาสนุบสนุนให้ คนออกมาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯจะเป็นอย่างไรถือเป็นสิทธิของเขา และรัฐบาลก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจ แต่ปัญหาคือ นายกฯไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่คนที่มีอำนาจแท้จริง คือ อดีตนายกฯ ดังนั้น ปัญหาต่างๆเกิดจากรัฐบาลทั้งสิ้น อย่าเบี่ยงเบนประเด็น และพยายามโยนบาปให้คนอื่น ถ้านักลงทุนไม่มาก็เพราะรัฐบาลชุดนี้บริหารไม่สำเร็จขาดเชื่อมั่นมากกว่า”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหนังสือเรียกสมาชิกของพรรคกลับมาต่อสู้ในสภาและถ้าขัดขืนก็ให้ขัดออกจากพรรค ว่า พรรคประชิปัตย์ไม่ได้เป็นพรรคเผด็จการ ประพฤติตนเป็นนอมินีของเจ้าของพรรคที่เป็นนายใหญ่ตัวจริง แต่พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการโดยระบบกรรมการบริหารพรรค ที่มาจากการเลือกตั้งโดยเปิดเผย จากตัวแทนสาขาพรรค ตัวแทน ส.ส.และกลุ่มองค์กรต่างๆ ให้มาทำหน้าที่ สิ่งไหนก็ตามที่สมาชิกของพรรคดำเนินการไปอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ นายอภิสิทธิ์ จะต้องไปทำหนังสือเรียกสมาชิกพรรคให้กลับมาต่อสู้ในระบบรัฐสภา และไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องไปขับสมาชิกออกจากพรรค เพราะมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่จะดำเนินการแต่หากทำผิดกฎหมายก้เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเอาผิดกับสมาชิกนั้นๆ ไป เป็นกรณีแต่ไม่ใช่เรื่องที่พรรคจะต้องไปขับสมาชิกคนใดออกจากพรรค
“เชื่อว่า การกระทำของเราขณะนี้ เป็นกรรมดีมากกว่ากรรมชั่ว และพรรคก็ไม่กังวลว่าวันใดมีโอกาสได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลแล้วจะมีกรรมมาตามสนองเพราะในเมื่อพรรคคดิดีและตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ดีเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองตนก้เชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะตอบสนองพรรคในทางที่ดี”
ด้าน นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่ารัฐธรมนูญฉบับนี้เขียนเอาไว้ ส.ส.ทั้งหมด 480 คน ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายหรือการลงมตินั้น ไม่ผูกติดกับการลงคำสั่งของใครที่เป็นผู้บริหารพรรค ดังนั้น คนที่เข้ามาเล่นการเมืองไม่ควรทำให้ประชาชนไขว้เขว้ ขอให้อ่านรัฐธรรมนูญให้ดีว่าเอกสิทธิ์ของการทำงาน ส.ส.ถ้าไม่ผิดกฎหมาย มาตั้งแต่การทำงานในสภาก็สามารถดำเนินการอย่างอื่นได้ ดังนั้น ถ้าหากว่าสมาชิกพรรคคนใดขึ้นเวทีพันธมิตรฯหรือไปให้กำลังใจ ถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมายก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่ามาพูดให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน”