“สนธิ” ปลุกพลังมวลชนร่วมสร้างสังคมใหม่ ออกแบบการปกครองแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ปฏิเสธหลุมพรางระบบตัวแทนประชาธิปไตย 4 วินาที ยุติพรรคการเมืองแบบบริษัท ป้องกันนักการเมืองแบบ “ทักษิณ” หวนกลับมาอีก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วานนี้(7 มิ.ย.) ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมทุกคนในที่นี้ต้องมาพูดเรื่องชั่วในบ้านเมืองที่เกิดขึ้นมานานแล้ว เช่นมีคำพูดบอกว่า “ผมมาจากการเลือกตั้ง แน่จริงมาลงสมัครแข่งขันกัน” ซึ่งนี่คือหลุมพราง
นายสนธิ ตั้งคำถามว่า ทำไมคนอย่าง นายสุนัย มโนมัยอุดม ซึ่งเคยเป็นผู้พิพากษา เป็นอดีตอธิบดีซี 10 ต้องถูกหมายจับทั้งที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น
นายสนธิ กล่าวว่า ถ้าเกิดวันพรุ่งนี้มีการยุบสภาก็มีการเลือกตั้ง เราก็จะตกหลุมพราง มีประชาธิปไตยแบบ 4 วินาทีเหมือนเดิม แต่เราไม่เคยมีตัวแทนดีๆ เข้าสภา การจดทะเบียนพรรคการเมืองเหมือนจดทะเบียนบริษัท เพราะถ้าพูดถึงระบบการเมืองไทยที่ผิดเพี้ยนก็ต้องมีทักษิณ 1 แล้วก็ต้องมีทักษิณ 2 ทักษิณ 3 ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ ถามว่ารัฐบาลต้องทำอย่างไรสนธิ ถึงไม่ไล่ แต่ถ้าเรามาพูดถึงการต่ออายุของ คตส.ไปอีก 1 ปี ไม่ขึ้นราคาน้ำตาล ควบคุมราคาข้าวสาร ราคาข้าวเปลือก ลดราคาน้ำมันลงลิตรละ 6 บาทจากกำไรส่วนเกินของ ปตท.และโรงกลั่น ส่งเสริมข้าราชการที่ดี ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรม เรื่องยุบพรรคหรือทำคดีอย่างโปร่งใส ถ้าทำได้แค่นี้เราก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะมานั่งในที่นี้แล้ว ให้เงินจ้างมาเรายังไม่มาเลย
นายสนธิ กล่าวว่า แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคการเมืองเป็นบริษัท เพราะใช้เงินขั้นต่ำ 1 เขต ไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน ทั้งหมดก็ไม่น้อยกว่า 4,800 ล้านบาท แล้วเอาเงินพวกนี้มาจากไหนก็โกงมาจากครั้งที่แล้ว เพื่อตั้งรัฐบาลครองอำนาจทำเงินต่อ ซื้อเสียงต่อ ดังนั้นถ้ามีคำท้าให้ลงเลือกตั้งถ้าระบบการเมืองบัดซบแบบนี้แค่มองยังไม่อยากจะมอง
นายสนธิ ยังได้แนะรัฐบาลว่า ถ้ามีอำนาจอันดับแรกจะเรียกผู้ถือหุ้น ปตท.และในฐานะที่รัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ประกาศเป็นนโยบายไม่ปันผล ปตท.อีกต่อไป จะนำกำไร 20 บาทสำหรับการลงทุน ที่เหลืออีก 80 บาทจะคืนให้แก่ประชาชน ถ้าผู้ถือหุ้นไม่พอใจก็ให้ขายหุ้นทิ้งไป ต่อมาโรงกลั่นที่ ปตท.ถือหุ้นใหญ่มีต้นทุนการกลั่นเท่าไหร่ ที่เหลือให้คืนกับประชาชน ส่วนการนำเข้าน้ำมันที่มีกำไรถึงสามเด้งจะเปลี่ยนแปลงให้เหลือเด้งเดียวพร้อมเปิดให้เสรีนำเข้าน้ำมัน ซึ่งถ้าทำอย่างนี้ได้จะลดราคาน้ำมันลงทันทีลิตรละ 6 บาท ซึ่งเขาทำได้แต่ไม่ทำ เพราะนักการเมืองเป็นผู้ถือหุ้น
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ทำไมต้องให้ประชาชนแบกรับภาระการเดินทาง ทำไมไม่ทำรถไฟรางคู่โดยไม่ต้องทำทีเดียวทั่วประเทศ แต่ให้ทำในรัศมี 150 กิโลเมตรก่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ลดการใช้น้ำมัน ลดการใช้รถยนต์ ไม่ต้องไปพูดเรื่องซับซ้อนอย่างเอทานอล
นายสนธิ กล่าวว่า ถ้าคราวนี้เราได้ชัยชนะแล้วจะทำอย่างไรเราจะเอาแบบประชาธิปไตย 4 วินาทีอีกหรือ เราควรจะวางหลักการปกครองก่อน เช่น 1.ยังความเป็นราชอาณาจักรที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.ประชาชนมีสิทธิ์ในการเลือกนับถือศาสนา 3.ปกครองแบบภราดรภาพ 4.เสรีภาพในการแสดงออก 5.มีสิทธิทำมาหากินอย่างเท่าเทียมกัน เป็นต้น ซึ่งหลักการการปกครองเหล่านี้อาจจะมีการแบ่งหมวดหมู่ได้ประมาณ 20 ข้อ แล้วให้ประชาชนลงประชามติ จากนั้นค่อยมาร่างรัฐธรรมนูญ
นายสนธิ กล่าวว่า ประชาธิปไตยแบบตัวแทนนั้น กระบวนการเลือกตั้งเป็นการลงทุน ซึ่งประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างกัน เราต้องถามตัวเองว่าเราคือใคร เราปฏิเสธศักดินา นายทุน กรรมกร หรือนักการเมืองไม่ได้ แต่ทำอย่างไรที่เราต้องสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ไม่ใช่ระบบตัวแทน ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างชาติ มีการแบ่งให้เท่าเทียมหรือทุกคนได้ ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ที่ 9 ส่วนนักการเมืองได้ ที่เหลืออีก 1 ส่วนโยนมาให้กับประชาชน
นายสนธิ กล่าวว่า ระบบการเมืองแบบตัวแทนทำให้นักการเมืองเป็นเจ้าของประเทศ นี่คือเหตุผลที่เราต้องร่วมกันสู้เพื่อสร้างสังคมใหม่ ไม่ใช่ผูกขาดโดยนักการเมือง พรรคการเมืองที่เหมือนบริษัท ถ้าในนั้นมีโจรอยู่มาก สภานั้นก็เป็นสภาโจร หรือรัฐบาลโจร