xs
xsm
sm
md
lg

“เจิมศักดิ์” เย้ยรัฐอ่อนหัด ยกกรณีข้าวดิสเครดิตตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
“เจิมศักดิ์” หยัน “หมัก-มิ่ง” ไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ สร้างปัญหาตลาดข้าว แถมทำลายความน่าเชื่อถือต่อชาวโลก ปากบอกไม่ขายข้าวในสต๊อก แต่กลับปล่อยออกมา ซ้ำยังปล่อยไก่คิดจะเป็นหัว ตั้งโอเรกเทียบโอเปก ลืมไปว่าใครๆ ก็ปลูกข้าวได้ ไม่เหมือนน้ำมัน หวั่นนโยบายรับซื้อข้าวเปลือกจะปลุกผีเพรซิเดนท์

เมื่อเวลา 23.40 น.ของวันที่ 4 มิ.ย. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กทม. กล่าวระหว่างการปราศรัยบนเวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยพูดถึงสถานการณ์ราคาข้าวที่ราคาสูง แต่รัฐบาลกลับบริหารจัดการจนเป็นปัญหา เพราะไม่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์

นายเจิมศักดิ์ เผยว่า ปริมาณข้าวทั่งโลกที่ผลิตได้ 100% มีการส่งค้าขายระหว่างประเทศเพียง 6% ส่วนที่เหลือนั้น แต่ละประเทศปลูกเองกินเองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เมื่อการค้าระหว่างประเทศมีส่วนแบ่งการตลาดเพียงเล็กน้อย ปีใดที่มีภัยธรรมชาติ ส่วนที่ส่งออกก็จะราคาพุ่งสูง ขณะที่ถ้าปีใดผลผลิตดี ราคาข้าวในตลาดโลกก็ตกลง

“ปีที่ผ่านมา น้ำมันแพงเป็นประวัติการณ์ พวกที่ปลูกข้าวก็หันไปปลูกพืชน้ำมัน ปลูกข้าวน้อยลง และยังมีภัยธรรมชาติ จึงทำให้มีผลผลิตข้าวน้อยลง ช่วงแรกราคาข้าวเริ่มลดตั้งแต่รัฐบาลสรุยุทธ์ (พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์) และโชคดีที่สุรยุทธ์ไม่ทำไรเลย ราคาเลยสูงขึ้นตามธรรมชาติ นี่คือข้อดีของสุรยุทธ์ที่ไม่ทำไรเลย พอรัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นมาก็รับอานิสงส์อันนี้ ไม่ใช่ฝีมืออะไรเลย แต่พอราคาขึ้นแล้ว นายมิ่งขวัญ (แสงสุวรรณ์) บอกให้เก็บไว้จะได้ราคาอีก 3 เท่า ยุให้ชาวนาเก็งกำไร”

“ทั้งคุณสมัคร และคุณมิ่งขวัญ ออกมาประกาศให้คนรับรู้ทั่วโลกว่า ไทยมีข้าวในสต็อก 2 ล้าน 1 แสนตัน แต่จะไม่ออกมาขาย แต่ต่อมาดันเอามาทำข้าวธงฟ้า เพียงแค่ 1 พันตัน แม้จะเล็กนิดเดียว แต่ก็ส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า รัฐบาลนี้ตระบัดสัตย์ เชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป เพราะกลายเป็นว่าจะมีข้าว 2 ล้านตันออกไปขายเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้ไม่มีใครซื้อเก็บ ชะลอการซื้อ ราคาดิ่งลง ส่วนข้าวธงฟ้ากลายเป็นข้าว 2 ราคา เป็นราคาตลาดทั่วไป และราคาต่ำกว่าตลาด ก็ทำให้คนหาเอาข้าวธงฟ้าไปบรรจุถุงใหม่”

นายเจิมศักดิ์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลต่อสถานการณ์ข้าว นับเป็นการทำลายความเชื่อถือทั้งระบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้อ่อนหัดมาก ทั้งในเรื่องเศรษฐศาสตร์และเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ แนวคิดที่รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพตั้งกลุ่มของผู้ผลิตและส่งออกข้าวหรือ โอเรก (OREC : Organization of Rice Exporting Countries) เพื่อกำหนดราคาข้าว เหมือนกลุ่มโอเปกประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ที่เป็นผู้มีอำนาจกำหนดกลไกราคาน้ำมันนั้น นายเจิมศักดิ์ระบุว่า ถ้านักการเมืองแล้วตั้งโจทย์ผิด แสดงว่าเดินทางผิด เสียเวลา งบประมาณ กำลังคน ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศได้

“คุณมิ่งขวัญและคุณสมัคร ไม่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เลย ผมสอนเศรษฐศาสตร์มานับสิบปี และทำเรื่องข้าวโดยเฉพาะ เขารวมกลุ่มน้ำมันและทำให้ราคาสูงขึ้น เขาทำได้ เขาตกลงกันว่า อยากให้ราคาสูง ก็ตกลงการปล่อยน้ำมันสู่ตลาด แต่ข้าวไม่ได้เหมือนบ่อน้ำมัน ที่ขุดเจาะได้ไม่กี่ประเทศ แต่ข้าวปลูกได้ทั้งโลก ถ้าคุณรวมหัวกันได้ราคาดี ก็ต้องมีคนอื่นปลูกเพิ่ม แล้วราคามันก็จะตกลงมา แล้วคุณคิดว่าเขาจะมีปัญญาไปจัดการกับซัพพลายหรือไม่ ถ้าราคาข้าวดี ชาวนา ผู้ส่งออกก็อยากจะขาย ไม่เหมือนบ่อน้ำมันที่คุมบ่อได้” นายเจิมศักดิ์อธิบาย พร้อมทั้งชี้ว่า รัฐบาลที่ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ก็จะตั้งโจทย์ผิดๆ พอเห็นโอเปกทำ ก็จะทำบ้าง

อีกทั้งในนโยบายล่าสุดในเรื่องการทุ่มเงินรับจำนำข้าวเปลือกนั้น นายเจิมศักดิ์กล่าว่า ถ้ารัฐบาลเข้าไปรับซื้อหรือแทรกแซง ก็จะมีคนเข้าไปฉวยโอกาสทันที ซึ่งเราเห็นมาตลอดว่าการแทรกแซงโดยการรับซื้อ ไม่ได้ช่วยชาวนาโดยตรง แต่ช่วยโรงสีหรือหัวคะแนน บางทีได้ข้าวมาก็มีแต่ลม หรือบางทีรวมกันจากหลายๆ สต็อก แล้วเอาไปประมูลขายเป็นรายเดียว

“อย่างที่ผ่านมา รัฐบาลทักษิณ มีเพรซิเดนท์ อะกริ แอนด์ เทรดดิง ผูกขาดรับซื้อข้าวให้รัฐบาลเจ้าเดียว พอสุรยุทธ์ขึ้นมาก็ไม่ให้ผูกขาดอีกต่อไป บริษัทนี้เจ๊งไปเรียบร้อยแล้ว แต่รัฐบาลนี้ก็มีท่าทีจะปลุกผีเพรซิเดนท์ต่อไป” นายเจิมศักดิ์กล่าวถึงแนวนโยบายของรัฐบาลนายสมัครต่อสถานการณ์ข้าว
กำลังโหลดความคิดเห็น