พันธมิตรฯ เลื่อนนำ 2 หมื่นชื่อยื่นถอด ส.ส.-ส.ว.ต่อประธานวุฒิสภาในวันศุกร์นี้ ระบุเวลานี้มีไม่น้อยกว่า 3 หมื่นชื่อแล้ว ประเมินสถานการณ์มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ เผยวันศุกร์นี้อาจมีการขอฉันทานุมัติเปลี่ยนจุดยืนไล่รัฐบาลหรือไม่ ชี้หากรัฐบาลยอมถอนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีคำตอบอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า พันธมิตรฯ จะเลื่อนการส่งมอบรายชื่อประชาชน 2 หมื่นชื่อเพื่อยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานวุฒิสภาจากเดิมที่กำหนดในวันนี้ออกไปเป็นวันศุกร์ เนื่องจากการประสานกับประธานวุฒิฯ แล้วและแจ้งว่าควรจะได้มีการตรวจสอบรายชื่อพร้อมกันทีเดียว ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อกว่า 3 หมื่นชื่อแล้ว ซึ่งจะรวบรวมให้มากที่สุด
นายสุริยะใส กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์เมื่อวานนี้ของแกนนำพันธมิตรฯรู้สึกพอใจที่มีผู้ชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนปักหลักไม่ยอมกลับบ้านก็มีจำนวนมากขึ้น ความรู้สึกของมวลชนวันนี้รู้สึกอึดอัดกับรัฐบาล มากกว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ทั้งท่าทีของ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่แสดงออกต่อสาธารณะ และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลจริงใจ ก็ต้องถอนญัตติตั้งแต่วันแรกที่พันธมิตรฯ ชุมนุม ทั้งๆ ที่รัฐบาลก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นปมของความแตกแยก ดังนั้นในช่วงเย็นวันศุกร์ พันธมิตรฯ จะใช้เวทีสอบถามฉันทานุมัติจากประชาชนว่าจะมีการเปลี่ยนหรือกำหนดจุดยืนต่อรัฐบาลหรือไม่
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ผู้นี้ยังบอกว่า มีการประสานไปยังเครือข่ายในต่างจังหวัด เพื่อมให้งดกิจกรรมต่างๆ ในต่างจังหวัด แล้วให้มาสมทบกันในกรุงเทพฯ ส่วนกรณีที่พรรคชาติไทยทำหน้งสือถึงนายกรัฐมนตรีกรณีของนายจักรภพนั้น ถ้าจริงใจ ไม่ได้ตีกินทางการเมือง สร้างภาพตีราคาตัวเอง ก็ควรจะต้องบอกว่าถ้านายจักรภพไม่ยอมลาออกพรรคชาติไทยจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่ ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาสร้างราคาให้ตัวเอง
ถามว่า อะไรคือสัญญาณที่จะต้องกำหนดจุดยืนใหม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า ความอึดอัด ความคลางแคลงใจและดูความจริงใจของประชาชน ส่วนจุดยืนใหม่คือไล่รัฐบาลหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่แน่ใจ ต้องรอถามฉันทานุมัติจากประชาชนก่อน แต่ก็มีความเป็นไปได้
ถามว่าจะรอให้ทำประชามติเสร็จก่อนหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า จุดยืนเรื่องประชามติในสถานการณ์แบบนี้ถือว่าไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะอำนาจรัฐไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นและความเชื่อถือ เหมืนกับการทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2550 ที่กลายเป็นการบอกกับประชาชนว่า หากไม่เห็นด้วยกับ 19 กันยา ก็ให้ลงมติไม่เห็นด้วย โดยไม่มีการดูรัฐธรรมนูญและโดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสมัครใช้เวลา 45 วันในการทำประชามติก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ดี ทางการกลุ่มพันธมิตรฯก็อาจรณรงรค์ไม่ให้ประชาขนไปลงประชามติก็เป็นได้
ถามว่า หาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลยอมถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะยิตุการชุมนุมหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า หลายฝ่ายบอกว่าหากยอมถอนความตึงเครียดจะลดลง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคามชัดเจนคงต้องรอดู หากถอนญัตติจริงพันธมิตรจะมีคำตอบที่เป็นเหตุเป็นผลอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ต้องประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมง และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเคลื่อนขบวนในวันศุกร์นี้
ส่วนที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้าทำตามกฎหมายก็ยินดีไม่ใช่ระดมกันมาก่อกวน และเรื่องเครื่องเสียงดังรบกวนนั้น ในช่วงกลางวันก็มีการถอดสายลำโพงออกไป เพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวนการเรียนของเด็กนักเรียนและพี่น้องประชาชนในละแวกนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 3 คน ได้เข้าป่วนบริเวณหน้าเวทีของพันธมิตรฯ โดยเข้ามาด่าทอส่งเสียงโวยวาย ดังนั้น ทำให้ประชาชนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นลุกฮือขึ้น ทำให้หน่วยรักษาความปลอดภัยต้องกันตัวออกไปจนเหตุการณ์วุ่นวายได้สงบลง
จากนั้น พล.ต.จำลอง ได้ขึ้นเวทีเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมให้ระมัดระวังการก่อกวนของพวกกลุ่ม นปก.ที่กำลังระดมพลที่ท้องสนองจะมาก่อกวนที่เวทีพันธมิตรฯ พร้อมทั้งไม่ให้ประมาทให้ใช้ทุกอย่างเท่าที่มีสำหรับการต่อต้านสิ่งที่เลวร้าย