ติดตามความเคลื่อนไหวนาทีต่อนาที ในการชุมนุมคัดค้านกลุ่ม ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนที่ได้ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และการขับไล่รัฐบาล"สมัคร"
25 พฤษภาคม 2551
14.00 น.
ประชาชนเริ่มทยอยมาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
15.00 น.
เริ่มเปิดเวที โดยมี นายสำราญ รอดเพชร นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และน.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
15.20 น.
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ขึ้นเวทีปราศรัย
15.50 น.
นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว. และน.ส.อัญชลี ไพรีรัตน์ ขึ้นเวทีปราศรัย
16.00 น.
-นายเสกสรรค์ แสนภูมิ อดีตส.ส.สุรินทร์ ขึ้นเวทีปราศรัย
-กลุ่มต่อต้านประมาณ 100 คน เคลื่อนขบวนจากท้องสนามหลวง มาอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเริ่มปฏิบัติการก่อกวนด้วยการตะโกนด่าและขว้างปาสิ่งของเข้าใส่พันธมิตรฯ พร้อมกับบุกเข้ารื้อป้ายจากรถติดตั้งเครื่องเสียงของพันธมิตรฯ โดยที่ตำรวจไม่ได้เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที ทำให้ทีมงานของพันธมิตรฯ ไม่พอใจและตอบโต้กลับไปบ้าง แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดี 1 คน
16.20 น.
นายสุรศักดิ์ หมื่นนาอาน ตัวแทนจากกองทัพธรรม ขึ้นเวทีปราศรัย
16.30 น.
นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ขึ้นเวทีปราศรัย
16.50 น.
นายวสันต์ สิทธิเขต ขึ้นเวทีอ่านกลอนประกอบดนตรี และไก่ แมลงสาป เล่นดนตรีสด
17.00 น.
-นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายแพทย์ ร.พ.จุฬาฯ ในฐานะ แกนนำกลุ่มพี่น้องข้าราชการ ประชาชน ผู้รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ขึ้นเวทีปราศรัย
-ตำรวจเสริมกำลังคอมมานโด 450 นาย เข้ามาอารักขาการชุมนุม ขณะที่กลุ่มก่อกวนยังคงตะโกนด่าทอ ยั่วยุฝ่ายพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง
17.10 น.
นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ขึ้นเวทีปราศรัย
17.30 น.
ดร.ประยูร อัครบวร อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีปราศรัย
18.05 น.
นายวีระ สมความคิด ประธานกรรมการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ขณะที่กลุ่มก่อกวนปักหลักอยู่ข้างๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้านร้านอาหารศรแดง ยังคงพยายามยั่วยุฝ่ายพันธมิตรฯ ตลอดเวลา
18.30 น.
นายภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีปราศรัย โดยระหว่างการปราศรัยไปประมาณ 10 นาที กลุ่มก่อกวนได้ตะโกนด่าทอและขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหิน เข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้ประชาชนที่นั่งฟังการปราศรัยอยู่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลุกขึ้นตอบโต้ ตะโกนด่า พร้อมทั้งหยิบขวดน้ำขว้างกลับออกไป จนนายภูวิดลต้องหยุดการปราศรัยประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นจึงขึ้นเวทีปราศรัยต่อ
18.45 น.
นายเทิดภูมิ ใจดี อดีตผู้นำแรงงานขึ้นเวทีปราศรัย
19.10 น.
กลุ่มตัวแทนองค์กรครูกู้ชาติภาคอีสาน ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
19.40 น.
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 10/2551 เรื่อง "เคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อกำจัดผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ" ประกาศจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 21.00 น. เพื่อปักหลักหน้าทำเนียบ ก่อนไปยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภาในเวลา 07.00 น. วันรุ่งขึ้น
19.45 น.
กลุ่มก่อกวนยังตามเข้ามายั่วยุฝ่ายพันธมิตรฯ ทำให้เกิดการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่กัน
19.50 น.
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัย
19.55 น.
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย
20.00 น.
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย
20.10 น.
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีอีกครั้งเพื่อกล่าวปราศรัย
20.20 น.
การแสดงดนตรีคั่นเวลา
20.45 น.
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัย
หลังจากนั้นมีการเตรียมพร้อมเพื่อเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
21.20 น.
พันธมิตรฯ เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
21.30 น.
หัวขบวนของผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลัง 300 นาย สกัดไว้ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงขอร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดทาง
ขณะที่ท้ายขบวน ซึ่งเป็นทีมงานรถถ่ายทอดสดของเอเอสทีวี ที่เคลื่อนตัวออกไปหลังสุด ถูกกลุ่มก่อกวนที่รวมตัวกันอยู่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยประมาณ 300 คน ระดมขว้างปาก้อนหิน ขวดเครื่องดื่มชูกำลังเข้าใส่ โดยทีมงานเอเอสทีวีได้พยายามใช้เครื่องเสียงประกาศเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ แต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง ทางผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ บาดเจ็บ ไปเป็นจำนวนมาก ต่อมาหน่วยคอมมานโด ซึ่งถือโล่และกระบอง ประมาณ 50-60 นาย ได้ยืนตรึงกำลังประจันหน้ากับกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ทำให้กลุ่มดังกล่าวต้องหยุดขว้างปาขวดแก้ว และไม่สามารถเดินตามกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด
จากปฏิบัติการของกลุ่มก่อกวนในครั้งนี้ ทำให้นายยุทธิยง ลิ้มเลศวาที พิธีกรของ เอเอสทีวีได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเลือดอาบและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิชระ ขณะที่นายชัยเวช สุยะเวช โปรดิวเซอร์รายการของเอเอสทีวี ได้รับบาดเจ็บหน้าบวม
21.50 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยอมเปิดทางให้ขบวนของพันธมิตรฯ ผ่านสะพานผ่านฟ้าไปได้
22.35 น.
ขบวนของพันธมิตรเดินไปถึงเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่ถูกสกัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 500 นายที่ตั้งด่านสกัดไม่ให้ขบวนพันธมิตรฯ เคลื่อนไปถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ระดับไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่าน ทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องลงไปเจรจา
22.55 น.
ที่บริเวณท้ายขบวนซึ่งอยู่ช่วงแยกแยก จปร. ได้เกิดการปะทะกัน เมื่อกลุ่มก่อกวนตามได้ตามไปขว้างปาก้อนหินยั่วยุตลอดเวลา ทำให้เกิดการปะทะกัน มีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายรวม 11 คน ในจำนวนนั้นมี รปภ.ของพันธมิตรฯ 2 คน คือ นายอนุรักษ์ ศิริ โดนมีดจากม็อบป่วน บาดเจ็บที่มือซ้าย อีกคนคือนายจักรรินทร์ คันทิด ถูกก้อนหินขว้างหัวแตกเหนือคิ้วซ้าย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระ
23.15น.
พันธมิตรฯ ตัดสินใจปักหลักชุมนุมและเปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ หลังจากการเจรจากับตำรวจเพื่อขอให้เปิดทางไม่เป็นผล
23.30 น.
เกิดเหตุปะทะกัน ที่ท้ายขบวนกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณสี่แยก จปร. หลังจากตำรวจได้ปล่อยให้ม็อบต่อต้านพันธมิตรฯ ออกจากจุดสกัดบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ จนเกิดการปะทะกันต่อเนื่องมาจนถึงบริเวณสี่แยก จปร. ม็อบถ่อยระดมขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ ไม้ ท่อนเหล็ก แป๊บ ใส่กลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมทั้งพยายามกรูเข้ามาตะลุมบอนทำร้ายฝ่ายพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ กลุ่มพันธมิตรฯ ทนต่อการกระทำไม่ไหว เริ่มตอบโต้ม็อบถ่อยด้วยการขว้างปาสิ่งของโต้ตอบกลับไป การปะทะกันกินเวลานาน 30 นาที มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งศีรษะแตก แขนหัก แพทย์พยาบาลต้องลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากจุดเกิดเหตุ โดยในระหว่างเกิดการปะทะนั้นไม่มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้ามาระงับเหตุแต่อย่างใด
23.45 น.
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้ง โดยได้ตำหนิการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง โดยระบุว่าได้รู้เห็นเป็นใจกับระบอบทักษิณให้มีการทำร้ายประชาชน
24.00 น.
นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ขึ้นเวทีปราศรัย
วันที่ 26 พ.ค.
00.10 น.
นายเสกสรร แสนภูมิ อดีต ส.ส.สุรินทร์ ขึ้นเวทีปราศรัย
00.30 น.
กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ที่ปักหลักบริเวณหน้า สน.นางเลิ้ง ได้ขว้างปา สิ่งของ ก้อนหิน และไม้ เข้าใส่รถกองทัพธรรมที่วิ่งผ่านขณะนำเสบียงอาหารไปส่งให้กลุ่มพันธมิตรฯ แต่ฝ่ายกองทัพธรรมไม่มีการตอบโต้
00.39 น.
นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีต ส.ว.สกลนคร ขึ้นเวทีปราศรัย หลังจากนั้นได้มีการสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยของระดับแกนนำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนยังคงปักหลักร่วมชุมนุมอย่างเหนียวแน่น เพื่อรอที่จะเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ต่อประธานวุฒิสภาพร้อมกันในเวลา 07.00 น.
02.30 น.
นางสาวอัญชลี ไพรรีรัก ขึ้นเวทีเล่าเหตุการณ์ขณะกลุ่มก่อกวนขว้างปาสิ่งเข้าใส่ ระหว่างเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก
03.50 น.
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยระบุถึงปัญหาระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่ทำให้สังคมเสื่อมหนัก พร้อมแนะภาคประชาชนลุกขึ้นสู้ขจัดวงจรอุบาทว์พ้นประเทศ พร้อมกับเสนอแบ่งสภาฯ ออกเป็น 3 ส่วน เปิดทางภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ
06.30 น.
แกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีร่วมกันประกาศจุดยืนในการเคลื่อนไหว โดยขอมติจากผู้ร่วมชุมนุมเปลี่ยนเป้าหมายจากการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ไปเป็นการขับไล่รัฐบาลจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
06.45 น.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า มีการปรับแผนกันเล็กน้อย จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะเคลื่อนขบวนไปยังหน้าสภา แต่ภายหลังประเมินสถานการณ์กันใหม่ เห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้น่าจะเป็นสมรภูมิการต่อสู้ครั้งสุดท้าย จึงมอบหมายให้แกนนำ และองค์กรเครือข่ายประมาณ 10 คน เป็นตัวแทนของเครือข่ายพันธมิตรฯ ไปยื่นถอดถอน ส.ส. และ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สภาในเวลาประมาณ 09.00 น. ส่วนการชุมนุมที่เชิงสะพานมัฆวานฯ จะมีการนำเต็นท์มาเพิ่มอีกจำนวนหลายสิบหลัง รวมทั้งมีการตั้งโรงครัวโดยกองทัพธรรม และจาก จ.ชลบุรี ขณะที่จะมีการเสริมทีมโฆษก และนักปราศรัยหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีตลอดทั้งวัน
09.00 น.
แกนนำพันธมิตรฯ เดินทางไปยื่นหนังสือถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อกันเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ต่อประธานวุฒิสภา โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ออกมารับหนังสือด้วยตัวเอง
09.30 น.
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยโดยระบุว่า รัฐบาลอาจใช้กฎหมายความมั่นคงสั่งจับกุม 5 แกนนำพันธมิตรฯ
หลังจากนั้น ยังคงมีการปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานฯ โดยบุคคลที่มีชื่อเสียง อย่างต่อเนื่อง อาทิ นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ นายพิเชษฐ์ พัฒนาโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา นายเสกสรร แสนภูมิ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคไทยรักไทยเป็นต้น
21.00 น.
5 แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีประกาศจุดยืนชุมนุมต่อเนื่อง จนกว่าจะได้ชัยชนะ แม้จะถูกข่มขู่สลายม็อบและใช้กฎหมายความมั่นคงจับกุมแกนนำ ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ใน แกนนำได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบว่า ได้รายชื่อยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.เกิน 20,000 ชื่อแล้ว และคาดว่าจะครบ 50,000 ชื่อในไม่กี่วันนี้
22.00 น.
นายไชยันต์ ไชยพร พร้อมด้วย ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขึ้นเวทีปราศรัย
22.35 น.
นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) ขึ้นกล่าวปราศรัย
22.45 น.
ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นกล่าวปราศรัย
23.00 น.
นายวรัญชัย โชคชนะ พยายามเข้ายื่นหนังสือต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมในเวลา 12.00 น.ของวันที่ 27 พ.ค. ไม่เช่นนั้นจะนำพวกเข้าไปกดดันที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แต่นายสนธิตลอดจนแกนนำคนอื่นๆ ไม่ออกมารับ
23.20 น.
นายวรัญชัยนำหนังสือไปยื่นต่อ พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผู้กำกับ สน.นางเลิ้ง ที่มาดูแลการชุมนุมอยู่บริเวณแยก จปร. เพื่อให้นำไปส่งให้แกนนำพันธมิตรฯ แต่ทาง ผู้กำกับฯ ไม่ยอมรับหนังสือดังกล่าว แม้นายวรัญชัยจะพยายามตื้ออยู่ประมาณ 20 นาที จนในที่สุดนายวรัญชัยจึงได้เหน็บเอกสารหนังสือไว้ที่แผงเหล็กกั้นแล้วเดินออกไป
23.30 น.
-นายเทิดภูมิ ใจดี อดีตผู้นำแรงงาน ขึ้นกล่าวปราศรัย ย้ำถึงพลังของประชาชนในการคัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ
-พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชากรตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เดินทางเข้าเจรจากับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เพื่อขอความร่วมมือในการเปิดทางให้กับขบวนเสด็จในวันที่ 28 , 30 และ 31 พ.ค.นี้ ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ได้ให้ความร่วมเป็นอย่างดี โดยรับปากว่าจะรื้อแผงกั้นเหล็กออก และจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง
23.45 น.
นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.ยโสธร ขึ้นกล่าวปราศรัย
27 พฤษภาคม 2551
00.10 น.
นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ส.-ส.ว.บุรีรัมย์ ขึ้นเวทีปราศรัย
00.45 น.
กลุ่มเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดบนายแสงธรรม ชุนชฎาธาร ขึ้นเวทีสร้างสีสัน โดย"น้องอ๊อฟ"กล่าวถึงความป่าเถื่อนของม็อบ นปก. ซึ่งน่าจะย่อมาจาก"หนูเป็นเกย์"เพราะการทำร้ายคนแก่และเด็กนั้นไม่มีความเป็นแมนในการต่อสู้
01.45 น.
ชายขี้เมาขึ้นไปก่อกวนบนเวที ระหว่างการแสดงดนตรีโดย"ไก่ แมลงสาบ" รปภ.ของพันธมิตรฯ ควบคุมตัวลงมาได้โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
02.00 น.
นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.สกลนคร กล่าวปราศรัย
02.30 น.
อาจารย์อารมณ์ มีชัย ที่ปรึกษากลุ่มสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย ขึ้นเวทีปราศรัย
03.10 น.
หลังการแสดงดนตรีบนเวทีจบลง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้ขึ้นไปประกาศถึงความเคลื่อนไหวที่เริ่มผิดปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า ในเวลาอีกไม่นาน ตำรวจอาจจะใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ดังนั้นเราจะต้องเตรียมรับมือให้พร้อม
03.15 น.
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ขึ้นเวทีปราศรัยถึงปัญหาในวงการตำรวจซึ่งส่วนใหญ่ตกเป้นทาสนักการเมือง
04.30 น.
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ขึ้นกล่าวปราศรัยกระตุกต่อมสำนึกผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ สลัดภาพคนรับใช้นักการเมือง ร่วมเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองเข้าสู่ยุคของความถูกต้อง
06.00 น.
กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมกันออกกำลังกายตามรูปแบบออกกำลังกายวิธีพุทธ
07.30 น.
นางสาวอัญชลี ไพรีรัก และนางสาวกมลพร วรกุล ขึ้นเวทีสรุปรายงานข่าวที่ถูกนำเสนอทางสื่อต่างๆ ให้ผู้ชุมนุมฟัง
08.00 น.
นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ นายสำราญ รอดเพชร และนางสาวอัญชลี ไพรีรัก ขึ้นเวทีสนทนาเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองที่เกิดขึ้นในรอบวัน
19.57 น.
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ขึ้นเวทีดำเนินรายการ"รู้ทันประเทศไทย" โดยเชิญอดีต ส.ส.ร.มาอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
21.00 น.
นายเจิมศักดิ์ ได้นำคลิปวีดิโอการบรรยายของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550 มาเปิดทางจอโปรเจกเตอร์ ระหว่างนั้นตำรวจได้เปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียงโดยเปิดเสียงดังจนกลบเสียงของเวที ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจส่งเสียงโห่ร้อง จากนั้นโฆษกบนเวทีได้ขอร้องให้ตำรวจหยุดการเปิดเพลงดังกล่าวเนื่องจากเป็นการยั่วยุประชาชน และได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัวรับมือหากตำรวจเข้าไปสลายการชุมนุม โดยแนะนำให้นอนราบกับพื้นและเตรียมโทรศัพท์มือถือไว้ถ่ายวีดิโอ หากตำรวจแตะต้องร่างกายผู้หญิงจะถือว่าอนาจาร ส่วนผู้ชายจะถือว่าทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นตำรวจจึงลดเสียงเพลงลง และการอภิปรายบนเวทีได้ดำเนินต่อไป โดยได้นำเทปรายการ"รู้ทันประเทศไทย"ตอนที่มีการวิจารณ์คำพูดนายจักรภพมาเปิด