สภาประท้วงวุ่น “ปู่ชัย” ขึ้นบัลลังก์ก่อนอ่านพระบรมราชโองการ

โธ! “ปู่ชัย” เห่อตำแหน่งใหม่ รีบขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานสภา โชว์ตัวเต็มยศ จนลืมขั้นตอนอ่านพระบรมราชโองการฯ สภาป่วน ฝ่ายค้านรุมสับ “สมศักดิ์” ตัวการเรียกขึ้นไปนั่งก่อนจนลืมธรรมเนียมปฏิบัติ จี้รับผิดชอบถึงขั้นลาออก ด้าน พปช.โดดป้องพัลวัน อ้างไม่มีในข้อบังคับ ด้าน “ขุนค้อน” น้ำตาซึมยอมรับทำผิดขั้นตอน ยอมขอโทษกลางสภา

เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ได้มีการพิจารณาวาระพิจารณาญัตติการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ได้เชิญนายชัย ชิดชอบ ที่เพิ่งประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร บริเวณห้องโถงอาคารรัฐสภา ขึ้นมาบนบัลลังก์ประธาน โดยแจ้งว่าขณะนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายชัยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ จึงขอเชิญนายชัยขึ้นมาทำหน้าที่

ด้านนายชัยในเครื่องแบบชุดขาวเต็มยศ ได้เดินขึ้นมาบนบัลลังก์ประธานด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม ขณะที่สมาชิกได้ลุกขึ้นยืน โดยนายชัยได้กล่าวว่า เชิญนั่งตามอัธยาศัย และว่าหลังจากพระบรมราชโองการแล้ว ตนได้มานั่งรออยู่ที่นั่ง ส.ส. คิดว่าจะขึ้นมานั่งบนบัลลังก์ และจะมีการอ่านพระบรมราชโองการให้ที่ประชุมทราบ แต่ด้วยภาระที่สภากำลังพิจารณาญัตติจึงไม่สามารถอ่านพระบรมราชโอกงการได้ ตนได้รับความกรุณาจากสมาชิก 283 คน ขอยืนยันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง เที่ยงธรรม สุจริต ผดุงรักษาไว้ซึ่งสภาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสถาบันต่างๆ เพื่อประชาชนต่อไป ตนไม่สามารถกระทำได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจาทกสมาชิกมีบทบาทสำคัญทุกคน หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกที่อยู่ในสภา สมาชิกรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่นายชัยกำลังพูด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยกมือประท้วง แต่นายชัยไม่อนุญาตให้พูด และยังกล่าวกับนายนิพิฏฐ์ว่า “ผมยังพูดไม่จบ ขอผมพูดให้จบแล้วค่อยแซว ขอให้เก็บไว้ในใจก่อน แล้วค่อยแซวทีหลัง น้องที่รัก แล้วผมเต็มที่กับท่าน อย่าเพิ่งทดลองเลย”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายชัยจะลุกจากบัลลังก์ได้มอบให้นายสมศักดิ์ทำหน้าที่ประธานต่อ โดยกล่าวว่าจะเดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจศพมารดา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 และกล่าวว่า อย่าเพิ่งรีบปิดสภา เพราะตนจะกลับมาอีกครั้ง

เมื่อนายสมศักดิ์ทำหน้าที่ต่อ นายนิพิฏฐ์ได้ประท้วงอีกว่า สิ่งที่นายชัยทำนั้นผิด ซึ่งตนอยู่ในสภานี้มานาน อยากให้ประธานสภามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตนไม่เคยพบลักษณะเช่นนี้มาก่อน ที่จู่ๆ ประธานขึ้นทำหน้าที่ก่อนมีการอ่านพระบรมราชโองการให้ที่ประชุมรับทราบ และตรงนี้จะเป็นจุดเสื่อมเสียของประธานและสภา

“ไม่ทราบใครขึ้นมานั่งแต่งชุดขาว ขึ้นไปนั่งตรงนั้น ผมเชื่อว่าท่านชัยได้เป็นประธาน บรรลุเป้าหมายแน่ แต่การกระทำวันนี้ไม่มีเกียรติ ทำไมต้องรีบอย่างนั้น เพราะท่านชัยผ่านการลงมติของสภาแล้ว และทำไมไม่รออ่านพระบรมราชโองการฯ ทำไมทำอย่างนั้น ควรให้ที่ประชุมพิจารณาญัตตินี้ให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์ ทำไมไม่อ่านพระบรมราชโองการก่อน”

นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า ตนมีส่วนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ ถือว่ามีการรับพระรมราชโองการถูกต้องแล้ว และจะได้พิมพ์แจกหนังสือต่อสมาชิก หากมีอะไรผิดพลาดขอรับผิดชอบเอง ทำให้นายนิพิฏฐ์ ได้พยายามถามหาความรับผิดชอบ โดยกล่าวว่าเมื่ออ่านพระบรมราชโองการ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการแล้วเชิญประธานขึ้นนั่งบัลลังก์ เราทำอะไรลวกๆ มากในสภาแห่งนี้ ใครขึ้นไปพูดอะไรไม่รู้เลอะเทอะ ตนว่าวิปริตแน่ เกิดอาเพศกับสภานี้แน่ ต้องอ่านพระบรมราชโองการก่อน นายสมศักดิ์ชี้แจงว่าเป็นหน้าที่ของประธานที่ต้องดำเนินการ ตนเชิญนายชัยขึ้นมา

นอกจากนี้ นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่า การกระทำในวันนี้เป็นเรื่องใหญ่หลวงมาก ไม่เคยเกิดขึ้นในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา การที่ประธานเชิญผู้ที่ดำรงตำแหน่งขึ้นมา ประธานที่ประชุมอาจขอมติที่ประชุมเพื่อรับทราบพระบรมราชโองการฯ ถึงขึ้นที่ต้องลาออก ตนอยู่ในสภานี้มา 20 ปี ทำผิดแบบแผนประเพณีที่ปฏิบัติ สิ่งสำคัญที่สุด คือ พระบรมราชโองการฯ ไม่ใช่เรื่องที่ละเลยหรือปล่อยไปได้ ตนชมเชยการทำงานของประธานมาตลอด แต่วันนี้ตนยอมไม่ได้

ด้าน ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคนได้พยายามอภิปรายสนับสนุนการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ อาทิ นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม กล่าวว่า ประธานทำหน้าที่ในการประชุมเหมาะสมแล้ว ขณะที่สภากำลังพิจารณาญัตติที่มีความสำคัญ ข้อบังคับการประชุมต้องพิจารณาจนแล้วเสร็จ หากเสนอเรื่องอื่นใดขึ้นมาจะทำให้ญัตตินั้นตกไป ขณะเดียวกันประธานเห็นว่ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แม้ไม่ได้อ่านในที่ประชุม แต่คงได้รับรายงานพระบรมราชโองการแต่งตั้งอยู่แล้ว การทำหน้าที่ของประธานเพื่อให้การทำหน้าที่นั้นต่อเนื่องอยู่ แต่การเชิญให้ประธานสภาขึ้นไปเพื่อให้ภาระหน้าที่ต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถให้เลขาธิการสภาอ่านพระบรมราชโองการได้ เพราะญัตติจะตก เจตนาที่ทำต้องเคารพต่อการทำหน้าที่ของประธาน

นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พระบรมราชโองการเป็นของศักดิ์สิทธิ์ กรณีนี้เมื่อประธานการประชุมแจ้งให้ทราบพระบรมราชโองการแล้วก็ขัดขืนไม่ได้ นายชัยก็ได้รับพระบรมราชโองการแล้ว จากนั้นก็ขึ้นนั่งบัลลังก์ประธานก็ไม่เสียหายอะไร แต่การที่มีความพยายามอภิปรายในสภาของสมาชิกเหมือนพยายามขัดขืนพระบรมราชโองการ ถ้านายสมศักดิ์จะแสดงความรับผิดชอบก็ควรนั่งรองประธานต่อไป การไม่อ่านพระบรมราชโองการ แม้ผิดธรรมเนียม แต่ไม่ผิดกฎหมายและข้อบังคับ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่จะปล่อยให้ผ่านไปเหมือนสมาชิกบางคนบอกไม่ได้ เพราะมีผลกระทบต่อสถาบันนิติบัญญัติ การกระทำเพียงเพื่อต้องการโชว์ตัวก็พยายามทำทุกอย่าง ต้องละเลยธรรมเนียมปฏิบัติ แม้เรื่องนี้ไม่ผิดข้อบังคับหรือกฎหมาย แต่การโยนความผิดไปให้ฝ่ายข้าราชการประจำนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ประธานดำเนินการประชุมอยู่ตลอดต้องรับผิดชอบเต็มๆ การจะขอโทษแล้วจบไม่ได้ สิ่งผิดพลาดครั้งนี้ใหญ่มาก ตนขอเรียกร้องว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ประธานต้องแสดงความรับผิดชอบที่ชัดเจนกว่านี้

น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เป็น ส.ส.มาหลายสมัย และเคยเป็นรองประธานสภามาแล้วครั้งหนึ่งก็รู้ธรรมเนียม แต่มาบอกว่าเป็นความผิดพลาด ตนคิดว่าน่าจะเป็นการจงใจ แล้วยังมีสมาชิกไปโทษเลขาธิการสภาผู้แทนฯ ก็คงไม่ใช่ เพราะประธานการประชุมต้องควบคุมการประชุมให้ถูกต้อง ทั้งนี้เป็นลูกผู้ชายต้องยอมรับความผิดพลาด ตนคิดว่ากรณีนี้เป้นความผิดมหันต์ ให้อภัยไม่ได้ นอกจากนี้ เมื่อนายชัยขึ้นกล่าว มีสมาชิกประท้วงก็ไม่ฟัง แล้วยังมาบอกว่าห้ามปิดประชุม รอให้กลับมาก่อน สงสัยว่าเห็นพระบรมราชโองการเป็นอะไร อย่ามาทำเล่นๆ การจะขอพระราชทานอภัยโทษหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์คงไม่ได้ การรับผิดชอบ ถ้าเป็นตนคงลาออก

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า มีสมาชิกใหม่มาอภิปรายแนะนำ เช่น นายจตุพร และคนอื่นๆ ตนคิดว่าไม่ใช่สิ่งควรปฏิบัติ เพราะสมาชิกสภาที่อยู่มานานรู้ข้อบังคับ และประเพณี ทั้งนี้ตนได้ประท้วงนายชัยแล้ว แต่ไม่เปิดโอกาสให้ตนพูด ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ นอกจากนี้ภาคราชการต้องกล้าแนะนำธรรมเนียมที่ถูกต้องกับฝ่ายการเมืองด้วย ฉะนั้น เลขาฯ สภา ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย พร้อมทั้งนายสมศักดิ์ และนายชัย ต้องขออภัยและยอมรับว่าทำสิ่งไม่บังควร เพราะนอกจากกฎหมายแล้ว ประเพณีที่เกี่ยวกับสถาบันต้องให้ความสำคัญ ทั้งนี้เมื่อนายสมศักดิ์ กล่าวขอโทษ เรื่องก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนสับสนพอสมควรว่าต้องรับผิดชอบแค่ไหน แต่ฟังนายนิพิฏฐ์แล้วก็สบายใจขึ้น ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อนายชัยขึ้นมาบนบัลลังก์ยังมาได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ขึ้นมากล่าวกับสมาชิก ทั้งนี้ตนในฐานะประธานการประชุมตอนนั้นก็แจ้งแล้วว่ามีการโปรดเกล้าฯ และก็ให้เลขาฯ สภา ไปเชิญนายชัยขึ้นมา อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดความผิดพลาดก็ยอมรับ และจะให้เลขาฯ สภา อ่านพระบรมราชโองการภายหลังจบการพิจารณาญัตติ อย่างไรก็ดี คนเราผิดพลาดกันได้ ตนเป็นลูกผู้ชายพอ ก็ยอมรับผิดว่าผิดธรรมเนียม แต่ไม่ได้ผิดข้อบังคับ และขอโทษที่ประชุมอีกครั้ง และไม่มีเจตนาใดแอบแฝงในการทำหน้าที่ ตนทำงานโดยยึดความเป็นกลางอย่างที่สุด พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีว่าตนเป็นรอย่างไร ตนยึดข้อบังคับตลอด

“คนเราผิดพลาดกันได้ ผมก็ยอมรับความผิดพลาด และขอให้เรื่องจบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ามีความเคารพเทิดทูนสถาบันอย่างที่พุดกัน ก็ขอว่าอย่าเอาไปขยายความให้กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท ผมกราบขอโทษที่ประชุมอีกครั้ง และอยากให้สมาชิกให้อภัย เพื่อทำหน้าที่ต่อด้วยความสบายใจ” นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและตาแดงก่ำ จากนั้นจึงเข้าสู่วาระการพิจารณาญัตติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดำเนินต่อไปจนถึงเวลา 18.30 น. นายชัยได้ขึ้นมาทำหน้าที่บนบัลลังก์ประธานการประชุมแทนนายสมศักดิ์ แต่ถูกนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงและทวงถามข้อหารือที่นายสมศักดิ์ทำหน้าที่ประธานก่อนหน้านี้ได้ระบุว่าหลังพิจารณาญัตติเสร็จสิ้น จะอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ที่ประชุมรับทราบ แต่ตอนนี้นายชัยกลับขึ้นมาทำหน้าที่ประธานแล้ว ประธานทำอะไรลงไปขอให้รับผิดชอบด้วย ขณะที่นายชัยชี้แจงว่า เมื่อสักครู่ตนได้มานั่งทำหน้าที่แล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้สามารถขึ้นมานั่งได้เพราะได้รับผ่านพิธีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ถือว่ารับตำแหน่งอย่างสมบูรณ์แล้ว และก่อนปิดประชุมจะมีการอ่านพระบรมราชโองการให้ที่ประชุมรับทราบ