ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (15 พ.ค.) ที่ นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ได้มีการพิจารณาวาระพิจารณาญัตติการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ขณะนั้นนายสมศักดิ์ ได้เชิญ นายชัย ชิดชอบ ที่เพิ่งประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขึ้นมาบนบัลลังก์ประธาน โดยแจ้งว่า ขณะนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายชัยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร คนใหม่ จึงขอเชิญนายชัยขึ้นมาทำหน้าที่
ด้านนายชัยในเครื่องแบบชุดขาวเต็มยศ ได้เดินขึ้นมาบนบัลลังก์ประธาน ด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม ขณะที่สมาชิกได้ลุกขึ้นยืน โดยนายชัยได้กล่าวว่า เชิญนั่งตามอัธยาศัย และว่า หลังจากพระบรมราชโองการแล้ว ตนได้มานั่งรออยู่ที่นั่งส.ส. คิดว่าจะขึ้นมานั่งบนบัลลังก์ และจะมีการอ่านพระบรมราชโองการฯ ให้ที่ประชุมทราบ แต่ด้วยภาระที่สภากำลังพิจารณาญัตติจึงไม่สามารถอ่านพระบรมราชโอกงการได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่นายชัยกำลังพูด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยกมือ ประท้วง แต่นายชัยไม่อนุญาตให้พูด และยังกล่าวกับ นายนิพิฏฐ์ว่า ผมยังพูดไม่จบขอผมพูดให้จบแล้วค่อยแซว ขอให้เก็บไว้ในใจก่อน แล้วค่อยแซวทีหลัง น้องที่รัก แล้วผมเต็มที่กับท่าน อย่าพึ่งทดลองเลย
อย่างไรก็ตามก่อนที่นายชัยจะลุกจากบัลลังก์ให้มอบให้นายสมศักดิ์ทำหน้าที่ ประธานต่อ โดยกล่าวว่าจะเดินทางไปร่วมงานฌาปนะกิจศพมารดาพ..อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่2 อย่าพึ่งรีบปิดสภา เพราะตนจะกลับมาอีกครั้ง
เมื่อนายสมศักดิ์ทำหน้าที่ต่อ นายนิพิฏฐ์ได้ประท้วงอีกว่า สิ่งที่นายชัยทำนั้นผิด ซึ่งตน อยู่ในสภานี้มานาน อยากให้ประธานสภามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตนไม่เคยพบลักษณะเช่นนี้มาก่อน ที่อยู่ๆ ประธานขึ้นทำหน้าที่ก่อนมีการอ่านพระบรมราชโองการ ให้ที่ประชุมรับทราบ และตรงนี้จะเป็นจุดเสื่อมเสียของประธานและสภา
ไม่ทราบใครแต่งชุดขาวขึ้นไปนั่งตรงนั้น ผมเชื่อว่าท่านชัยได้เป็นประธาน บรรลุเป้าหมายแน่ แต่การกระทำวันนี้ไม่มีเกียรติ ทำไมต้องรีบอย่างนั้น แม้ท่านชัยผ่านการลงมติของสภาแล้ว แต่ทำไมไม่รออ่านพระบรมราชโองการ ฯ ทำไมทำอย่างนั้น ควรให้ที่ประชุมพิจารณาญัตตินี้ให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์ ทำไมไม่อ่านพระบรมราชโองการก่อน
ซึ่ง นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า ตนมีส่วนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ ถือว่ามีการรับพระรมราชโองการถูกต้องแล้ว และจะได้พิมพ์แจกหนังสือต่อสมาชิก หากมีอะไรผิดพลาด ขอรับผิดชอบเอง ทำให้นายนิพิฏฐ์ ได้พยายามถามหาความรับผิดชอบ เมื่ออ่านพระบรมราชโองการ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการ แล้วเชิญประธานขึ้นนั่งบัลลังก์ เราทำอะไรลวกๆ มากในสภาแห่งนี้ ใครขึ้นไปพูดอะไรไม่รู้เลอะเทอะ ตนว่าวิปริตแน่ เกิดอาเพศกับสภานี้แน่ ต้องอ่านพระบรมราชโองการ ก่อน นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า เป็นหน้าที่ของประธานที่ต้องดำเนินการ ตนเชิญนายชัยขึ้นมา
ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนพยายามอภิปรายสนับสนุนการทำหน้าที่ของ นายสมศักดิ์ เช่น นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน โดยอ้างว่า การพิจารณาข้อบังคับการประชุมเป็นเรื่องสำคัญ หากเสนอเรื่องอื่นขึ้นมก็จะทำให้ญัตติตกไป และเมื่อประธานฯเห็นว่ามีพระบรมราชโองการฯแล้ว แม้ไม่ได้อ่านในที่ประชุม ก็เชิญประธานสภาฯขึ้นมาทำหน้าที่ได้
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า มีสมาชิกใหม่มาอภิปรายแนะนำ เช่น นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.พรรคพลังประชาชนและคนอื่นๆ ตนคิดว่า ไม่ใช่สิ่งควรปฏิบัติ เพราะสมาชิกสภา ที่อยู่มานานรู้ข้อบังคับ และประเพณี ทั้งนี้ตนได้ประท้วงนายชัย แล้ว แต่ไม่เปิดโอกาสให้พูด ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ นอกจากนี้ภาคราชการต้องกล้าแนะนำธรรมเนียมที่ถูกต้องกับฝ่ายการเมืองด้วย ฉะนั้นเลขาฯสภาต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย พร้อมทั้งนายสมศักดิ์ และนายชัย ต้องขออภัยและยอมรับว่าทำสิ่งไม่บังควร เพราะนอกจากกฎหมายแล้ว ประเพณีที่เกี่ยวกับสถาบันต้องให้ความสำคัญ ทั้งนี้เมื่อนายสมศักดิ์ กล่าวขอโทษ เรื่องก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนสับสนพอสมควรว่า ต้องรับผิดชอบแค่ไหน แต่ฟังนายนิพิฏฐ์ แล้วก็สบายใจขึ้น คนเราผิดพลาดกันได้ ผมก็ยอมรับความผิดพลาด และขอให้เรื่องจบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ามีความเคารพเทิดทูนสถาบันอย่างที่พูดกัน ก็ขอว่า อย่าเอาไปขยายความให้กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท ผมกราบขอโทษที่ประชุมอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดำเนินต่อไปจนถึงเวลา 18.30 น. นายชัย ได้ขึ้นมาทำหน้าที่บนบัลลังก์ประธานแทนนายสมศักดิ์ อีกครั้งแต่ถูกนาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงและทวงถามข้อหารือ ที่นายสมศักดิ์ระบุว่าหลังพิจารณาญัตติเสร็จสิ้น จะอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ ให้ที่ประชุมรับทราบ แต่ตอนนี้นายชัยกลับขึ้นมาทำหน้าที่ประธานแล้ว ประธานทำอะไรลงไปขอให้รับผิดชอบด้วย
ขณะที่นายชัยชี้แจงว่า เมื่อสักครู่ตนได้มานั่งทำหน้าที่แล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ สามารถขึ้นมานั่งได้เพราะได้รับผ่านพิธีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ถือว่ารับตำแหน่งอย่างสมบูรณ์แล้ว และก่อนปิดประชุมจะมีการอ่านพระบรมราชโองการให้ที่ประชุมรับทราบ
ด้านนายชัยในเครื่องแบบชุดขาวเต็มยศ ได้เดินขึ้นมาบนบัลลังก์ประธาน ด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม ขณะที่สมาชิกได้ลุกขึ้นยืน โดยนายชัยได้กล่าวว่า เชิญนั่งตามอัธยาศัย และว่า หลังจากพระบรมราชโองการแล้ว ตนได้มานั่งรออยู่ที่นั่งส.ส. คิดว่าจะขึ้นมานั่งบนบัลลังก์ และจะมีการอ่านพระบรมราชโองการฯ ให้ที่ประชุมทราบ แต่ด้วยภาระที่สภากำลังพิจารณาญัตติจึงไม่สามารถอ่านพระบรมราชโอกงการได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่นายชัยกำลังพูด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยกมือ ประท้วง แต่นายชัยไม่อนุญาตให้พูด และยังกล่าวกับ นายนิพิฏฐ์ว่า ผมยังพูดไม่จบขอผมพูดให้จบแล้วค่อยแซว ขอให้เก็บไว้ในใจก่อน แล้วค่อยแซวทีหลัง น้องที่รัก แล้วผมเต็มที่กับท่าน อย่าพึ่งทดลองเลย
อย่างไรก็ตามก่อนที่นายชัยจะลุกจากบัลลังก์ให้มอบให้นายสมศักดิ์ทำหน้าที่ ประธานต่อ โดยกล่าวว่าจะเดินทางไปร่วมงานฌาปนะกิจศพมารดาพ..อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่2 อย่าพึ่งรีบปิดสภา เพราะตนจะกลับมาอีกครั้ง
เมื่อนายสมศักดิ์ทำหน้าที่ต่อ นายนิพิฏฐ์ได้ประท้วงอีกว่า สิ่งที่นายชัยทำนั้นผิด ซึ่งตน อยู่ในสภานี้มานาน อยากให้ประธานสภามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตนไม่เคยพบลักษณะเช่นนี้มาก่อน ที่อยู่ๆ ประธานขึ้นทำหน้าที่ก่อนมีการอ่านพระบรมราชโองการ ให้ที่ประชุมรับทราบ และตรงนี้จะเป็นจุดเสื่อมเสียของประธานและสภา
ไม่ทราบใครแต่งชุดขาวขึ้นไปนั่งตรงนั้น ผมเชื่อว่าท่านชัยได้เป็นประธาน บรรลุเป้าหมายแน่ แต่การกระทำวันนี้ไม่มีเกียรติ ทำไมต้องรีบอย่างนั้น แม้ท่านชัยผ่านการลงมติของสภาแล้ว แต่ทำไมไม่รออ่านพระบรมราชโองการ ฯ ทำไมทำอย่างนั้น ควรให้ที่ประชุมพิจารณาญัตตินี้ให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์ ทำไมไม่อ่านพระบรมราชโองการก่อน
ซึ่ง นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า ตนมีส่วนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ ถือว่ามีการรับพระรมราชโองการถูกต้องแล้ว และจะได้พิมพ์แจกหนังสือต่อสมาชิก หากมีอะไรผิดพลาด ขอรับผิดชอบเอง ทำให้นายนิพิฏฐ์ ได้พยายามถามหาความรับผิดชอบ เมื่ออ่านพระบรมราชโองการ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการ แล้วเชิญประธานขึ้นนั่งบัลลังก์ เราทำอะไรลวกๆ มากในสภาแห่งนี้ ใครขึ้นไปพูดอะไรไม่รู้เลอะเทอะ ตนว่าวิปริตแน่ เกิดอาเพศกับสภานี้แน่ ต้องอ่านพระบรมราชโองการ ก่อน นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า เป็นหน้าที่ของประธานที่ต้องดำเนินการ ตนเชิญนายชัยขึ้นมา
ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนพยายามอภิปรายสนับสนุนการทำหน้าที่ของ นายสมศักดิ์ เช่น นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน โดยอ้างว่า การพิจารณาข้อบังคับการประชุมเป็นเรื่องสำคัญ หากเสนอเรื่องอื่นขึ้นมก็จะทำให้ญัตติตกไป และเมื่อประธานฯเห็นว่ามีพระบรมราชโองการฯแล้ว แม้ไม่ได้อ่านในที่ประชุม ก็เชิญประธานสภาฯขึ้นมาทำหน้าที่ได้
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า มีสมาชิกใหม่มาอภิปรายแนะนำ เช่น นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.พรรคพลังประชาชนและคนอื่นๆ ตนคิดว่า ไม่ใช่สิ่งควรปฏิบัติ เพราะสมาชิกสภา ที่อยู่มานานรู้ข้อบังคับ และประเพณี ทั้งนี้ตนได้ประท้วงนายชัย แล้ว แต่ไม่เปิดโอกาสให้พูด ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ นอกจากนี้ภาคราชการต้องกล้าแนะนำธรรมเนียมที่ถูกต้องกับฝ่ายการเมืองด้วย ฉะนั้นเลขาฯสภาต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย พร้อมทั้งนายสมศักดิ์ และนายชัย ต้องขออภัยและยอมรับว่าทำสิ่งไม่บังควร เพราะนอกจากกฎหมายแล้ว ประเพณีที่เกี่ยวกับสถาบันต้องให้ความสำคัญ ทั้งนี้เมื่อนายสมศักดิ์ กล่าวขอโทษ เรื่องก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนสับสนพอสมควรว่า ต้องรับผิดชอบแค่ไหน แต่ฟังนายนิพิฏฐ์ แล้วก็สบายใจขึ้น คนเราผิดพลาดกันได้ ผมก็ยอมรับความผิดพลาด และขอให้เรื่องจบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ามีความเคารพเทิดทูนสถาบันอย่างที่พูดกัน ก็ขอว่า อย่าเอาไปขยายความให้กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท ผมกราบขอโทษที่ประชุมอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดำเนินต่อไปจนถึงเวลา 18.30 น. นายชัย ได้ขึ้นมาทำหน้าที่บนบัลลังก์ประธานแทนนายสมศักดิ์ อีกครั้งแต่ถูกนาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงและทวงถามข้อหารือ ที่นายสมศักดิ์ระบุว่าหลังพิจารณาญัตติเสร็จสิ้น จะอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ ให้ที่ประชุมรับทราบ แต่ตอนนี้นายชัยกลับขึ้นมาทำหน้าที่ประธานแล้ว ประธานทำอะไรลงไปขอให้รับผิดชอบด้วย
ขณะที่นายชัยชี้แจงว่า เมื่อสักครู่ตนได้มานั่งทำหน้าที่แล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ สามารถขึ้นมานั่งได้เพราะได้รับผ่านพิธีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ถือว่ารับตำแหน่งอย่างสมบูรณ์แล้ว และก่อนปิดประชุมจะมีการอ่านพระบรมราชโองการให้ที่ประชุมรับทราบ