“ยุวดี ธัญญศิริ” ยันสื่อไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจกับนายกฯ สับแหลกโฆษกรัฐบาลทำงานแสนห่วย ด้านเลขาฯ สมาคมนักข่าวนักชี้ปัญหานายกฯ กับสื่อ เกิดจากตัวนายกฯ เอง วอนเห็นใจช่วงนี้เขียนข่าวแสนยาก เหตุนายกฯ พูดจาไม่ค่อยเป็นสาระ มัวคุยเรื่องความคิดของตัวเองที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
ต่อกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี งดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะถูกสังคมสื่อต่อว่าเรื่องการใช้ถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย ซึ่งต่อมาแม้จะมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้นายสมัครปรับท่าทีต่อนักข่าวเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แต่นายสมัครก็ยังยืนยันว่าการพูดของตนไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไร ซึ่งจนถึงวันนี้การให้ข้อมูลต่างๆ ของรัฐบาล จะเป็นหน้าที่ของทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวนายสมัครเองจะใช้เพียงรายการสนทนาประสาสมัครเป็นช่องทางเดียวในการพูดคุยให้ข้อมูลต่อประชาชนโดยตรง
วันนี้ (13 พ.ค.) นางยุวดี ธัญญศิริ ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และผู้ทรงคุณวุฒิสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ถามจริง-ตอบตรง” ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดยนายจอม เพชรประดับ ถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องที่นายกไม่ให้สัมภาษณ์สื่อนั้น ทางผู้สื่อข่าวเองคงไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจกับตัวนายกเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่รุนแรง เชื่อว่าหากปล่อยเวลาไปสักระยะหนึ่งสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้นเอง
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่านายสมัครควรจะปรับท่าทีของตนเองใหม่ เพราะถึงแม้กิริยาดังกล่าวจะเป็นบุคลิกส่วนบุคคล แต่เมื่อนายสมัครก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศแล้ว ก็ควรที่จะต้องมีการปรับปรุงบ้าง หากเห็นว่าสิ่งใดที่ไม่ดีก็ควรจะปรับตัวให้ดีขึ้น เพราะผู้นำประเทศถือเป็นหน้าตาของบ้านเมือง บุคลิกโดยรวมทุกอย่างจะบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือทั้งต่อคนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งลักษณะการพูดการจาในลักษณะที่ไม่ยอมปรับปรุงนี่เองเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดปัญหา
นางยุวดี กล่าวด้วยว่า หากจะเปรียบเทียบกับนายกฯ คนอื่นๆ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าต่างจากรัฐบาลสมัยนี้มาก เช่นสมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโฆษกถือว่าดีมาก เพราะตัวโฆษกเป็นคนที่จับประเด็นได้ดี รู้ว่าควรจะนำอะไรมาแถลงต่อสื่อเพื่อให้นำไปทำเป็นข่าวได้ การวางแผนในการให้ข่าวก็มีการจัดระบบที่ดี ซึ่งต่างจากตอนนี้ที่เริ่มเละ สังเกตได้จากการแถลงข่าวของโฆษกรัฐบาลชุดนี้ ก็แถลงข่าวโดยการมานั่งอ่านข้อมูลในกระดาษให้ฟัง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ควรเป็นเช่นนั้น เพราะการอ่านข้อมูลจากกระดาษผู้สื่อข่าวอ่านเองก็ได้ ควรจะสรุปใจความสำคัญ ประเด็นที่ต้องการนำเสนอมาพูดให้สื่อฟังมากกว่า
ด้าน นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ท่าทีของนายสมัครที่แสดงต่อสื่อนั้นควรมีการปรับปรุงเพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการคุกคามสื่อ แม้ว่านายสมัครจะกล่าวว่าไม่ได้คุกคามสื่อเพราะถ้าคุกคามสื่อต้องสั่งปิดหนังสือพิมพ์นั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่ เพราะตามรัฐธรรมนูญระบุไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่าไม่สามารถสั่งปิดหนังสือพิมพ์ได้ การคุกคามในรูปแบบนี้ก็คงไม่มีแน่นอน แต่การคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ก็คือ การใช้คำพูดที่ไปลดความน่าเชื่อถือของสื่อ การใช้กิริยาท่าทาง การใช้วิธีการตอบโต้คำถาม ดูถูกภูมิปัญญานักข่าว ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เป็นการขัดขวางการทำหน้าที่ของสื่อโดยตรง แต่ก็มีผลโดยตรงกับการลดความน่าเชื่อถือของสื่อ ซึ่งหากปล่อยไปนานเข้าสังคมอาจจะเชื่อ และเข้าใจผิดต่ออาชีพสื่อจนกลายเป็นปัญหาในระยะยาว
อีกทั้งการที่นายสมัครดำรงตำแหน่งเป็นบุคคลสำคัญถึงระดับนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประมุขฝ่ายบริหารเป็นตัวแทนอำนาจอธิปไตย ดังนั้นคำพูดของนายกจึงมีความหมายมากต่อสังคม หากการพูดดี แสดงกิริยาที่ดีแล้วทำให้สังคมเชื่อถือและเชื่อมั่นก็เป็นสิ่งที่สมควรจะทำ
นอกจากนายสมัครจะต้องปรับท่าทีของตัวเองแล้ว ตนคิดว่านายสมัครควรปรับวิธีการให้ข้อมูลด้วย เพราะที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเขียนข่าวที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์นั้นเขียนยากมาก เพราะนายกฯ พูดไม่ค่อยมีข้อมูล ไม่มีประเด็นที่ชัดเจนว่าต้องการจะสื่อสารอะไร หรืออยากบอกอะไรกับประชาชน ส่วนใหญ่คำสัมภาษณ์จะเป็นข้อมูลในด้านความรู้สึกหรือความเห็นของตัวนายสมัครเองเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาที่เป็นส่วนของสาระนโยบายที่เป็นประโยชน์จะมีน้อยมาก และตนก็อยากจะยืนยันว่านักข่าวไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับนายสมัคร เพียงแต่อยากให้นายสมัครมีการปรับตัวบ้าง
“พวกเราไม่มีปัญหาใดๆ กับนายกฯ สมัคร เรายินดีทำงานและไม่ได้ขัดแย้ง นักข่าวไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดนายกฯ แต่ปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวนายกฯ สมัครเอง ไม่ได้มาจากตัวนักข่าวเลย วิธีการสื่อสารแบบนายกฯ สมัครนั่นแหละที่ทำให้เกิดปัญหา” นายประดิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายรายการยังได้นำเทปคำให้สัมภาษณ์ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวถึงบุคลิกของนายสมัครว่า นายสมัครเป็นผู้นำที่มีบุคลิกที่มีแบบฉบับเป็นของตัวเอง เป็นนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจง่ายที่สุดท่านหนึ่งตั้งแต่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีมา ซึ่งหากใครเคยติดตามการทำงานของนายสมัครมาตั้งแต่เล่นการเมืองใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าจนถึงวันนี้แม้ระยะเวลาผ่านนาน นายสมัครก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยบุคลิกที่เป็นคนตรงไปตรงมาก็อาจจะทำให้บางกลุ่มไม่พอใจไปบ้าง แต่ตนยืนยันว่าหากใครได้อยู่ใกล้ชิดกับนายสมัครจะรู้ได้ว่านายสมัครนั้นเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่พร้อมจะให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะกับทุกฝ่ายด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ และตนก็ภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีคนนี้
