xs
xsm
sm
md
lg

“วีระ” แฉแหลก “พลังแม้ว” สุดแตกแยก-ส.ส.อีสานปูดข้อมูลวุฒิปลอมเลื่อยเก้าอี้ “สุธา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วีระ สมความคิด” แฉ ภายในพรรคพลังประชาชน สุดแตกแยก แย่งชิงอำนาจกันเอง ถึงขั้นปูดข้อมูล วุฒิการศึกษาปลอมของ รมว.พัฒนาสังคมฯ “สุธา ชันแสง” จนเจ้าตัวต้องไขก๊อกลาออก-ชี้ เลือก ปู่ชัย เป็นประธานสภา เพราะไว้ใจได้ว่าจะคุมการแก้ รธน.อย่างราบรื่น


คลิกที่นี่เพื่อฟังรายการ ค้นคนโกง

วันนี้ (10 พ.ค.) นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ค้นคนโกง” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี นิวส์วัน ดำเนินรายการโดย นายกานต์ จอมอินตา ถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน เสนอ นายชัย ชิดชอบ เป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ลาออกไป เนื่องจากมีปัญหาคดีทุจริตการเลือกตั้ง โดย นายวีระ กล่าวว่า ณ ขณะนี้ถึงแม้ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนจะออกมาบอกว่า การเลือก นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ส.ส.ในพรรคจะไม่มีใครขัดแย้งแต่ตอนนี้ก็เริ่มมีกระแสต่อต้านออกมาแล้วเช่น นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ซึ่งเป็น ส.ส.ในกลุ่มของ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ออกมาเหน็บแนมว่า หากพรรคจะเลือกนายชัยเป็นประธานสภาจริง ตนจะขอให้มีรองประธานสภาเป็นผู้หญิง คอยถือถังออกซิเจน และยาดม คอยเดินตาม นายชัย เพราะ นายชัย มีความอาวุโสมากเกินไป

กรณีดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่า แท้จริงแล้ว การเมืองภายในพรรคพลังประชาชนมีความรุนแรง เพราะยังมีความแตกแยกอยู่มาก คนในพรรคแบ่งเป็นก๊ก เป็นเหล่า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการแย่งชิงอำนาจกัน รวมไปถึงแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันเอง เช่น ในกรณีการตั้งข้อสังเกตว่า วุฒิการศึกษาของ นายสุธา ชันแสง รมว.พัฒนาสังคมฯ เป็นวุฒิการศึกษาที่ถูกต้องหรือไม่ จนในที่สุดนายสุธา ก็ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้วนั้น นายวีระ กล่าวว่า “ตอนนี้มีข้อมูลยืนยันว่า สส.กลุ่มอีสาน ของพรรคพลังประชาชนเอง เป็นผู้เอาข้อมูลดังกล่าวไปให้ผู้สื่อข่าว เพราะเรื่องนี้หากไม่มีคนในเอามาเปิดเผย ก็คงไม่มีใครรู้”

นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 จะถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีบทบาทที่ชัดเจน ในขณะที่ นายชัย ยังไม่มีบทบาทที่เห็นได้ชัดเจน อาจจะพบบ้าง ก็คือ กรณีช่วยไกล่เกลี่ย เมื่อตอน นายการุณ โหสกุล สส.พรรคพลังประชาชน เข้าไปถีบ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่การไกล่เกลี่ยแบบนั้นก็ถือว่าไม่สมควร เพราะการไกล่เกลี่ยโดยเข้าไปกอดคอ นายการุณ ออกมาแล้วทำหน้าตายิ้มแย้ม คล้ายกับเป็นการปกป้อง ส.ส.ฝ่ายของตัวเอง ดูแล้วเหมือนกับคนที่ยุให้ นายการุณ กระทำการดังกล่าว ซึ่งหากจะต้องมีประธานสภาที่มีพฤติการณ์แบบนี้ก็คงมีปัญหา

นอกจากนี้ นายชัย ก็ยังถูกดำเนินคดีเรื่องการบุกรุกที่ดินใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการสอบสวนหาความจริง ซึ่งก็ยังไม่มีผลระบุออกมาอย่างชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งหากมีการตัดสินว่าผิดจริงก็ต้องออกจากตำแหน่ง เหมือนอย่างนาย ยงยุทธอีก และถึงแม้นายชัย จะออกมาปฏิเสธว่า ถึงแม้ลูกชายจะสนิท กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ตนเองก็ไม่เคยไปขอ ตำแหน่งประธานสภา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายวีระกล่าวว่า การพูดนั้นใครก็พูดได้ เพราะเราไม่ได้ไปรู้ไปเห็น แต่ตนเชื่อว่าถ้าเวลาผ่านไป ความจริงก็จะปรากฏเอง

“เรื่องดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่าพรรคพลังประชาชน ไม่ได้ต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถ หรือความเหมาะสมมาทำงาน แต่ต้องการคนที่ไว้ใจได้ เป็นคนที่นายสั่งมา หรือเรียกว่ามีสายตรง เพราะก็เป็นที่ทราบกันดีว่า นายเนวิน ชิดชอบ ลูกชายของนายชัย ก็ถือเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นทางพรรคจึงเลือกนายชัย เพราะน่าจะเป็นบุคคลที่ไว้ใจได้มากที่สุด ว่าจะมาเป็นประธานสภาเพื่อให้ขับเคลื่อนการแก้ไข รธน.ให้เป็นไปอย่างราบรื่นได้”

นายวีระ ยังได้กล่าวถึงบุคคลในตระกูลชิดชอบ ว่า ในรัฐบาลชุดนี้ ตระกูลชิดชอบได้รับเลือกให้มีตำแหน่งทางการเมืองหลายคนทั้ง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชาย นายเนวิน ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนางกรุณา ชิดชอบ ภรรยา นายเนวิน ที่ล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นนายก อบจ. บุรีรัมย์ และมีการตั้ง นายพรชัย ศรีสุริยัน เป็นรองนายก อบจ. คนที่ 1 ทั้งที่นายพรชัย ถูกใบแดงจาก กกต.จากการเลือกตั้ง สส.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.50 แต่ก็ยังสามารถไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อีกทั้งที่จริงแล้ว การถูกใบแดงจะต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างน้อย 5 ปี แต่ กกต.ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปว่า กกต.จะสามารถเอาผิดกับเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่

กำลังโหลดความคิดเห็น