พลังแม้วสยบข่าวลูกกรอกกระเพื่อม แบะปาก “ชัย” ขึ้นแท่นประมุขนิติบัญญัตติ ขู่หากอยู่ร่วมพรรคไม่ได้ หากไม่เคารพมติกรรมการพรรค เรียกประชุม ส.ส.นัดพิเศษ อบรมก่อนเสนอชื่อต่อสภา 14 พ.ค.นี้
วันนี้ (9 พ.ค.) ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคพลังประชาชน เรียกประชุม ส.ส.นัดพิเศษ ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบเสนอ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.สัดส่วนเป็นตัวแทนพรรค ไปเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เท่าที่ตรวจสอบยังไม่มีความชัดเจน ว่า จะมีการประชุมสภานัดพิเศษวันที่ไหน เพราะไม่มีเอกสารเชิญประชุมสภานัดพิเศษ ดังนั้น คงจะมีการประชุม ส.ส.วันที่ 13 พ.ค.นี้ และมีการประชุมสภา เพื่อพิจารณาเลือกประธานสภาในวันที่ 14 พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่ม ส.ส.อาวุโสภาคอีสาน และภาคกลาง ภาค กทม.ภาคเหนือ ภาคใต้ เตรียมเคลื่อนไหวอภิปรายนายชัยในที่ประชุม ส.ส.จะมีผลถึงขั้นเปลี่ยนมติกรรมการบริหารพรรคอย่างไร ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เป็นแค่ลีลาทางการเมืองเท่านั้น เมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมติอย่างไรแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงมติดังกล่าว เพราะไม่มีเงื่อนไขและปัจจัยให้ทำอย่างนั้น
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงมติ กลุ่ม ส.ส.เหล่านี้จะโนโหวต หรืออาจไปสนับสนุนคนของพรรคร่วมรัฐบาล ขึ้นเป็นประธานสภา ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ แต่ได้ยินข่าวการเคลื่อนไหวดังกล่าวเหมือนกัน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคจึงได้พูดในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า ตรงนี้อาจทำให้กระเพื่อมได้ กรรมการบริหารพรรค จึงชี้แจงว่า ถือเป็นวัฒนธรรมของพรรค แต่เมื่อแกนนำของพรรคที่ได้รับมอบหมาย และกรรมการบริหารพรรค ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม คงได้ข้อยุติ ถ้าสมาชิกคนใดยอมไม่ได้ และกระทำการดังกล่าว ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ที่มติพรรคไม่สามารถบังคับใครไม่ได้ แต่ถ้าใครแหกโผ แม้พรรคดำเนินการอะไรไม่ได้ เขาจะรู้สึกถึงการทำหน้าที่ที่ไม่สอดคล้องกับองค์กรเมื่อเป็นคนละแนวกับองค์กรแล้ว อาจทำให้อยู่ในองค์กรไม่ได้
เมื่อถามว่า รัฐบาลอาจถือโอกาสปรับ ครม.เอารัฐมนตรีที่ไม่มีผลงานออก พร้อมกับการหาบุคคลแทน นายสุธา ชันแสง ที่ลาออกจากตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคม ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องหาบุคคลไป รมว.พัฒนาสังคม ก่อน ส่วนการปรับ รมต.ที่ไม่มีผลงาน ต้องรอให้มีการทำงานอย่างน้อย 6 เดือนก่อนถึงจะมีการประเมินถึงช่วงนั้นถ้าใครไม่มีผลงานถึงจะเรียกร้องให้ปรับ ครม.ใหม่
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในส่วนที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุทำนองว่า รัฐบาล และ ส.ส.พรรคพลังประชาเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมาจากกลุ่มเดียวกันนั้น ตนขอร้องอย่าตีขลุม เพราะขณะนี้ยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และพรรคพลังประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว โดยรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ขณะที่การแก้รัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของรัฐสภา การทำงานของส.ส.รัฐบาลเป็นอิสระ ถ้ารัฐบาลผิดคำพูดโดยเข้ามาแทรกแซงไม่ว่าทางตรงหรืออ้อมก็สามารถตรวจสอบได้ สอดคล้องกับการหารือของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่เห็นไม่ตรงกับถึงประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภา แต่เห็นตรงกันที่รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ส่วนจะมีการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญทันการประชุมรัฐสภาสมัยนี้หรือไม่ เป็นเรื่องของรัฐสภา ไม่ได้เรื่องด่วนหรือไม่ด่วน และต้องรอมชอมฟังเสียงจากทุกฝ่าย ไม่มีธง เพราะมีบทเรียนมาแล้วว่า ถ้าไม่รอมชอมการเมืองอาจถึงทางตันได้