กลุ่มต้านยี้ห้อยยังดื้อ ลั่นรับ-ไม่รับ “ชัย ชิดชอบ” เป็นประมุขนิติบัญญัติบังคับไม่ได้ หยันยี้ห้อย มีบารมีเพราะเด็กในคาถาชนะเลือกตั้งในภาคอีสานเยอะ ชูแบบอย่าง “ยุทธ ตู้เย็น” มีมลทินยังลาออกจากตำแหน่ง
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน มีมติเลือก นายชัย ชิดชอบ เพื่อเสนอชื่อต่อที่ประชุม ส.ส.เพื่อเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา ที่ขอลาออกจากตำแหน่งไปว่า แม้กรรมการบริหารพรรคจะมีมติแต่ก็มีจำนวนไม่มาก หากเทียบกับจำนวน ส.ส.พรรค ซึ่งในการประชุมพรรคเมื่อวันอังคารที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นวาระสำคัญที่ ส.ส.ในพรรคจะอภิปรายหากมีความเห็นที่แตกต่าง และหากชี้แจงไม่ได้ก็ควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการซาวเสียงว่ายอมรับนายชัยหรือไม่ เรื่องนี้เหมือนเป็นเอกสิทธิ์ในสภาจะมาบังคับกันไม่ได้ เพราะในกรณีที่มีเสียงแตกต่างก็ต้องยอมให้ผู้แทนฯแสดงความคิดเห็น
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.หลายคนไม่พอใจที่ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มักจะเข้ามามีบทบาทในทุกๆ ด้านของพรรคนั้น นายไพจิต กล่าวว่า เข้าใจว่า ที่ นายเนวิน มีบารมี เพราะ ส.ส.ในกลุ่มได้รับเลือกตั้งเข้ามาเยอะ ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มของนายเนวินทั้งนั้น แต่ในภาคอีสานบางส่วนและในภาคอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยก็มี ดังนั้น ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งนายชัยเป็นประธานสภา จะต้องอธิบายคุณงามความดีของนายชัย เพราะคนทำงานสภาต้องมีความสง่างามเป็นหลัก ประธานสภาเมื่อขึ้นมามีอำนาจก็มีความสำคัญมากไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขได้
ด้าน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนและ ส.ส.ส่วนหนึ่งในพรรคมีความเป็นห่วงภาพลักษณ์ของ นายชัย ที่ นายยงยุทธ ลาออกจากตำแหน่งประธานสภา ก็เพราะกลัวกระทบตำแหน่งภาพลักษณ์ของประธานสภา แต่ตอนนี้เมื่อมีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคออกมาก็ขอให้สภาเดินต่อไปให้ได้ ส่วน ส.ส.จะดำเนินการอย่างไรนั้นขอไปคุยกันภายในกลุ่มก่อน