พลังประชาชน ส่อวุ่นไม่จบ ส.ส.เหนือ ดาหน้าออกมาทวงโควตาเก้าอี้ประธานสภา ลั่นไม่ได้เป็นประธานก็ต้องได้รองประธาน ขณะที่ ส.ส.อีสาน เสียว “ยี้ห้อย” ส่งพ่อเข้าชิง แนะพรรคจะเลือกใครต้องคำนึงถึงความรู้สึกของพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของ ส.ส.กลุ่มต่างๆ ภายในพรรคพลังประชาชน ที่พยายามผลักดันคนของตัวเองเพื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ที่ลาออกไปนั้น ขณะนี้กลุ่ม ส.ส.อาวุโสจากภาคอีสานที่มีประมาณ 48 คน ได้พยายามผลักดัน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ขณะที่กลุ่มของ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.อีสานนั้น พยายามผลักดันนายชัย ชิดชอบ ส.ส.ระบบสัดส่วน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.ภาคเหนือ พรรคพลังประชาชน พยายามผลักดัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในวันที่ 6 พ.ค.จะมีการประชุม ส.ส.ภาคเหนือ ดังนั้น จะมีการหารือกันถึงเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วองค์ประกอบของประธานสภา และรองประธานสภา นั้น จะมีตัวแทนจาก 3 ภาค ดังนั้น อย่างน้อยจะต้องมีตัวแทนจากภาคเหนือเข้าไปด้วย ซึ่งถ้าหากภาคเหนือส่งคนที่เหมาะสมก็น่าที่จะได้เป็นประธานสภา แต่ถ้าหากส่งคนระดับรองลงไปก็ควรที่จะได้เป็นรองประธานสภาฯ ส่วนจะส่งใครนั้นคงต้องรอการประชุม ส.ส.ภาคเหนือ ก่อน เพื่อซาวเสียงว่าใครจะได้เป็น
ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.ในกลุ่มของ นายเนวิน ชิดชอบ จะผลักดัน นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ว่า เป็นสิทธิที่จะเสนอได้ ส่วนเหมาะสมหรือไม่นั้น พรรคมีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะเป็นตำแหน่งที่ประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงมองอยู่ โดยเฉพาะในภาวะการเมืองหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ อีกทั้งยังจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกด้วย จึงจำเป็นต้องมีประมุขฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นหน้าเป็นตา และควรคำนึงถึงความรู้สึกของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านด้วย นอกจากนี้ การตั้งประธานสภาฯนั้นต้องมีมาตรฐานที่พัฒนาขึ้น คนที่ได้รับเกียรติตรงนี้ต้องเป็นความหวังของสังคมได้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่ม ส.ส.อาวุโสภาคอีสานส่วนหนึ่งให้การสนับสนุน นายสมศักดิ์ นายไพจิต กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว เป็นผู้น้อย มีเสียงสนับสนุนในพรรคไม่มาก แต่ก็เป็นคนมีความสามารถปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภา ด้วยความทุ่มเท ดังนั้น นายสมศักดิ์ ก็เป็นคนหนึ่งที่พรรคจะนำไปเทียบกับคนอื่น