“สุเมธ” สวนกลับดีเอสไอก้าวก่าย โวยมีอำนาจอะไรเรียก กกต.ไปแจงเหตุฮั้วบัตรเลือกตั้ง โยนคนกลางชี้ขาดอำนาจระหว่างองค์กร
วันนี้ (2 พ.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติยกคำร้องสำนวนการกล่าวหาว่าพรรคพลังประชาชน (พปช.) เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ว่า ตนได้ลงมติในสำนวนที่มีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธานว่า มีการกระทำที่พลังประชาชนเป็นนอมินีของไทยรักไทย แต่มองไม่มีกฎหมายเอาผิด เพราะเรื่องการเลือกตั้งถือเป็นถือเป็นกฎหมายมหาชนที่ไม่มีกฎหมายข้อใดเขียนความผิดเอาไว้ ซึ่งการที่เราจะมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนั้นจะต้องมีการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำความผิดของมาตรา 94 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง แต่กรณีนี้ดูแล้วไม่เข้าข่าย ดังนั้นตนจึงเห็นด้วยกับอนุกรรมการฯ และลงมติยกคำร้อง
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า จากที่ได้พิจารณาข้อมูลของคณะอนุกรรมการฯ สอบสวนมาก็ทราบข้อมูลว่า พรรคพลังประชาชนนี้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองมาตั้งแต่ปี 2541 แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการจดทะเบียนจัดตั้งก่อนที่พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบอีก ดังนั้น การจะมองว่า พปช.ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นนอมินีของ ทรท.ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก เมื่อถามว่า นายวีระ สมความคิด ในฐานะผู้ร้องจะยื่นดำเนินดคีต่อคณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายไพฑูรย์ เป็นประธาน เพราะเห็นว่าทำสำนวนไม่ดีจนมีผลให้ยกคำร้องนั้น นายสุเมธ กล่าวว่า ตนคิดว่าการทำแบบนี้ไม่น่าจะถูกนัก เพราะนายไพฑูรย์ได้รวบรวมข้อมูลจนพบว่า พปช.มีการกระทำที่เป็นนอมินีของ ทรท. แต่ไม่มีกฎหมายเอาผิด ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือเป็นข้ออ่อนของกฎหมาย โดยหลังจากนี้หากใครไม่เห็นด้วยกับการลงมติของ กกต.หรือเห็นว่ามีกฎหมายเอาผิดได้ก็ขอให้เสนอเข้ามา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็พยายามจะถามสังคมแล้วว่ามีกฎหมายใดเอาผิดหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ
นายสุเมธ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สำนักงาน กกต.ส่งเอกสารเพื่อประกอบการสอบสวนกรณีที่ถูกร้องเรียนว่า ฮั้วบัตรเลือกตั้งภายใน 30 วันและจะออกหมายเรียกให้ กกต.ไปชี้แจงว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวเห็นว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการเรียกเอกสารจาก กกต.และไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ กกต. หากดีเอสไอออกหมายเรียกให้ไปชี้แจง เราก็ต้องให้ถามว่าดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ โดยเห็นว่าควรมีคนกลางมาตัดสินอำนาจระหว่างองค์กรพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าดีเอสไอมีอำนาจตรวจสอบ กกต.หรือไม่
“ผมนึกไม่ออกว่า กกต.จะฮั้วบัตรเลือกตั้งได้อย่างไร เพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานที่ กกต.และมีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้ง เราก็มีการเปิดประมูล ซึ่งเมื่อได้ 2 บริษัทที่จะมาพิมพ์บัตรเลือกตั้งแล้วเราก็ได้แยกสัญญาออกเป็น 2 สัญญา อีกทั้งยังได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อติดตามการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเป็นการเฉพาะ ดังนั้น การจะบอกว่ามีการฮั้วบัตรเลือกตั้ง จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” นายสุเมธ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ กกต.มีมติให้ใบแดงกับนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า กกต.กลางยังไม่ได้ลงมติให้ใบแดงกับใคร ซึ่งการประชุมที่ผ่านมา กกต.ก็ได้ยกคำร้องข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง ส.ส.ไป 21 สำนวน ก็ไม่ปรากฏชื่อของนายวิฑูรย์แต่อย่างใด