เผยเหตุ “ยุทธ” ทิ้งเก้าอี้ไม่ใช่สิปิริต แต่โดนแกนนำ พปช.บีบให้ลาออกจากตำแหน่ง หวั่นเป็นตัวจุดประเด็นความขัดแย้งทางสังคม จำเป็นต้องระงับให้ยุติโดยเร็ว ขณะเดียวกัน เตรียมเปิดทางคนใกล้ตัว “แม้ว” ขึ้นแท่น ปธ.สภาคนใหม่เร็วๆ นี้
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยถึงการลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าแกนนำพรรคได้หารือกันมาหลายวันแล้วโดยไปขอให้นายยงยุทธลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวเพื่อลดแรงกดดันจากสังคม เพราะตอนนี้พรรคพลังประชาชนอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญดำเนินไปโดยดี
ฉะนั้น สิ่งต่างๆ ที่จะเป็นตัวจุดประเด็นความขัดแย้งทางสังคมก็ต้องระงับให้ยุติโดยเร็ว รวมทั้งการยุติการแถลงข่าวประจำสัปดาห์กับสื่อมวลชนของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีด้วย ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่พรรควางไว้เพื่อลดกระแสต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญส่วนตำแหน่งประธานรัฐสภานั้น แม้นายยงยุทธลาออกไปและต้องมีคนมาทำหน้าที่แทนนั้น ในตอนนี้ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการประธานรัฐสภา คือ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ซึ่งนายประสพสุขนั้นทราบกันดีว่าเป็นคนในสังกัดคมช.และไม่น่าจะยอมบรรจุญัตติการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญหรืออาจะดึงเรื่องไว้ให้นานที่สุด ฉะนั้น พรรคต้องวางแผนให้นายยงยุทธลาออกและเตรียมคัดบุคลากรในพรรคที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีภาพลักษณ์ที่สังคมเชื่อถือเข้ามาทำหน้าที่ประธานสภาฯ โดยเร็วที่สุด
มีรายงานว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนี้นั้น หลายกลุ่มในพรรคก็พยายามขอไว้ เบื้องต้นโควตานี้ยังเป็นของภาคเหนือของนายยงยุทธ โดยทราบว่านายยงยุทธจะผลักดันนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ ขึ้นเป็นประธานสภาฯ และเสนอนายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชนขึ้นเป็นรองประธานฯ แต่กลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มบุรีรัมย์ของนายเนวิน ชิดชอบ ก็จะผลักดันนายชัย ชิดชอบ ให้เข้ารับตำแหน่งนี้หลังจากหลุดโผไปในช่วงแรกเข้ามาแข่งขันด้วย
มีรายงานอีกว่า ข้อมูลทางการเมืองในอนาคตอันใกล้ที่แกนนำพรรคได้รับมาในเบื้องต้นตอนนี้นั้นทราบว่า พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย อาจหลุดคดีการยุบพรรคในชั้นการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่พรรคพลังประชาชนนั้นโอกาสน้อยกว่าสองพรรคดังกล่าว ฉะนั้น การที่พรรคต่างๆ แสดงความเห็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไม่สอดรับกับแนวทางของพรรคพลังประชาชนนั้น โดยเฉพาะมาตรา 309 นั้น ประเด็นนี้แกนนำพรรคต้องล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลให้ผ่านความเห็นมาตรานี้ให้ได้
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า บุคคลที่รับใช้ต่างพระเนตรพระกรรณตามที่นายยงยุทธอ้างถึงในการแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งนั้น คือ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เพราะทราบมาว่านายยงยุทธเคยไปพบและหารือในช่วงหลังการเลือกตั้งเพื่อหาทางออกความขัดแย้งทางสังคม แต่ตอนนั้นนายยงยุทธอ้างกับคนในพรรคว่านายสุเมธปฏิเสธข้อเสนอของนายยงยุทธทำให้การนัดหมายกับกลุ่มต่างๆ เพื่อยุติความขัดแย้งในสังคมต้องล้มเลิกไปในที่สุด