กกต.สุดทน ฮึ่มใส่ดีเอสไอ ยันไม่มีอำนาจตรวจสอบกรณีตรวจสอบพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ชี้ แต่ละสัญญามีมูลค่าไม่เกิน 100 ล้าน เตรียมเชิญมาทำความเข้าใจ ป้องกันสังคมเข้าใจผิด หลังจากให้ข้อมูลมั่ว
วันนี้ (30 เม.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำหนังสือเพื่อขอเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างในการพิมพ์เลือกตั้งเพื่อไปประกอบการพิจารณาของดีเอสไอ ว่า เรื่องดังกล่าวนั้น กกต.มีมติให้สำนักงานดำเนินการเป็น 2 แนวทาง คือ 1.ในกรณีที่ดีเอสไอขอให้ส่งเอกสารสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดการและเอกสารทุกประเภทให้ดีเอสไอนั้น กกต.ได้มีมติให้สำนักกฎหมายและคดีตรวจสอบอำนาจหน้าที่ของ กกต.และดีเอสไอ ว่า มีอำนาจตรวจสอบคดีฮั้วจัดซื้อบัตรเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า แต่ละสัญญาของกกต.มีมูลค่าไม่ถึง 100 ล้านบาท ดังนั้น เรื่องนี้จึงอยู่นอกเหนือการตรวจสอบของดีเอสไอ
2.จากการที่ พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย อดีตผู้บังคับการตำรวจป่าไม้ อ้างว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยละเว้นไม่ดำเนินการตรวจสอบการร้องคัดค้านทั้งที่ยื่นเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะภายหลังจากการยื่นคำร้องนั้น ฝ่ายสืบสวนสอบสวนฯ ของ กกต. ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการแล้วถึง 4 ชุด
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ กกต.จะเชิญ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ของดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้ากรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวมาหารือ เพื่อทำความเข้าใจ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุชาติ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มีข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจนทำให้ภาพพจน์กกต.เสียหาย ประกอบกับ กกต.มีมติห้ามตอบโต้ ดังนั้น การเชิญมาครั้งนี้จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น
“เราคงไม่ขอให้ดีเอสไอยุติการสืบสวนสอบสวน แต่จะทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการให้ข้อมูลแก่ประชาชน หากประชาชนเข้าใจผิดก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกกต.ที่ยากต่อการแก้ไข เพราะขณะนี้ กกต.ถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นจำเลย โดยกกต.ไม่เคยกลัวการตรวจสอบจากดีเอสไอ แต่อยากให้การสื่อสารข้อมูลถึงประชาชนเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง” นายสุทธิพล กล่าว
เลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ดีเอสไอตั้ง นายโคทม อารียา และนายยุวรัตน์ กมลเวช อดีต กกต.มาร่วมเป็นที่ปรึกษาอนุกรรมการของดีเอสไอนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทั้ง 2 คนถือเป็นอดีต กกต.ที่เป็นผู้วางระบบภายในสำนักงาน กกต.ซึ่งการจัดการภายในสำนักงานหลายๆ อย่างของ กกต.ชุดนี้ก็เดินตามแนวทางของ กกต.ชุดแรก
/0110