แพล็ททินัมฯ เอาคืน “วีรบุรุษนาแก” ยื่นข้อมูลฮั้วประมูลรถสายตรวจส่ง “จุฑาธวัช” เชือด แฉกำหนดทีโออาร์สกัดบริษัทอื่น เอื้อ “ไทเกอร์” ผ่านฉลุย จี้ สตช.ยุติส่งมอบรถ จนกว่า คกก.สอบเสร็จสิ้น
วันนี้ (27 เม.ย.) นายสมนึก วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการบริษัท แพล็ททินัมมอเตอร์เซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้กับ นายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหา ว่า ได้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง หลังจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดซื้อจักรยานยนต์ดังกล่าว
ในฐานะที่บริษัท แพล็ททินัมฯ เป็นผู้เข้าประมูลเพื่อประกวดราคา ซึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรงเกี่ยวกับการจัดซื้อดังกล่าว ต้องการให้คณะกรรมการทราบถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งความเป็นมา เหตุผลของการถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้บริษัทเข้าประกวดราคาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งข้อมูลที่มีการยื่นให้กับคณะกรรมการจะชี้ให้เห็นถึงกระบวนการ ในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจที่ได้ดำเนินไปสู่จุดหมายของการจัดซื้อโดยวิธีการพิเศษที่ได้มีการเตรียมการรองรับการจัดซื้อรถจักรยานยนต์กับบริษัท ไทเกอร์ เท่านั้น โดยเฉพาะขอบเขตของ TOR ที่มีการเอื้อต่อบริษัทคู่แข่งที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังมีการชี้ข้อพิรุธหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นว่ามีการดำเนินการจัดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ที่ผ่านมาบริษัทจะมีการอุทธรณ์กับทาง สตช.แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ และยังคงยืนยันตามมติเดิม นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะครบเกษียณอายุในเดือน ก.ย.2551 แต่การประมูลรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ กลับสร้างภาระงบประมาณผูกพันข้ามปีถึง 3 ปี อันเป็นการส่อแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาไม่สุจริตมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเงื่อนไขการให้คะแนนรถจักรยานยนต์จากการทดสอบสมรรถนะ ที่มีลักษณะการเลือกปฏิบัติ โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและคณะกรรมการที่ร่วมตรวจสอบคุณสมบัติ ที่มีความพยายามหาเหตุกลั่นแกล้งบริษัทอื่นๆ จนสุดท้ายไม่มีการประมูล เนื่องจากเหลือบริษัท ไทเกอร์ เพียงบริษัทเดียวที่ผ่านหลักเกณฑ์ จึงต้องใช้วิธีจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ
อย่างไรก็ตาม บริษัทขอเรียกร้องให้ทาง สตช.ยุติการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามสัญญาการส่งมอบรถไว้ก่อน จนกว่าผลการของคณะกรรมการชุดนี้จะดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้น หรือมีการดำเนินการจนถึงที่สุด พร้อมเรียกร้องให้คืนรถที่มีการส่งมอบให้กับโรงพักไปแล้วกว่า 200 คัน และทำการชำระเงินคืนให้กลับ สตช.เนื่องจากมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น
“แม้บริษัทจะถูกตัดสิทธิ์จากการดำเนินการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ แต่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะเงินภาษีอากรของประชาชนจะต้องไม่สูญเปล่า ต้องไม่ถูกบุคคลหนึ่งบุคคลใดโกงกินแม้แต่บาทเดียว โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นข้าราชการ การทุจริตในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ครั้งนี้เป็นประเด็นสำคัญยิ่งที่จะต้องดำเนินการเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และเมื่อกรณีเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบมาตั้งแต่ต้น ทุกอย่างจะต้องถูกระงับลงทันทีเพื่อมิให้นิติกรรมที่ถูกฉ้อฉลต้องดำเนินต่อไปผู้ที่มีส่วนร่วมในการทุจริตจะต้องได้รับโทษ” แหล่งข่าวกล่าว
