พันธมิตรฯ เตรียมแฉวาระซ่อนเร้น “พลังแม้ว” ยกม.237 และ 309 บังหน้าหวังแก้ไขรัฐธรรมนูญ50 อีกหลายมาตรา เพื่อผลประโยชน์ทางคดีให้นายใหญ่ เผยรอดูท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลถกสัปดาห์หน้า ระบุท่าไม่ดีอาจต้องใช้ถนนเป็นพื้นที่ชุมนุม เย้ย “เป็ดเหลิม” ดีแต่ปาก บอกจะดูแลพันธมิตรฯ อย่างดี แต่จนถึงตอนนี้แม้แต่ห้องน้ำยังไม่มาดูแล
วันนี้ (25 เม.ย.) ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ไฮไลต์สำหรับงานสัมมนาในวันนี้จะอยู่ที่ประเด็นการเปิดโปงวาระซ่อนเร้น และเบื้องหน้าเบื่องหลัง ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคพลังประชาชนที่พยายามจะหักดิบโดยที่ไม่สนใจเสียงทักท้วงทางภาคส่วนต่างๆ ในสังคมโดยเฉพาะวงเสวนาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 50
“เราจะชี้ประเด็นว่า นอกเหนือจาก 2 มาตรา ที่พรรคพลังประชาชนต้องการแก้ไขแล้วยังมีมาตราอื่นๆ อีกหลายมาตราที่พยายามจะแก้ไขใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้มาตรา 237 และ 309 เป็นข้อบังหน้า และจะชี้ให้เห็นว่า การแก้ไข 2 มาตราดังกล่าวและมาตราอื่นๆ จะมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างไร” นายสุริยะใส ระบุ
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การขึ้นปราศรัยของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งในครั้งนี้จะมีการประชุมก่อน แตกต่างจากครั้งที่แล้วที่ขึ้นปราศรัยไม่มีการประชุม ต่างคนต่างพูดอย่างฟรีสไตล์ ครั้งนี้จะมีการประชุมประมาณ 1 ทุ่ม เพื่อกำหนดท่าทีต่อรัฐบาลที่ยังไม่มีการทบทวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.เอง ก็ได้ออกมาส่งสัญญาณเมื่อไม่นานว่าจะมีการทำรัฐประหารอีกเพื่อล้มปืนและทุน ในขณะเดียวกันต้องพิจารณาถึงคำกล่าวของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ระบุมีนายทุนอยู่เบื้องหลังของพันธมิตรฯ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทั้งหมด ถ้าจำเป็น แกนนำพันธมิตรฯ ก็อาจจะต้องมาชี้แจงหรือตอบโต้
ส่วนเงื่อนไขท่าทีของพรรคเพื่อแผ่นดินในการประชุมกลุ่มของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่พันธมิตรฯ ได้มีการประชุมก่อนหน้านี้ และประเมินสถานการณ์เป็นระยะ โดยคาดการณ์ว่า ท่าทีในการประชุมของ 6 พรรค ในสัปดาห์หน้าอาจมีผลให้พันธมิตรฯ ต้องปรับรูปแบบการเคลื่อนไหว อาจจำเป็นต้องลงถนนอีกครั้ง โดยจัดรูปแบบเป็นการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลหรือสนามหลวง รูปแบบการสัมมนาในร่มอาจไม่เพียงพอแล้ว
นอกจากนั้น นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่มีการสกัดการเดินทางการเข้าร่วมสัมมนาของพันธมิตรชลบุรีว่า ขบวนการดังกล่าวได้บีบเจ้าของรถทัวร์ที่ได้มีการว่าจ้างไว้แล้วไม่ให้รับงาน ทางพันธมิตรฯจึงได้เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้ แต่ก็ยังมีการตั้งด่านสกัด มีการเรียกคนขับรถไปทำประวัติ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่าจะอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีทั้งการเดินทาง ห้องน้ำสุขา แต่กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เป็นไปตามนั้น